xs
xsm
sm
md
lg

10 ต้นแบบสุดฮ็อตแห่งปี 2011

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บนเวทีมอเตอร์โชว์ระดับโลกไม่ได้มีแค่การเปิดตัวรถยนต์ในสายการผลิตรุ่นใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังมีรถยนต์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยจินตนาการอย่างยานยนต์ต้นแบบมาจัดแสดงสร้างเสียงฮือฮาและเรียกความสนใจด้วย ซึ่งบางรุ่นก็ได้รับการต่อยอดในการพัฒนาจนนำไปสู่การผลิตจริงในเวลาต่อมา

สำหรับ 10 อันดับรถยนต์ต้นแบบเด่นแห่งปี 2011 ที่ทีมงานASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง คัดเลือกมานั้นจะมีอะไรบ้างลองมาดูกันได้เลย


1.Nissan JUKE-R : โปรเจกต์สุดระห่ำของทีมงานนิสสัน ยุโรป ซึ่งได้จัดการนำเอสยูวีขนาดซับคอมแพกต์มาจับคู่กับระบบขับเคลื่อนของรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ของค่ายอย่าง GT-R โดยงานนี้เรียกว่ามีการปรับปรุงและพัฒนาตัวรถกันครั้งใหญ่ ทั้งการเปลี่ยนรูปแบบของการติดตั้งเครื่องยนต์จากเดิมเป็นแบบวางขวางขับเคลื่อนล้อหน้า มาเป็นแบบวางตามยาวและขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อรองรับกับขุมพลังแบบวี6 3800 ซีซี เทอร์โบคู่ที่มีม้ามากกว่า 400 ตัวของ GT-R

งานนี้เรียกว่าไม่ได้แค่ผลิตและพัฒนาขึ้นมาเพื่อการจัดแสดงเท่านั้น แต่ตัวรถยังสามารถแล่นและใช้งานได้จริง ซึ่งหลังจากที่เผยโฉมออกมาให้เห็นก็มีการนำออกมาทดสอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะแห่งความเร้าใจที่ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัวอีกด้วย


2.Volkswagen Bulli : เปิดตัวออกมาพร้อมกับสร้างเสียงฮือฮาว่าโฟล์คสวาเกนกำลังจะปัดฝุ่นนำความรุ่งเรืองของไมโครบัสกลับมาอีกครั้งเหมือนอย่างที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับนิวบีเทิลเมื่อปี 1998 แต่อย่างไรก็ตาม แม้ดูภายนอกหน้าตาของ Bulli จะมีความละม้ายกับไมโครบัส แต่งานนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้รับอิทธิพลในเชิงงานออกแบบ เพราะตัวรถมีขนาดเล็กกว่ามาก ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตรหรือเทียบแล้วก็ประมาณกลุ่มรถยนต์ซับคอมแพกต์ หรือ B-Car เท่านั้นเอง

การขับเคลื่อนมาในรูปแบบไฟฟ้าเพื่อรับกับกระแสความนิยมในรถยนต์ประเภทนี้ที่กำลังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระบบ EV ที่โฟล์คฯ นำมาใช้เป็นการเชื่อมต่อกันในรูปแบบของการขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ที่เรียกว่า E-Motor ขนาด 85 กิโลวัตต์ พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ส่วนหน้าที่ในการเก็บกระแสไฟฟ้าเป็นงานของแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนขนาด 40 kWh


3.Chevrolet Mi-Ray : Mi-Ray เป็นต้นแบบที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการผสมผสานระหว่างความสำเร็จในอดีตให้เข้ากับความล้ำสมัยเพื่อสื่อให้เห็นถึงการเป็นรถยนต์ในยุคหน้าได้อย่างชัดเจน โดยงานออกแบบภายนอกเป็นการนำรูปลักษณ์ของรถยนต์สุดคลาสสิคจากค่ายเชฟโรเลตอย่างรุ่น มอนซ่า SS ที่เปิดตัวในปี 1963 และคอร์แวร์ ซูเปอร์ สปายเดอร์ รุ่นปี 1962 ให้เข้ากันอย่างลงตัว

ตัวรถถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเน้นความสวยและเร้าใจในแบบโรดสเตอร์สุดล้ำ ด้านการออกแบบเป็นหน้าที่ของแผนก Advanced Design Studio ของ GM Korea โดยที่ชื่อรุ่นเป็นการนำคำในภาษาเกาหลีมาตั้งเพื่อสื่อให้เห็นเป้าหมายและแนวทางในการดำเนินงานของ GM Korea โดย Mi-Ray ในภาษาเกาหลีมีความหมายเดียวกับคำว่า Future หรืออนาคตในภาษาอังกฤษ

