35...6…15…1… คุณทราบหรือไม่ว่าตัวเลขเหล่านี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร? ตัวเลขทั้งหมดที่กล่าวมา มีความเกี่ยวข้องกับ ฟอร์ด เฟียสต้า รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดของฟอร์ด ซึ่งกำลังฉลองความสำเร็จพร้อมแฟนๆ จากทั่วโลก ปีนี้เฟียสต้าฉลองอายุครบ 35 ปี หลังจากผ่านการพัฒนามาแล้วถึง 6 เจนเนอเรชั่น และผลิตไปแล้วถึง 15 ล้านคันทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัว!
นอกจากนี้ ในวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ยังเป็นวันครบรอบ 1 ปี ของเฟียสต้า(All-New Ford Fiesta) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่า ฟอร์ด เฟียสต้า มีความเป็นมาอย่างไร และเพราะเหตุใดจึงยังคงอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลกแม้เวลาได้ผ่านมายาวนาน
**35 ปีของ ฟอร์ด เฟียสต้า**
ฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นแรกผลิตขึ้นในแคว้นบาเลนเซียของสเปน ในปี 2519 ตามนโยบายของฟอร์ดที่ต้องการนำเสนอรถยนต์รุ่นประหยัดน้ำมันและมีความคล่องตัว สอดคล้องกับวิกฤติการณ์น้ำมันของโลกในขณะนั้น โดยน้อยคนนักจะคิดว่าเฟียสต้าจะกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดเรื่องราวความสำเร็จของฟอร์ด ทั้งนี้ เฟียสต้าสามารถครองใจนักขับรุ่นแล้วรุ่นเล่าด้วยรูปโฉมที่ดึงดูดใจ ความสะดวกสบายในการขับขี่ ประสิทธิภาพ และสมรรถนะ
แม้ว่าจะการผลิตเฟียสต้าครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปี 2519 แต่ความเป็นมาของเฟียสต้านั้นสามารถย้อนหลังไปได้ไกลกว่านั้น ในปี 2515 บริษัทฟอร์ดได้มีการวางแผนการผลิตเฟียสต้าขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนลับที่เรียกว่า “Project Bobcat” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ขนาดเล็กรูปแบบใหม่ออกมาป้อนตลาดโลก อันเป็นภารกิจที่สอดคล้องกับความมุ่งหวังของประธานบริษัทฟอร์ดในขณะนั้น คือ เฮนรี่ ฟอร์ด ที่ 2
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน เฟียสต้ากลับกลายเป็นก้าวย่างแห่งความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ที่ต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ โดยในปี 2520 เฟียสต้าได้รับรางวัล สุดยอดรถยนต์ของสเปน (Spain’s Car of the Year) ในปี 2519 เป็นปีที่ผลิตเฟียสต้าครบ 1 ล้านคัน และในปี 2532 เฟียสต้าเป็นรถยนต์รุ่นแรกติดตั้งระบบเบรค ABS และได้รับการพัฒนาขึ้นอีกในหลายๆ ด้าน และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เฟียสต้ามียอดผลิตครบ 15 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากกระแสความนิยมอย่างท่วมท้นของรถรุ่นล่าสุด โดยที่จริงแล้วฟอร์ดผลิต ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ครบ 1 ล้านคันแรกหลังเปิดตัวได้เพียง 28 เดือนเท่านั้น
**แรงบันดาลใจแห่งอนาคตกับคอนเซปท์การออกแบบของเฟียสต้า**
นอกจากความสำเร็จในการทำตลาดทั้ง 6 เจนเนอเรชั่นแล้ว การออกแบบของเฟียสต้ายังมีความโดดเด่นด้วย โดยเฉพาะในแง่ของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบของเฟียสต้าแสดงให้เห็นถึงการใช้สอยได้อย่างเอนกประสงค์ของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แม้การออกแบบของบางรุ่นจะมีไว้เพื่อการโชว์เท่านั้น แต่อีกหลายรุ่นได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อการผลิตหรือต่อยอดเป็นรถแข่งเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ของฟอร์ด
