xs
xsm
sm
md
lg

ธนบุรีฯดึง‘พารณ’คุมทัพ ปรับธุรกิจ-ลั่น6ปีล้างหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ -“ธนบุรีพาณิชกรุ๊ป” ดึงคนนอก “พารณ-เรืองเกียรติ” เข้ามาคุมทัพแทนคนในตระกูล “วิริยะพันธุ์” ในรอบ 70 ปี ประกาศสร้างความแข็งแกร่งและดำเนินธุรกิจเชิงรุกขึ้น พร้อมทิ้งธุรกิจไม่มีอนาคต 7 บริษัท เหลือเพียง 3 ธุรกิจหลัก จำหน่ายและประกอบรถยนต์ รวมถึงธุรกิจรถบัส ฟุ้งมองเป้าหมายท้าทายกำไร 600 ล้านบาทต่อปี ล้างหนี้หมดภายใน 6-7 ปี
พารณ อิสระเสนา ณ อยุธยา (ซ้าย) และเรืองเกียรติ วาทะพุกกณะ(ขวา) แถลงข่าวปรับกลยุทธ์ล้างหนี้
นายพารณ อิสระเสนา ณ อยุธยา ประธานบริษัทธนบุรีพาณิชกรุ๊ป ผู้นำเข้า จำหน่าย และประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถยนต์ทาทา เปิดเผยว่า กลุ่มธนบุรีฯ ดำเนินงานในไทยมานานถึง 70 ปี โดยตระกูลวิริยะพันธุ์ จนต่อมาผู้บริหารสองพี่น้อง “คุณรอบรู้-พากเพียร วิริยะพันธุ์” ที่ดูแลธนบุรีฯ ต่อจากรุ่นพ่อมาตลอดได้ทยอยเสียชีวิตลง แต่พี่น้องคนอื่นๆ ในตระกูลวิริยะพันธุ์ที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่ได้เข้ามาดูแลธุรกิจแต่แรก และไม่ถนัดธุรกิจยานยนต์มากนัก จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ดึงคนนอกที่มีประสบการณ์ด้านบริหารและการจัดการเข้ามาช่วยดูแล เพื่อให้กลุ่มธนบุรีพาณิชสามารถขับเคลื่อน และเติบโตอย่างมั่นคงต่อไปได้

“โดยมีผมที่มีประสบการณ์จากการบริหารงานที่ปูนซีเมนต์ไทย เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานกลุ่มบริษัทฯ และคุณเรืองเกียรติ วาทะพุกกณะ ซึ่งผ่านการบริหารงานมาหลากหลายธุรกิจ เป็นกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ แต่สัดส่วนหุ้นยังคงเป็นของตระกูลวิริยะพันธุ์เช่นเดิม ซึ่งเราจะร่วมมือกันเข้ามาปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อให้แข่งแกร่งและดำเนินธุรกิจในเชิงรุกมากขึ้น”

การเข้ามาดำเนินการครั้งนี้ ยืนยันจะไม่มีการปรับเปลี่ยนคนเดิมออก หรือดึงคนนอกเข้ามาทำงานแทน แต่จะมีการนำผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารและการจัดการจากองค์ชั้นนำระดับประเทศ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาชั่วคราว โดยจะตั้งที่ปรึกษาในส่วนของงานด้านบุคลากร บัญชีและการเงิน งานการผลิต และการตลาด ซึ่งที่ปรึกษาแต่ละคนจะเข้ามาทำงานเพียง 2-3 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น ไม่ได้เข้ามานั่งหรือทำงานเป็นประจำ

“ที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 กลุ่มธนบุรีประสบปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่อง การเข้ามาของตนและทีมบริหารที่มีประสบการณ์ เชื่อมั่นจะลดปัญหาการขาดทุนสะสม และช่วยให้องค์กรกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และคาดว่าประมาณ 3 ปี น่าจะผลักดันให้คนในตระกูลวิริยะพันธุ์และทีมงาน สามารถขึ้นมาคุมการบริหารงานได้อย่างมั่นคงต่อไป”
หนึ่งในธุรกิจหลักคือการผลิตแชสซีส์ให้กับรถยนต์ทาทา
นายเรืองเกียรติ วาทะพุกกณะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนบุรีพาณิชกรุ๊ป เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินงานของทีมบริหารชุดใหม่ จะเน้นรักษาธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักและมีความชำนาญ อย่างบริษัทธนบุรีพาณิช ผู้จำหน่ายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์, บริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ โรงงานประกอบรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ และปิกอัพทาทา และบริษัทธนบุรีบัสบอดี้ ที่ดำเนินธุรกิจในการผลิตและบริการดูแลรักษารถบัส