ที่น่าสนใจคือ รายละเอียดงานออกแบบจะถูกนำมาใช้กับคอร์เว็ตต์ใหม่ในรหัส C7 ที่จะเปิดตัวในปีหน้าตามที่มีข่าวออกมาหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป


4.BMW M3 Pickup : สร้างความฮือฮาอย่างมากสำหรับต้นแบบคันนี้ เมื่อบีเอ็มดับเบิลยูฉลองในวาระครบรอบ 25 ปีของรถยนต์ตระกูล M3 ด้วยการจับเอา M31 คูเป้มาดัดแปลงตัวถังให้เป็นปิกอัพ ด้วยการผสมผสานความเร้าใจและความอเนกประสงค์เข้าด้วยกัน โดยตัวรถใช้หัวเก๋งครึ่งหน้าร่วมกับรุ่นเปิดประทุน และถูกดัดแปลงให้สามารถตอบสนองความแปลกใหม่เพราะแผ่นหลังคาสามารถถอดออกเพื่อเป็นรถยนต์แบบเปิดหลังคาในแบบ Targa

น้ำหนักตัวรถลดลงจากรุ่นเปิดประทุนถึง 50 กิโลกรัม และหน้าที่ในการขับเคลื่อนเป็นงานของขุมพลังเบนซินวี8 4000 ซีซี ที่มีกำลังสูงสุดถึง420 แรงม้า ที่ 8,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ที่ 3,900 รอบ/นาที และจากการเปิดเผยของบีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าในระหว่างการทดสอบที่นูร์บูร์กริง M3 Pickup สามารถทะยานถึงความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ

งานนี้ไม่มีการผลิตขายในตลาด แต่เป็นผลผลิตสำหรับจัดแสดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


5.Jaguar C-X16 : ด้วยอายุการทำตลาดและรูปแบบของตัวรถ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทันทีที่จากัวร์เผยรายละเอียดของต้นแบบรุ่น CX-16 ที่เปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ออกมา จะถูกกระแสข่าวระบุอย่างชัดเจนเลยว่า นี่คือตัวตายตัวแทนของสปอร์ตระดับหรูรุ่น XK

C-X16 เป็นผลผลิตที่มาพร้อมกับความทันสมัยในด้านเทคโนโลยีของจากัวร์ โดยเริ่มตั้งแต่โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม มีความยาว 4,445 มิลลิเมตร โดยเป็นสปอร์ตเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง ที่มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังในระดับ 50:50 เน้นความทันสมัยด้วยขุมพลังแบบไฮบริด มีเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินแบบวี6 3000 ซีซี เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

เครื่องยนต์บล็อกนี้ผลิตกำลังออกมาได้ 380 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. หรือคิดออกมาแล้วมีอัตราส่วนความจุ 1 ลิตร ต่อกำลังขับเคลื่อนอยู่ที่ 126 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังอยู่ที่ 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 23.9 กก.-ม.


6.Mercedes-Benz F125! : ในวาระของการฉลองครบรอบ 125 ปีนับตั้งแต่คาร์ล เบนซ์พัฒนายานยนต์คันแรกออกมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เปิดตัวต้นแบบสุดล้ำสมัยในชื่อ F125! ออกมา โดยประเด็นหลักในการนำเสนอคือ สิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องการสะท้อนถึงมุมมองของพวกเขาต่อรถยนต์ในยุคหน้า ซึ่งนอกจากจะมีหน้าตาล้ำสมัย ตอบโจทย์ทั้งในด้านความสปอร์ต ความหรู และสมรรถนะในการขับเคลื่อนแล้ว ยังจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยภายใต้แนวคิด Look Ahead

นอกจากตัวถังที่มีความสวยและล้ำสมัยแล้ว อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ การแสดงให้เห็นถึงอนาคตของเทคโนโลยีเซลล์ เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell ที่ค่ายดาว 3 แฉกนำมาปรับปรุงและพัฒนาเพื่อติดตั้งในต้นแบบรุ่นนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยว่าจุดหลักที่ทำให้ตัวรถสามารถแล่นได้ไกลขึ้นมาจาก ระบบเซลล์เชื้อเพลิงที่ถูกดัดแปลงให้เป็นแบบ Plug-in หรือสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้

สมรรถนะในการขับเคลื่อนถือว่าเร้าใจพอตัว กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 0.79 กิโลกรัมต่อ 100 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับน้ำมันดีเซล 2.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 37 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว


7.Honda EV-Ster : สปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยว ซึ่งทางฮอนด้าบอกว่าจะเป็นแม่แบบในการสร้างสรรค์รถสปอร์ตแห่งอนาคต โดยตัวรถได้รับการพัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดในการผสมผสานระหว่างสิ่งที่เรียกว่า Joy of Driving หรือความสนุกสนานในการขับขี่เข้ากับ Electromotive Mobility หรือยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยที่ไม่สูญเสียจุดเด่นด้านใดด้านหนึ่งภายใต้รูปแบบตัวถังแบบสปอร์ต 2 ประตูเปิดหลังคามีความยาวในระดับเล็กกว่ารถยนต์ซับคอมแพกต์

