ข่าวต่างประเทศ - จากเดิมที่เป็น ผู้ผลิตรถสปอร์ตสุดฮ็อตที่มียอดขายพุ่งฉิวอยู่เสมอ มาเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางปอร์เช่ เอจีจากเยอรมนีกลับไม่แรงเท่าที่ควร เมื่อมีการเปิดเผยว่ายอดขายรถสปอร์ตทั่วโลกในเดือนนี้ลดลง อันเป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ปอร์เช่เปิดเผยว่ายอดขายเดือนกรกฎาคมทั่วโลกลดลงถึง 4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 10,722 คัน จากเดิมอยู่ที่ 11,169 คัน ขณะที่ตลาดยุโรปยอดขายลดลงจาก 5,631 คันมาอยู่ที่ 3,475 คัน และตรงนี้ถือเป็นครั้งแรกนับจากเดือนพฤษภาคม 2010 ที่ปอร์เช่มียอดขายต่อเดือนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อดูจากตลาด จีนแห่งเดียวกลับแตกต่าง เพราะว่ายอดขายช่วงเดือนกรกฎาคมในจีนเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัวมาอยู่ที่ 2,703 คัน เช่นเดียวกับตลาดอเมริกาเหนือที่เพิ่มจาก 2,703 คันมาอยู่ที่ 2,763 คัน
เหตุผลหลักที่ทำให้ยอดขายของปอร์เช่ลดลงเป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าลด ลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะว่ารถสปอร์ตที่เป็นโมเดลหลักในการสร้างยอดขายอย่าง 911 กำลังจะเตรียมเปิดตัวรุ่นเปลี่ยนโฉมในรหัส 991 ซึ่งเข้ามาแทนที่รุ่นปัจจุบันคือ 997 และจะเปิดตัวงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเดือนกรกฎาคมยอดขายของ 911 ลดลงถึง 35% ลงมาอยู่ที่ 1,666 คันเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ปอร์เช่เชื่อว่าเดือนหน้ายอดขายจะกลับมาอยู่ในสภาพเพิ่มขึ้นแบบปกติ เพราะว่ารถยนต์สร้างยอดอีกรุ่นหนึ่งอย่างพานาเมอรา กำลังจะส่งมอบรุ่นเทอร์โบดีเซล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดยุโรป ซึ่งทางปอร์เช่คาดหมายว่ารุ่นเทอร์โบดีเซลของพานาเมอราน่าจะอยู่ที่ 3,000-4,000 คันสำหรับปีนี้ จากยอดขายทั้งหมด 20,000 คันของพานาเมอราในปีนี้
ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ปอร์เช่ขายรถยนต์ไปได้แล้วถึง 71,381 คัน หรือเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอนาคตทางปอร์เช่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2018 พวกเขาจะต้องมียอดขายรถยนต์ รถสปอร์ต และเอสยูวีรวมกันต่อปีในตลาดทั่วโลกอย่างน้อย 200,000 คัน ซึ่งหนทางที่จะบรรลุถึงเป้าหมายนี้ นอกจากการเจาะตลาดรถยนต์เกิดใหม่แล้ว ยังอยู่ที่การเพิ่มรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ในตลาดอีกด้วย
ปอร์เช่เปิดเผยว่ายอดขายเดือนกรกฎาคมทั่วโลกลดลงถึง 4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 10,722 คัน จากเดิมอยู่ที่ 11,169 คัน ขณะที่ตลาดยุโรปยอดขายลดลงจาก 5,631 คันมาอยู่ที่ 3,475 คัน และตรงนี้ถือเป็นครั้งแรกนับจากเดือนพฤษภาคม 2010 ที่ปอร์เช่มียอดขายต่อเดือนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
เมื่อดูจากตลาด จีนแห่งเดียวกลับแตกต่าง เพราะว่ายอดขายช่วงเดือนกรกฎาคมในจีนเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัวมาอยู่ที่ 2,703 คัน เช่นเดียวกับตลาดอเมริกาเหนือที่เพิ่มจาก 2,703 คันมาอยู่ที่ 2,763 คัน
เหตุผลหลักที่ทำให้ยอดขายของปอร์เช่ลดลงเป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าลด ลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะว่ารถสปอร์ตที่เป็นโมเดลหลักในการสร้างยอดขายอย่าง 911 กำลังจะเตรียมเปิดตัวรุ่นเปลี่ยนโฉมในรหัส 991 ซึ่งเข้ามาแทนที่รุ่นปัจจุบันคือ 997 และจะเปิดตัวงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเดือนกรกฎาคมยอดขายของ 911 ลดลงถึง 35% ลงมาอยู่ที่ 1,666 คันเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ปอร์เช่เชื่อว่าเดือนหน้ายอดขายจะกลับมาอยู่ในสภาพเพิ่มขึ้นแบบปกติ เพราะว่ารถยนต์สร้างยอดอีกรุ่นหนึ่งอย่างพานาเมอรา กำลังจะส่งมอบรุ่นเทอร์โบดีเซล ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดยุโรป ซึ่งทางปอร์เช่คาดหมายว่ารุ่นเทอร์โบดีเซลของพานาเมอราน่าจะอยู่ที่ 3,000-4,000 คันสำหรับปีนี้ จากยอดขายทั้งหมด 20,000 คันของพานาเมอราในปีนี้
ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ปอร์เช่ขายรถยนต์ไปได้แล้วถึง 71,381 คัน หรือเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอนาคตทางปอร์เช่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2018 พวกเขาจะต้องมียอดขายรถยนต์ รถสปอร์ต และเอสยูวีรวมกันต่อปีในตลาดทั่วโลกอย่างน้อย 200,000 คัน ซึ่งหนทางที่จะบรรลุถึงเป้าหมายนี้ นอกจากการเจาะตลาดรถยนต์เกิดใหม่แล้ว ยังอยู่ที่การเพิ่มรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ในตลาดอีกด้วย