ข่าวในประเทศ - มาสด้า-ฟอร์ด ประกาศ โรงงานเอเอที ระยอง จะเริ่มกลับมาผลิต มาสด้า2 มาสด้า3 และเฟียสต้า อีกครั้ง ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ พร้อมมีรถส่งมอบให้ลูกค้าทันที มั่นใจอุตสาหกรรมยานยนต์สามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับธุรกิจของมาสด้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องนั้นต้องดำเนินการต่อ เพื่อช่วยรักษาซัพพลายตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยรถมาสด้า2 ใหม่ และรถมาสด้า3 2.0ลิตร ใหม่ จะกลับมาทำการผลิตอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ยอดขายในเดือนที่ผ่านมายังคงเติบโตถึง 23.8% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายสูงถึง 3,284 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 7.7%
"สำหรับลูกค้ารถยนต์มาสด้าที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว สามารถติดต่อที่ศูนย์บริการมาสด้าใกล้บ้านเพื่อดำเนินการช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประเมินความเสียหาย และวางแผนการซ่อมบำรุง ซึ่งมาสด้าเองจะมีแผนการดูแลช่วยเหลือลูกค้าเหล่านี้อย่างดีที่สุด"
ทางด้านนางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ ประชาชนชาวไทยต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ทางมาสด้าได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นได้มอบเงินบริจาคไปแล้ว 1,000,000 บาท นอกจากนี้ ยอดขายในเดือนตุลาคมของปี 2554 ที่ผ่านมา มาสด้ายังประสบความสำเร็จอย่างงดงามเช่นเดิม ยังคงรักษาอัตราการเติบโตสูงสุด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 3,284 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 2,652 คัน
โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 รุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู จำนวน 1,335 คัน และรุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู จำนวน 953 คัน และรวมทั้งสองรุ่นสูงถึง 2,288 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 1,611 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพช่วงล่างดี มาสด้า บีที-50 ที่ต่างจังหวัดยังคงเป็นตลาดหลักของมาสด้า ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงถึง 768 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 26.1% และรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 สามารถครองยอดขายได้สูงถึง 228 คัน
ด้านฟอร์ด ยืนยันเช่นกันว่า สายการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) จะกลับสู่การปฏิบัติงานตามปกติในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ โดยฟอร์ด เฟียสต้า เป็นหนึ่งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ผลิตบนสายการผลิตดังกล่าว
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับธุรกิจของมาสด้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องนั้นต้องดำเนินการต่อ เพื่อช่วยรักษาซัพพลายตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยรถมาสด้า2 ใหม่ และรถมาสด้า3 2.0ลิตร ใหม่ จะกลับมาทำการผลิตอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ยอดขายในเดือนที่ผ่านมายังคงเติบโตถึง 23.8% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายสูงถึง 3,284 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 7.7%
"สำหรับลูกค้ารถยนต์มาสด้าที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว สามารถติดต่อที่ศูนย์บริการมาสด้าใกล้บ้านเพื่อดำเนินการช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประเมินความเสียหาย และวางแผนการซ่อมบำรุง ซึ่งมาสด้าเองจะมีแผนการดูแลช่วยเหลือลูกค้าเหล่านี้อย่างดีที่สุด"
ทางด้านนางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ ประชาชนชาวไทยต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ทางมาสด้าได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นได้มอบเงินบริจาคไปแล้ว 1,000,000 บาท นอกจากนี้ ยอดขายในเดือนตุลาคมของปี 2554 ที่ผ่านมา มาสด้ายังประสบความสำเร็จอย่างงดงามเช่นเดิม ยังคงรักษาอัตราการเติบโตสูงสุด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 3,284 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 2,652 คัน
โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 รุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู จำนวน 1,335 คัน และรุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู จำนวน 953 คัน และรวมทั้งสองรุ่นสูงถึง 2,288 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 1,611 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพช่วงล่างดี มาสด้า บีที-50 ที่ต่างจังหวัดยังคงเป็นตลาดหลักของมาสด้า ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงถึง 768 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 26.1% และรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 สามารถครองยอดขายได้สูงถึง 228 คัน
ด้านฟอร์ด ยืนยันเช่นกันว่า สายการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) จะกลับสู่การปฏิบัติงานตามปกติในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ โดยฟอร์ด เฟียสต้า เป็นหนึ่งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ผลิตบนสายการผลิตดังกล่าว