หน้าที่ในการขับเคลื่อนเป็นงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งฮอนด้าไม่ได้บอกขนาดมา แต่ทว่าตอบสนองการขับเคลื่อนในแบบล้อหลังได้เป็นอย่างดี และมีอัตราเร่ง 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5 วินาที ส่วนระยะทางที่ทำได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งภายใต้โหมดการทดสอบของญี่ปุ่นที่เรียกว่า JC08 อยู่ที่ 160 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนขนาด 10 kWh และผลิตกำลังออกมาสูงสุด 58 กิโลวัตต์

สำหรับการชาร์จก็รอกันนานตามแบบฉบับรถยนต์พลังไฟฟ้า ซึ่งถ้าใช้ไฟแบบ 100V ก็นั่งรอได้เลย 6 ชั่วโมง และลดลงเหลือ 3 ชั่วโมง เมื่อใช้ไฟแบบ 200V ซึ่งตรงนี้ยังถือเป็นข้อจำกัดในด้านการใช้งานของรถยนต์พลังไฟฟ้า


8.Audi Urban Concpet : ผลผลิตของออดี้ที่นำเสนอทางเลือกใหม่ในการขับเคลื่อนสำหรับคนเมืองในยุคอนาคตที่ยังไม่ยอมละทิ้งความสปอร์ต ซึ่ง Urban Concept มาด้วยกัน 2 แบบคือ ตัวถังหลังคาแข็งที่เรียกว่า Sportback และอีกรุ่นเป็นแบบเปิดประทุนหรือ Spyder โดยตัวถังได้รับการพัฒนาและออกแบบอิงอยู่บนพื้นฐานแนวคิดในการนำเสนอรูปแบบใหม่ในการขับเคลื่อนที่ให้ทั้งความคล่องตัว ความสะดวกในการใช้งาน โดยที่ไม่ลืมแนวคิดของความสนุกสนานในการขับขี่ด้วย

หน้าที่ของการขับเคลื่อนเป็นชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ e-Tron 2 ตัว และมีแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน รับหน้าที่ในการเก็บกระแสไฟฟ้า โดยที่ออดี้ไม่ได้บอกถึงรายละเอียดทางเทคนิคของตัวระบบดังกล่าว

สำหรับการผลิตออกสู่ตลาดสำหรับต้นแบบรุ่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสค่อนข้างริบหรี่


9.Mitsubishi Global Small Concept : ต้นแบบซึ่งมีความเกี่ยวโยงและเกี่ยวข้องกับตลาดเมืองไทยโดยตรง เพราะในที่สุดจากตัวต้นแบบที่ถูดจัดแสดงในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็กลายมาเป็นความจริงจนได้ในช่วงปลายปี

เพราะต้นแบบรุ่นนี้คือ จุดเริ่มต้นของการพัฒนาที่นำมาสู่โปรเจกต์ Eco Car สำหรับขายในบ้านเรา ซึ่งมิตซูบิชินำออกจัดแสดงครั้งแรกในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 ภายใต้ชื่อมิราจ ส่วนบ้านเราจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมที่จะถึงนี้ จากนั้นก็จะเริ่มทำตลาดทันที โดยสเปกสำหรับตัวที่ขายในบ้านเรายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้

10.BMW 328 Hommage : น่าจะเรียกว่าเป็นปีทองของบีเอ็มดับเบิลยูในการเปิดตัวต้นแบบ เพราะนอกจากต้นแบบพลังไฟฟ้า 2 คันอย่าง i3 และ i8 แล้ว อีกคันที่ถูกเปิดตัวออกมาในช่วงปีเดียวกันคือ 328 Hommage ซึ่งเป็นการฉลองวาระครบรอบ 75 ปีของการก่อกำเนิดของรุ่น 328 ซึ่งในเวลาต่อมามีการพัฒนาเป็นตัวแข่งและคว้าชัยในการแข่งขันแรลลี่ชื่อดังอย่าง Mille Miglia เมื่อปี 1940

สำหรับต้นแบบรุ่นนี้เป็นการสะท้อนถึงงานออกแบบที่คงกลิ่นอายจากรถสปอร์ตรุ่นดังในอดีต แต่มีการปรับปรุงและสร้างสรรค์เพื่อให้สอดรับกับยุคสมัย โดยเฉพาะการแสดงแนวคิดที่ล้ำหน้าตามแบบฉบับรถยนต์ต้นแบบ พร้อมกับมีการผสมผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น