ข่าวต่างประเทศ-นิสสัน ยื่นผลประกอบการประจำปี 2553 ให้แก่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีตัวเลขผลกำไรอยู่ที่ 537.8 พันล้านเยน หรือประมาณ 6.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.884 แสนล้านบาท)
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประกาศผลประกอบการประจำงบประมาณ 2553 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2554 และยื่นรายละเอียดผลประกอบแก่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีรายได้สุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 8.7731 แสนล้านเยน (102.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.07 ล้านล้านบาท) ตัวเลขกำไรจากการดำเนินงาน 537.5 พันล้านเยน (6.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.884 แสนล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 319.2 พันล้านเยน (3.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.11 แสนล้านบาท) อีกทั้งเป็นปีที่นิสสันมียอดขายทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 12.6% จาก 64.5 ล้านคันในปี 2552 เป็น 72.6 ล้านคันในปี 2553 ทั้งนี้ยอดขายทั่วโลกของนิสสันมีอัตราเพิ่มขึ้น 19.1% โดยยอดขายรถยนต์เติบโตขึ้นจาก 3.515 ล้านเป็น 4.185 ล้านคัน ในระยะหนึ่งปีเต็ม อัตราส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกโดยรวมอยู่ที่ 5.8%
ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดของนิสสันรวมอยู่ที่ 4,185,000 คันทั่วโลกในปี 2553 เพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดขายในประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด จำนวน 1,024,000 คัน เพิ่มขึ้น 35.5% ส่วนในทวีปอเมริกาเหนือ มียอดขายอยู่ที่ 1,245,000 คัน เพิ่มขึ้น 16.6% ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกามียอดขายทั้งหมด 966,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% ในทวีปยุโรปมียอดขาย 607,000 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ในประเทศญี่ปุ่นมียอดขาย 600,000 คัน ลดลง 4.7% และในตลาดอื่นๆ มียอดขายรวม 709,000 คัน เพิ่มขึ้น 28.2%
คาร์ลอส กอส์น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารนิสสัน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2553 เป็นปีที่สร้างสถิติใหม่ของนิสสันทั้งในด้านยอดขายและการเติบโต รวมถึงความพยายามในการฟื้นฟูระบบการทำงานจากเหตุภัยพิบัติประสบผลเป็นอย่างดี ตลอดจนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่ช่วยกระตุ้นแบรนด์และยอดขายในตลาดสำคัญทั่วโลก
“เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้การทำงานของเราต้องหยุดชะงัก แต่นิสสันก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวภายใต้สภาวะคับขันได้อีกครั้ง ซึ่งเราได้แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ในการฟื้นฟูการทำงานในระยะสั้นพร้อมกับการรักษากลยุทธ์และเป้าหมายสำคัญในระยะยาวเอาไว้ได้ แม้ว่าภัยพิบัติอันน่าเศร้าครั้งนี้จะยังส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเรา แต่เชื่อว่าสามารถแก้ไขกลับคืนมาให้แข็งแกร่งได้อีกครั้ง”
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ของนิสสันที่เปิดตัวในปี 2553 ทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่ จู๊ค, เอลแกรนด์, เซเรน่า, โมโค, อินฟินิติ้ คิวเอ็กซ์, เควสท์, มูราโน่ ครอสคาบริโอเล็ต, เอ็นวี ซีรีย์ส์, ซันนี่ และนิสสัน ลีฟ
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประกาศผลประกอบการประจำงบประมาณ 2553 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2554 และยื่นรายละเอียดผลประกอบแก่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมีรายได้สุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 8.7731 แสนล้านเยน (102.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.07 ล้านล้านบาท) ตัวเลขกำไรจากการดำเนินงาน 537.5 พันล้านเยน (6.28 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.884 แสนล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 319.2 พันล้านเยน (3.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.11 แสนล้านบาท) อีกทั้งเป็นปีที่นิสสันมียอดขายทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 12.6% จาก 64.5 ล้านคันในปี 2552 เป็น 72.6 ล้านคันในปี 2553 ทั้งนี้ยอดขายทั่วโลกของนิสสันมีอัตราเพิ่มขึ้น 19.1% โดยยอดขายรถยนต์เติบโตขึ้นจาก 3.515 ล้านเป็น 4.185 ล้านคัน ในระยะหนึ่งปีเต็ม อัตราส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกโดยรวมอยู่ที่ 5.8%
ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมดของนิสสันรวมอยู่ที่ 4,185,000 คันทั่วโลกในปี 2553 เพิ่มขึ้น 19.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดขายในประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด จำนวน 1,024,000 คัน เพิ่มขึ้น 35.5% ส่วนในทวีปอเมริกาเหนือ มียอดขายอยู่ที่ 1,245,000 คัน เพิ่มขึ้น 16.6% ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกามียอดขายทั้งหมด 966,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% ในทวีปยุโรปมียอดขาย 607,000 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% ในประเทศญี่ปุ่นมียอดขาย 600,000 คัน ลดลง 4.7% และในตลาดอื่นๆ มียอดขายรวม 709,000 คัน เพิ่มขึ้น 28.2%
คาร์ลอส กอส์น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารนิสสัน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2553 เป็นปีที่สร้างสถิติใหม่ของนิสสันทั้งในด้านยอดขายและการเติบโต รวมถึงความพยายามในการฟื้นฟูระบบการทำงานจากเหตุภัยพิบัติประสบผลเป็นอย่างดี ตลอดจนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่ช่วยกระตุ้นแบรนด์และยอดขายในตลาดสำคัญทั่วโลก
“เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้การทำงานของเราต้องหยุดชะงัก แต่นิสสันก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวภายใต้สภาวะคับขันได้อีกครั้ง ซึ่งเราได้แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ในการฟื้นฟูการทำงานในระยะสั้นพร้อมกับการรักษากลยุทธ์และเป้าหมายสำคัญในระยะยาวเอาไว้ได้ แม้ว่าภัยพิบัติอันน่าเศร้าครั้งนี้จะยังส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเรา แต่เชื่อว่าสามารถแก้ไขกลับคืนมาให้แข็งแกร่งได้อีกครั้ง”
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ของนิสสันที่เปิดตัวในปี 2553 ทั้งหมด 10 รุ่น ได้แก่ จู๊ค, เอลแกรนด์, เซเรน่า, โมโค, อินฟินิติ้ คิวเอ็กซ์, เควสท์, มูราโน่ ครอสคาบริโอเล็ต, เอ็นวี ซีรีย์ส์, ซันนี่ และนิสสัน ลีฟ