ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า “อีวี” ( EV-Electric Vehicle) เริ่มขยับใกล้ตัวเรามากขึ้น โดยหลายค่ายต่างพัฒนาโปรดักต์เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล หรือทดแทนรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน
สำหรับประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา เริ่มมีรถยนต์“อีวี” ขายกันอย่างจริงจัง ซึ่งล้วนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ขณะที่ประเทศไทยแม้จะดูห่างไกลในแง่ของการรับรู้ และการทำตลาดแบบแมส แต่จริงๆ แล้วทั้งภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เริ่มมีการระดมสมอง พร้อมทำพิมพ์เขียวเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันบ้างแล้ว
สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เตรียมแจ้งเกิดเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวสามของไทย ต่อจากปิกอัพ เก๋งเล็กอีโคคาร์ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษา และรอความพร้อมในการลงหลักปักฐานอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันในแง่ของผู้ผลิตเริ่มสร้างการรับรู้ เกี่ยวกับยานยนต์ประเภทนี้ควบคู่กันไป
ล่าสุด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดสัมมนาหัวข้อ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์” พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ลองขับ “ลีฟ” (Leaf) รถอีวีรุ่นดังของนิสสัน ซึ่งไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลก ที่ถูกเลือกให้เริ่มต้นโครงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้แผนสิ่งแวดล้อมใหม่ “นิสสัน กรีน โปรแกรม 2016”
ฮิเดโทชิ คาโดตะ หัวหน้าวิศวกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น บอกว่า นิสสัน ลีฟ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวโดยไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จึงไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศ อีกทั้งยังเงียบ ปราศจากมลภาวะทางเสียง
ด้านหัวใจขับเคลื่อนอย่างมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC 3 เฟส ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง เทียบเท่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 145 กม./ชม. ทั้งนี้ นิสสัน ลีฟ จะมีอินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่ควบคุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงการแปลงไฟจากกระแสตรงให้เป็นกระแสสลับ
ส่วนแบตเตอรี่แบบลิเธียม ไอออน น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด มีความจุ 24 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ให้พลังงานมากกว่า 90 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง การชาร์จไฟจนเต็มหนึ่งครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 160 กิโลเมตร บนความเร็วเฉลี่ย 80 กม./ชม.
ขณะที่รูชาร์จไฟจะติดตั้งอยู่บริเวณฝากระโปรงหน้า โดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง หลังจากไฟเตือนให้ชาร์จแบตเตอรี่ สำหรับการชาร์จไฟ 200 โวลต์ แบบการชาร์จปกติ และสามารถชาร์จเก็บได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที ในแบบควิกชาร์จ (ถ้าใช้ควิกชาร์จบ่อยๆ แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็ว)
ทั้งนี้อายุของแบตเตอรี่ที่หลายคนชอบตั้งคำถาม นิสสันก็เคลมแบบลูกผู้ชายว่า มีอายุ 5 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร ส่วนราคาขายตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่แพกละ 8 แสนเยน หรือประมาณ 328,000 บาท
นิสสัน ลีฟ ยังมาพร้อมglobal common ICT ระบบ on-board สนับสนุนการขับขี่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อมต่อบนจอ Navigation display โดยจะเข้าถึงเว็บไซต์โดยเฉพาะ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (รวมถึง smart phones) หรือคอมพิวเตอร์ พร้อมแสดงฟังก์ชั่นแผนที่แสดงผลพื้นที่ที่สามารถเดินทางไปถึง และฟังก์ชั่นคำแนะนำ-บอกถึงสถานีชาร์จไฟผ่านทางระบบนำทาง เมื่อความจุไฟฟ้าที่เหลือของแบตเตอรี่ลดลง
ตลอดจนฟังก์ชั่น ตัวตั้งเวลาชาร์จไฟ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลา ตามความต้องการของเจ้าของรถ เช่นในช่วงเวลาดึก เมื่ออัตราค่าไฟฟ้าถูกลง และฟังก์ชันเด่นๆอย่าง "การควบคุมอุณหภูมิระยะไกล" ผ่านทางรีโมทคอนโทรล สามารถเปิดระบบปรับอากาศด้วยมือถือได้ ก่อนที่คนขับจะขึ้นรถ
...นั่นเป็นจุดเด่นแบบย่อๆ ของ นิสสัน ลีฟ ซึ่งถึงวันนี้ทำยอดขายรวมทั่วโลกกว่า 20,000 คัน ส่วนประเทศไทยต้องถามใจรัฐบาลว่าจะเริ่มดีเดย์เมื่อไหร่ เพราะการที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะแจ้งเกิดได้ รัฐบาลต้องสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพื่อจูงใจผู้ผลิตรถยนต์ หรือภาษีนำเข้า-สรรพสามิต เพื่อสร้างดีมานด์ กับราคาขายที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น