“ส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่เราไม่ชำนาญ หรือเห็นว่าไม่มีอนาคต จะยกเลิกการทำธุรกิจ และจำหน่ายทรัพย์สิน เพื่อนำมาชดใช้หนี้สินที่มีบางส่วน โดยจะมีประมาณ 7 บริษัท จากทั้งหมดในกลุ่มที่มีอยู่ 10 บริษัทในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อบวกกับบริหารจัดการบริษัทที่เหลืออยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นจะทำให้ธนบุรีพาณิชกรุ๊ปกลับมามีกำไรได้ หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมา 20% โดยมองเป้าหมายท้าทายทำกำไร 600 ล้านบาทต่อปี นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป และคาดว่าจะสามารถล้างหนี้สะสมที่มีอยู่ภายใน 6-7 ปี”

ทั้งนี้ การเข้ามาธนบุรีพาณิชกรุ๊ป จะเข้ามาบริหารจัดการธุรกิจให้แข็งแกร่งเป็นหลัก ส่วนเรื่องปัญหาหนี้สะสมไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกบริษัทต่างมีหนี้กันทั้งนั้น และธนบุรีพาณิชกรุ๊ปมีทรัพย์มากกว่า โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เป็นที่ดินมีมูลค่ามากกว่าเสียอีก แต่ที่สำคัญหนี้สินของธนบุรีพาณิชสามารถจัดการได้ ยังไม่จำเป็นที่จะต้องขายทรัพย์สินดังกล่าว เหตุนี้จึงต้องนำผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารและการจัดการ มาดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพ

นายเรืองเกียรติกล่าวว่า สำหรับแผนการจัดการจะเน้นโรงงานประกอบรถยนต์ เพราะได้มีความต้องการเพิ่มการผลิตของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล่าสุดธนบุรีฯ ยังได้รับโครงการใหญ่ของทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยว่าจ้างให้ผลิตแชสซีส์ปิกอัพทาทาประมาณ 9,000-12,000 ชุดต่อปี และจะลงทุนศูนย์บริการและอะไหล่รถบัส เพื่อรองรับการบริการรถบัสเอกชนทั่วไป รวมถึงสัญญาที่ให้บริการรถบัสของบริษัทขนส่งมวลชนกำลังจะหมดลง ทำให้บริษัทฯ สามารถนำมาบริหารจัดการ เปิดให้บริการกับรถบัสทั่วไปได้ รวมถึงการได้รับว่าจ้างให้ผลิตรถบัสจากองค์กรต่างๆ อีก ซึ่งมองว่าธุรกิจเกี่ยวกับรถบัสน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีล่ะ 20%

“ปีที่ผ่านมาธนบุรีพาณิชกรุ๊ปมีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท กำไรประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเติบโต 20% โดยรายได้หลักจะมาจากการจำหน่ายรถยนต์และการบริการ ซึ่งถือเป็นความท้าทายมาก ที่จะผลักดันให้มีกำไร 600 ล้านบาทต่อปี แต่เชื่อมั่นการบริหารจัดการที่ดีจะสามารถทำได้ อย่างธุรกิจประกอบรถยนต์น่าจะมีกำไร 250 ล้านบาทต่อปี กลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ 250 ล้านบาท และธุรกิจรถบัสและบริการรวมกัน 100 ล้านบาท”

สำหรับการขยายธุรกิจอื่นๆ มีความสนใจเช่นกัน เพียงแต่เบื้องต้นจะเน้นที่ 3 ธุรกิจหลักก่อน แต่หากมีโอกาสธนบุรีพาณิชพร้อมที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่วนการที่บริษัทฯ จะกลับมาเน้นธุรกิจรถบัส ในขณะที่ปัจจุบันมีรถบัสจากจีนเข้ามามากนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาหากมีการบริการที่ดี สินค้าได้คุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย ที่สำคัญถึงเวลาแล้วจะต้องช่วยกันเรียกร้องให้มีการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น