หลังอุ่นเครื่องด้วยภาพ Teaser ที่เผยบั้นท้ายออกมาได้เพียงไม่นาน ในตอนนี้เชฟโรเลต แบรนด์ดังในเครือจีเอ็มหรือเจนเนอรัล มอเตอร์โชว์ จัดการเผยโฉมเอสยูวีรุ่นใหม่ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับคอมแพ็กต์ปิกอัพรุ่นโคโลราโด เพื่อขายในตลาดทั่วโลกออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อว่า เทรลเบลเซอร์ (Trailblazer)
กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเทรลเบลเซอร์จะมีขึ้นในงานดูไบ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายน โดยชื่อเทรลเบลเซอร์เป็นเอสยูวีขนาดกลางที่ทำตลาดในอเมริกาเหนือและเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1999 อีกทั้งยังมีการนำไปต่อยอดเพื่อขายในแบรนด์อื่นๆ ของเครืออีก เช่น ซาบ 9-7X, บูอิก เรนเนียร์, จีเอ็มซี เอ็นวอย, โอลด์สโมบิล บราวาดา ส่วนในรุ่นนี้จะเป็นการทำตลาดต่อเนื่องและส่งขายทั่วโลก โดยมีเมืองไทยเป็นฐานการผลิตหลัก
การพัฒนาของเทรลเบลเซอร์ใหม่อยู่บนพื้นฐานเดียวกับโคโลราโด และได้รับการออกแบบโดยทีมงานจีเอ็มในบราซิล มากับตัวถังแบบเอสยูวี 7 ที่นั่งตอบสนองทั้งในแง่ความสะดวกสบาย ความหรูรา และสมรรถนะในการลุย โดยเฉพาะในแง่ของภาพลักษณ์ที่ใช้แนวคิด Body-in Wheel-out ในการดึงโป่งซุ้มล้อเพื่อสร้างความสมบุกสมบันและความบึกบึนให้กับตัวรถ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยการใช้หลอด LED สำหรับชุดไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวที่ฝังอยู่ในกรอบกระจกมองข้าง รวมถึงการสวมล้อที่มีความใหญ่ถึง 20 นิ้วในรุ่นตกแต่ง LTZ
ส่วนกลุ่มตลาดที่จะต้องแข่งขันในบ้านเรา คงหนีไม่พ้นเอสยูวีที่มาจากการดัดแปลงจากปิกอัพอย่างเช่น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต,ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และอีซูซุ มิว-7
‘การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดตะวันออกกลางในมุมมองของจีเอ็ม เพราะรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่มีความสำคัญและถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่นี่’ จอห์น สแตดวิค ประธานและกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของจีเอ็มตะวันออกกลางกล่าว
‘ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทรลเบลเซอร์ใหม่จะเป็นผลผลิตที่มีความแข็งแกร่งและโดดเด่นที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์ของเชฟโรเลต’
ในแง่ของความอเนกประสงค์มาครบครันด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถเลือกพับเก็บในอัตราส่วน 60/40 ส่วนแถวที่ 3 พับในแบบ 50/50 และพื้นห้องโดยสารเป็นแบบแบนเรียบ หรือ Flat Floor ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอย ส่วนความสะดวกสบายที่ติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาก็มีทั้งช่องเสียบ USB และ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อกับ Device ต่างๆ รวมถึงระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมาตอนนี้จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2,800 ซีซี บล็อกใหม่ล่าสุดของโคโลราโดในการขับเคลื่อน มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ส่วนระบบขับเคลื่อนก็มีให้เลือกทั้งแบบล้อหลัง และ 4 ล้อ
ในตอนนี้ดูภาพกันไปพลางๆ ก่อน ส่วนรายละเอียดแบบเต็มๆ ของตัวรถจะมีการเปิดเผยออกมาอีกครั้ง ซึ่งในบ้านเราจะเริ่มเปิดตัวและวางขายประมาณต้นปี 2012