ถึงปัจจุบัน เฟียสต้าได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมการออกแบบรถต้นแบบไปแล้ว 22 รุ่น โดยรุ่นที่มีความโดยเด่นมีดังต่อไปนี้
Ghia Corrida (2519): เป็นรถต้นแบบคันแรกของเฟียสต้าที่เปิดตัวในปี 2519 ในงาน Turin Motor Show โดยชูแนวคิดของรถสปอร์ตยุคใหม่ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยครบครัน
Ghia GTK (2522): เป็นรถต้นแบบที่สะท้อนรูปลักษณ์ของยนตรกรรมแห่งอนาคต โดย GTK ย่อมาจากคำว่า Grand Touring Kombi พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถแนวสปอร์ตสำหรับขับขี่ในระยะทางไกลๆ (grand touring car) ซึ่งมาพร้อมกับระบบขับขี่แบบแอโรไดนามิกและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง
Ghia Pockar (2521): Pockar มาจากคำว่า pocket car เป็นรถขนาดเล็กและทรงแคบ แต่สูง เพื่อเอื้อให้เกิดการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มช่องเก็บสัมภาระไว้กับบานประตูรถด้านข้าง และที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ 180 องศา เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่บรรทุกของ ส่วนประตูแบบสองตอนตัดเป็นแนวนอน โดยประตูส่วนบนจะเปิดได้ตามแบบปกติ แต่ประตูส่วนล่างสามารถเปิดพับได้เหมือนกับด้านท้ายของเครื่องบินลำเลียง
Fiesta Urba (2532): พัฒนาขึ้นจากแนวคิดรถสำหรับนักช้อป หรือ city shopper vehicle โดยออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการขับตระเวณจับจ่ายซื้อของไปทั่วเมือง พร้อมคุณสมบัติหลากหลาย ได้แก่ ระบบช่วยในการจอดรถ ตู้แช่ที่กระโปรงหลังรถ และพื้นที่เก็บสัมภาระภายใน
Ghia Zig & Ghia Zag (2533): สื่อสองแนวคิดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดย Zig และ Zag ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้พัฒนาต่อยอดไปเป็นสปอร์ตคาร์ รถแบบแฮทซ์แบ็ค ซีดาน กระบะ และรถตู้ขนส่งที่ใช้โครงสร้างประตูและตัวถังเดียวกัน ขณะที่ Zag เป็นรถแบบเปิดประทุน และได้แรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตที่ใช้ในสนามแข่ง ส่วน Zig เน้นความทันสมัย สื่อถึงยนตรกรรมแห่งอนาคต แต่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลายคล้ายกับรถตู้ขนาดเล็ก
Fiesta RS WRC Preview Model (2553): เป็นรถต้นแบบล่าสุดจากเฟียสต้า โดยฟอร์ดได้เผยว่าในงาน 2010 Paris Motor Show ว่าจะจัดแสดงรุ่น Fiesta World Rally Car ในรายการ World Rally Championship 2011
**พลังดึงดูดความสนใจของเฟียสต้าในไทย**
ในปีแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย เฟียสต้ามียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ 7 เดือนติดต่อกัน ความโดดเด่นดังกล่าวรวมถึงคุณสมบัติที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเฟียสต้า เช่น ด้าน การเชื่อมต่อ (Connectivity) ที่ใช้เทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command) และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะแบบ PowerShift จึงไม่น่าแปลกใจที่เฟียสต้าจะเป็นรถ 5 ประตูที่ขายดีที่สุดในไทยเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
ในช่วง 3 เดือนนับตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2554 เฟียสต้าผลิตในไทยเพื่อขายในประเทศและส่งออกไปทั่วภูมิภาคนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ฟอร์ดในไทยและอาเซียน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการกระตุ้นยอดขายโดยรวมและการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด
