อีซูซุ เปิดตัว“รถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่นมิมาโมริ” สุดยอดโซลูชั่นสำหรับการขนส่ง ครั้งแรกในเมืองไทย! ตามแนวคิด “อีซูซุ...คู่คิดมืออาชีพ” เพื่อช่วยลูกค้าในการดูแลบริหารงานด้าน โลจิสติกส์ พร้อมกับพัฒนาศักยภาพของพนักงานขับรถให้ขับประหยัดน้ำมันและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้ลดต้นทุนทางธุรกิจ และสร้างผลกำไรอย่างแท้จริง
นาย เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า เนื่องจากอีซูซุตระหนักดีว่ารถบรรทุกมีบทบาทสำคัญในการสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของลูกค้า อีซูซุจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้กับผู้ใช้รถอย่างต่อเนื่องโดยยึดแนวคิด “อีซูซุ...คู่คิดมืออาชีพ” ซึ่งอีซูซุก็ได้รับจากยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งในด้านการประหยัดน้ำมันและความแข็งแกร่งทนทานซึ่งสามารถช่วยในการลดต้นทุนทางธุรกิจ
ล่าสุดบริษัทฯตัดสินใจเปิดตัว “รถบรรทุกอีซูซุ รุ่นมิมาโมริ (MIMAMORI)” รถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะเพื่อการขนส่ง เป็นครั้งแรกในเมืองไทย “มิมาโมริ” เอกสิทธิ์เฉพาะของอีซูซุ สามารถวิเคราะห์ ทำรายงาน และให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ขับขี่พัฒนาทักษะการขับรถได้อย่างประหยัดน้ำมันแบบมืออาชีพ ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั้งรถและสินค้า และลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มกำไรยิ่งขึ้นอย่างเห็นผล เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งในเมืองไทยให้มีโอกาสขยายกำลังการให้บริการที่มีคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย
“รถบรรทุกอีซูซุ รุ่นมิมาโมริ ไม่ใช่แค่รถบรรทุกประหยัดน้ำมันธรรมดา แต่คือ “สุดยอดโซลูชั่น” สำหรับการขนส่งเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกธุรกิจ ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นทางออกสำหรับการลดต้นทุนของธุรกิจขนส่งอย่างแท้จริง สามารถเชื่อมต่อระบบการทำงานเข้าสู่ศูนย์กลางผู้ดูแลระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรียกใช้ข้อมูลรายงานพฤติกรรมการขับขี่ได้ตลอดเวลา ตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจด้วย”
สำหรับคุณลักษณะพิเศษของระบบมินาโมริ มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่
เพิ่มการประหยัดน้ำมัน FUEL ECO : ระบบมิมาโมริช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ พร้อมรายงานพฤติกรรมการขับ และคำแนะนำได้อย่างละเอียด เข้าใจง่าย แม่นยำและเชื่อถือได้ เพื่อการปรับปรุงและเพิ่มพูนทักษะของพนักงานขับรถให้ขับได้อย่างประหยัดน้ำมันแบบมืออาชีพ สามารถวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างแม่นยำ โดยดึงข้อมูลจากหัวฉีดโดยตรง และแสดงผลการขับขี่บนหน้าจอแบบเรียลไทม์ พร้อมเสียงเตือนเมื่อมีพฤติกรรมการขับไม่ประหยัด แสดงผลการวิเคราะห์และให้คะแนนพฤติกรรมการขับขี่ในรูปแบบกราฟใยแมงมุมเพื่อง่ายต่อการเข้าใจและประเมินผล โดยสถิติดังกล่าวจะถูกบันทึกไว้เป็นข้อมมูลพื้นฐานเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาทักษะการขับประหยัดแบบมืออาชีพให้แก่พนักงานผู้ขับรถในอนาคต
เพิ่มความปลอดภัย SAFETY : ครั้งแรกในเมืองไทย การสื่อสารกับผู้ขับขี่ด้วยเสียงเตือนและข้อความ เมื่ออยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั้งตัวรถและสินค้า พร้อมการวิเคราะห์ให้คะแนนพฤติกรรมการขับประหยัดปลอดภัยในแต่ละหัวข้อ นอกจากนี้ยังช่วยแจ้งเตือนให้หยุดพัก เมื่อพนักงานขับขับรถเป็นระยะเวลายาวนานจนอ่อนล้า
เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง EFFICIENCY : ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมระบบปฏิบัติการอันทันสมัย ครั้งแรกในเมืองไทยกับ MIMAMORI ONLINE SERVICE ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลบันทึกรายงานการขับขี่ประจำวันของพนักงานขับรถแต่ละคนได้จากอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ก่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นผู้บริหารการขนส่งยังสามารถสื่อสารข้อความไปยังพนักงานขับรถทุกคันได้ตลอดเวลา เพื่อประสิทธิภาพการขนส่งที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดการสื่อสารและค่าใช้จ่ายทางโทรศัพท์ รวมทั้งช่วยเรื่องระบบการบำรุงรักษา ด้วยการกำหนดระยะรอบการบำรุงรักษาของรถไว้ล่วงหน้า และระบบจะแจ้งเตือนการบำรุงรักษาของรถแต่ละคันก่อนถึงกำหนด ลดปัญหาความเสียหาย มั่นใจได้ทุกรอบการเดินรถ
เพิ่มความมั่นใจ SECURITY : สามารถแสดงตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์มายังศูนย์ควบคุมตลอดเวลา เพื่อให้ผู้บริหารการขนส่งทราบถึงสถานะความปลอดภัยของรถได้ทุกขณะ และส่งอีเมล์ผ่านมือถือของผู้บริหารการขนส่งทันทีเมื่ออาจเกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำการตรวจสอบหรือช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถตั้งเขตพื้นที่ควบคุมที่จะได้รับการแจ้งเตือน หากพนักงานขับรถมีการนำรถเข้าไปจอดในพื้นที่ควบคุมเหล่านั้น หรือนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแจ้งการไปถึงพื้นที่จุดหมายขนส่งสินค้าแล้ว นอกจากนี้ยังดึงข้อมูลโดยตรงจากสมองกล ECM จึงรายงานพฤติกรรมการขับได้แม่นยำกว่า ถูกต้องกว่า ครอบคลุมทุกด้านมากกว่า ในแบบที่ระบบ GPS ทั่วไปไม่สามารถทำได้!
ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่าของรถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่นมิมาโมริ สุดยอดโซลูชั่นสำหรับการขนส่ง นิยามใหม่แห่งความคุ้มค่าทางธุรกิจที่อีซูซุเท่านั้นที่ทำได้ เป็นมากกว่ารถบรรทุกประหยัดน้ำมัน แต่จะช่วยพัฒนาพนักงานขับรถสู่การขับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งประหยัดเชื้อเพลิง ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และช่วยให้สามารถบริหารงานด้านโลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การลดต้นทุนการบริหารงานขนส่งโดยรวมตลอดอายุการใช้งานของรถ เพื่อผลประกอบการที่ดียิ่งกว่า และโอกาสในการก้าวขึ้นสู้ผู้นำในวงการขนส่งเมืองไทยในอนาคต นาย เอช. นาคางาวะ กล่าวตบท้าย