xs
xsm
sm
md
lg

“โตโต้” โหมเจาะลูกค้าโครงการเพิ่มผลกำไรผ่านตัวแทนจำหน่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายซาโตรุ เดกุจิ
TOTO ทุ่มลงทุน 20 ล้านบาท เปิดตัวโชว์รูมสาขาเพลินจิต หวังเร่งสร้างแบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าตลาดบน เผยปี 56 เพิ่มงบทำตลาด-ประชาสัมพันธ์อีก 5% แจงเป้าขายทั้งปี 510 ล้านบาท แย้มอาจจูงใจให้กำไรผ่านตัวแทนจำหน่าย หวังขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น

นายซาโตรุ เดกุจิ ผู้จัดการทั่วไป สำนักงานผู้แทนโตโต้ ลิมิเต็ด บริษัท โตโต้ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งถือหุ้นบริษัท สยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์ ตราสินค้า TOTO กล่าวว่า โตโต้มีแผนจะขยายโชว์รูมในภูมิภาคอาเซียนเพิ่ม 7 สาขา ใน 5 ประเทศ เช่น เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน เป็นต้น ล่าสุด ได้ใช้งบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท เปิดโชว์รูมแสดงสินค้าในไทย ในอาคารคิว-เฮ้าส์ เพลินจิต ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ลงทุนเองทั้งหมดในภูมิภาคเอเชีย ต่างกับบางประเทศที่จะร่วมทุนเพื่อเปิดโชว์รูมแสดงสินค้า

“การขยายโชว์รูมสาขาในแต่ละประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้าของ TOTO ในตลาดบน และรองรับการเปิดเออีซีในอนาคต โดยในปี 2556 บริษัทจะเพิ่มงบการทำตลาดของ TOTO อีก 5% เพื่อสร้างการรับรู้ของกลุ่มลูกค้าตลาดในไทยให้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ไทยจะเป็นตลาดหลักในภูมิภาคนี้ และเป็นศูนย์กระจายสินค้าไปในประเทศต่างๆ เนื่องจากโรงงานที่มีอยู่ เมื่อมีการเปิดเออีซีขึ้น จะทำให้การกระจายสินค้าไปยังแหล่งต่างๆ ทำได้ไม่ยาก”

เนื่องจากลูกค้าในประเทศไทยมองว่าสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเป็นของดีจะต้องมีราคาแพง ดังนั้น ในการทำตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยของ TOTO จึงเป็นเรื่องยาก การสร้างความเข้าใจ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยจึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ในสินค้า และคุณสมบัติของสินค้า TOTO อย่างต่อเนื่อง”

สำหรับภาพรวมตลาดสุขภัณฑ์ คาดว่าในปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 56 จะยังคงที่ เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวก หรือปัจจัยลบเป็นพิเศษเข้ามากระทบตลาดอย่างชัดเจน คาดว่าทั้งปีตลาดรวมจะขยายตัวอยู่ที่ 5% ต่อปี ส่วน TOTO คาดว่าเฉพาะไตรมาสสุดท้ายบริษัทจะมียอดขายประมาณ 170 ล้านบาท คาดทั้งปีอยู่ที่ 510 ล้านบาท เติบโต 20% โดยรายได้ส่วนใหญ่ 55% มาจากตลาดโครงการ อีก 45% มาจากการขายหน้าร้าน

“ลูกค้าโครงการจะเป็นตลาดหลักที่จะให้น้ำหนักเป็นพิเศษ และมากขึ้น โดยจะเข้าไปสนับสนุนผู้แทนจำหน่ายผ่านการให้ส่วนต่างผลกำไรให้มากขึ้น เพื่อจูงใจ และสร้างโอกาสแข่งขันกับคู่แข่ง”.
กำลังโหลดความคิดเห็น