แม้ยุคสมัยและเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป ตราบใดที่เฟียสต้ายังคงสานต่อศักยภาพในการนำเสนอสไตล์ที่ทันสมัย ความคุ้มค่า และสมรรถนะที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้น แน่ใจเหลือเกินว่าความสำเร็จในก้าวต่อๆ ไปจะไม่ใช่เรื่องยาก
นอกจากนี้ ในวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ยังเป็นวันครบรอบ 1 ปี ของเฟียสต้า(All-New Ford Fiesta) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่า ฟอร์ด เฟียสต้า มีความเป็นมาอย่างไร และเพราะเหตุใดจึงยังคงอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลกแม้เวลาได้ผ่านมายาวนาน
**35 ปีของ ฟอร์ด เฟียสต้า**
ฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นแรกผลิตขึ้นในแคว้นบาเลนเซียของสเปน ในปี 2519 ตามนโยบายของฟอร์ดที่ต้องการนำเสนอรถยนต์รุ่นประหยัดน้ำมันและมีความคล่องตัว สอดคล้องกับวิกฤติการณ์น้ำมันของโลกในขณะนั้น โดยน้อยคนนักจะคิดว่าเฟียสต้าจะกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดเรื่องราวความสำเร็จของฟอร์ด ทั้งนี้ เฟียสต้าสามารถครองใจนักขับรุ่นแล้วรุ่นเล่าด้วยรูปโฉมที่ดึงดูดใจ ความสะดวกสบายในการขับขี่ ประสิทธิภาพ และสมรรถนะ
แม้ว่าจะการผลิตเฟียสต้าครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปี 2519 แต่ความเป็นมาของเฟียสต้านั้นสามารถย้อนหลังไปได้ไกลกว่านั้น ในปี 2515 บริษัทฟอร์ดได้มีการวางแผนการผลิตเฟียสต้าขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนลับที่เรียกว่า “Project Bobcat” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ขนาดเล็กรูปแบบใหม่ออกมาป้อนตลาดโลก อันเป็นภารกิจที่สอดคล้องกับความมุ่งหวังของประธานบริษัทฟอร์ดในขณะนั้น คือ เฮนรี่ ฟอร์ด ที่ 2
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน เฟียสต้ากลับกลายเป็นก้าวย่างแห่งความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ที่ต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ โดยในปี 2520 เฟียสต้าได้รับรางวัล สุดยอดรถยนต์ของสเปน (Spain’s Car of the Year) ในปี 2519 เป็นปีที่ผลิตเฟียสต้าครบ 1 ล้านคัน และในปี 2532 เฟียสต้าเป็นรถยนต์รุ่นแรกติดตั้งระบบเบรค ABS และได้รับการพัฒนาขึ้นอีกในหลายๆ ด้าน และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เฟียสต้ามียอดผลิตครบ 15 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากกระแสความนิยมอย่างท่วมท้นของรถรุ่นล่าสุด โดยที่จริงแล้วฟอร์ดผลิต ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ครบ 1 ล้านคันแรกหลังเปิดตัวได้เพียง 28 เดือนเท่านั้น
**แรงบันดาลใจแห่งอนาคตกับคอนเซปท์การออกแบบของเฟียสต้า**
นอกจากความสำเร็จในการทำตลาดทั้ง 6 เจนเนอเรชั่นแล้ว การออกแบบของเฟียสต้ายังมีความโดดเด่นด้วย โดยเฉพาะในแง่ของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบของเฟียสต้าแสดงให้เห็นถึงการใช้สอยได้อย่างเอนกประสงค์ของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แม้การออกแบบของบางรุ่นจะมีไว้เพื่อการโชว์เท่านั้น แต่อีกหลายรุ่นได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อการผลิตหรือต่อยอดเป็นรถแข่งเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ของฟอร์ด
ถึงปัจจุบัน เฟียสต้าได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมการออกแบบรถต้นแบบไปแล้ว 22 รุ่น โดยรุ่นที่มีความโดยเด่นมีดังต่อไปนี้
Ghia Corrida (2519): เป็นรถต้นแบบคันแรกของเฟียสต้าที่เปิดตัวในปี 2519 ในงาน Turin Motor Show โดยชูแนวคิดของรถสปอร์ตยุคใหม่ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยครบครัน
Ghia GTK (2522): เป็นรถต้นแบบที่สะท้อนรูปลักษณ์ของยนตรกรรมแห่งอนาคต โดย GTK ย่อมาจากคำว่า Grand Touring Kombi พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถแนวสปอร์ตสำหรับขับขี่ในระยะทางไกลๆ (grand touring car) ซึ่งมาพร้อมกับระบบขับขี่แบบแอโรไดนามิกและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง
Ghia Pockar (2521): Pockar มาจากคำว่า pocket car เป็นรถขนาดเล็กและทรงแคบ แต่สูง เพื่อเอื้อให้เกิดการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มช่องเก็บสัมภาระไว้กับบานประตูรถด้านข้าง และที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ 180 องศา เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่บรรทุกของ ส่วนประตูแบบสองตอนตัดเป็นแนวนอน โดยประตูส่วนบนจะเปิดได้ตามแบบปกติ แต่ประตูส่วนล่างสามารถเปิดพับได้เหมือนกับด้านท้ายของเครื่องบินลำเลียง
Fiesta Urba (2532): พัฒนาขึ้นจากแนวคิดรถสำหรับนักช้อป หรือ city shopper vehicle โดยออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการขับตระเวณจับจ่ายซื้อของไปทั่วเมือง พร้อมคุณสมบัติหลากหลาย ได้แก่ ระบบช่วยในการจอดรถ ตู้แช่ที่กระโปรงหลังรถ และพื้นที่เก็บสัมภาระภายใน
Ghia Zig & Ghia Zag (2533): สื่อสองแนวคิดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดย Zig และ Zag ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้พัฒนาต่อยอดไปเป็นสปอร์ตคาร์ รถแบบแฮทซ์แบ็ค ซีดาน กระบะ และรถตู้ขนส่งที่ใช้โครงสร้างประตูและตัวถังเดียวกัน ขณะที่ Zag เป็นรถแบบเปิดประทุน และได้แรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตที่ใช้ในสนามแข่ง ส่วน Zig เน้นความทันสมัย สื่อถึงยนตรกรรมแห่งอนาคต แต่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลายคล้ายกับรถตู้ขนาดเล็ก
Fiesta RS WRC Preview Model (2553): เป็นรถต้นแบบล่าสุดจากเฟียสต้า โดยฟอร์ดได้เผยว่าในงาน 2010 Paris Motor Show ว่าจะจัดแสดงรุ่น Fiesta World Rally Car ในรายการ World Rally Championship 2011
**พลังดึงดูดความสนใจของเฟียสต้าในไทย**
ในปีแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย เฟียสต้ามียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ 7 เดือนติดต่อกัน ความโดดเด่นดังกล่าวรวมถึงคุณสมบัติที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเฟียสต้า เช่น ด้าน การเชื่อมต่อ (Connectivity) ที่ใช้เทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command) และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะแบบ PowerShift จึงไม่น่าแปลกใจที่เฟียสต้าจะเป็นรถ 5 ประตูที่ขายดีที่สุดในไทยเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
ในช่วง 3 เดือนนับตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2554 เฟียสต้าผลิตในไทยเพื่อขายในประเทศและส่งออกไปทั่วภูมิภาคนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ฟอร์ดในไทยและอาเซียน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการกระตุ้นยอดขายโดยรวมและการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด
แม้ยุคสมัยและเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป ตราบใดที่เฟียสต้ายังคงสานต่อศักยภาพในการนำเสนอสไตล์ที่ทันสมัย ความคุ้มค่า และสมรรถนะที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้น แน่ใจเหลือเกินว่าความสำเร็จในก้าวต่อๆ ไปจะไม่ใช่เรื่องยาก