ข่าวต่างประเทศ - ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดอันดับสองในสหรัฐฯ จากการสำรวจของสตราเทจิก วิชัน อิงค์ (เอสวีไอ) สำนักวิเคราะห์แนวโน้มทางการตลาดชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งได้ศึกษาวิธีการและเหตุผลในการตัดสินใจของผู้บริโภค รวมทั้งปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจและความภักดีต่อตราสินค้า
ดาร์เรล เอ็ดวาร์ด ประธานและผู้ก่อตั้งของสตราเทจิก วิชัน อิงค์ (เอสวีไอ) กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีคุณภาพโดยรวมประจำปี 2554 (2011 Total Quality Index หรือ TQI survey) ระบุว่า เจ้าของรถฟอร์ดให้ความสำคัญต่อความรู้สึกพึงพอใจโดยรวมในรถของตนเองอย่างมากเมื่อเทียบกับปัญหาที่พบ การสำรวจที่จัดทำขึ้นในปีนี้ได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ซื้อรถจำนวน 37,069 คน ซึ่งซื้อรถในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม พ.ศ. 2553
“เราตัดสินใจที่จะวัดคุณภาพจากความรู้สึกโดยรวมของผู้ขับขี่และเจ้าของรถ เพราะนี่เป็นวิธีการที่ผู้บริโภคตัดสินจริงๆ ว่ารถแต่ละคันมีคุณภาพและควรที่จะซื้อหรือไม่ นอกจากนี้ เราได้พิจารณาถึงปริมาณการร้องเรียนของผู้บริโภคเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกัน เราเชื่อว่าการพิจารณาถึงประสบการณ์ด้านบวกจากเจ้าของรถและผู้ขับขี่ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมและควรที่จะต้องนำมาใช้ในการตัดสินด้วย”
ทั้งนี้ จากการสำรวจดังกล่าว แม้ว่าเจ้าของรถฟอร์ดจะรายงานถึงปัญหาของรถที่ตนเป็นเจ้าของที่ 28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมที่ 24 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณภาพโดยรวมของรถและความแข็งแกร่งทางด้านการออกแบบและนวัตกรรมอันทันสมัยยังคงทำให้แบรนด์ฟอร์ดได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีคุณภาพโดยรวมสูงที่สุดในอุตสาหกรรม
การสำรวจดังกล่าวยังเปิดเผยด้วยว่าลูกค้ามีความพึงพอใจต่อรถฟอร์ด มัสแตง คูเป้ และคอนเวอร์ทิเบิล ฟอร์ด เฟล็กซ์ และรถกระบะเอฟ-150 และ 250/350 อย่างมาก โดยรถเหล่านี้ต่างมีคะแนนสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน
การสำรวจคุณภาพโดยรวมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอด 16 ปีที่ผ่านมานี้ ได้ใช้เครื่องมือในการวัดที่มีความเที่ยงตรงด้วยการสอบถามผู้ซื้อให้ระบุถึงประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถใหม่ในทุกแง่มุม นับตั้งแต่การซื้อ ความเชื่อมั่น การสนับสนุน ความภักดี และความพึงพอใจที่ผู้ซื้อมีต่อรถของตนเอง ไปจนถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่
ดาร์เรล เอ็ดวาร์ด ประธานและผู้ก่อตั้งของสตราเทจิก วิชัน อิงค์ (เอสวีไอ) กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีคุณภาพโดยรวมประจำปี 2554 (2011 Total Quality Index หรือ TQI survey) ระบุว่า เจ้าของรถฟอร์ดให้ความสำคัญต่อความรู้สึกพึงพอใจโดยรวมในรถของตนเองอย่างมากเมื่อเทียบกับปัญหาที่พบ การสำรวจที่จัดทำขึ้นในปีนี้ได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ซื้อรถจำนวน 37,069 คน ซึ่งซื้อรถในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม พ.ศ. 2553
“เราตัดสินใจที่จะวัดคุณภาพจากความรู้สึกโดยรวมของผู้ขับขี่และเจ้าของรถ เพราะนี่เป็นวิธีการที่ผู้บริโภคตัดสินจริงๆ ว่ารถแต่ละคันมีคุณภาพและควรที่จะซื้อหรือไม่ นอกจากนี้ เราได้พิจารณาถึงปริมาณการร้องเรียนของผู้บริโภคเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกัน เราเชื่อว่าการพิจารณาถึงประสบการณ์ด้านบวกจากเจ้าของรถและผู้ขับขี่ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมและควรที่จะต้องนำมาใช้ในการตัดสินด้วย”
ทั้งนี้ จากการสำรวจดังกล่าว แม้ว่าเจ้าของรถฟอร์ดจะรายงานถึงปัญหาของรถที่ตนเป็นเจ้าของที่ 28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมที่ 24 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณภาพโดยรวมของรถและความแข็งแกร่งทางด้านการออกแบบและนวัตกรรมอันทันสมัยยังคงทำให้แบรนด์ฟอร์ดได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีคุณภาพโดยรวมสูงที่สุดในอุตสาหกรรม
การสำรวจดังกล่าวยังเปิดเผยด้วยว่าลูกค้ามีความพึงพอใจต่อรถฟอร์ด มัสแตง คูเป้ และคอนเวอร์ทิเบิล ฟอร์ด เฟล็กซ์ และรถกระบะเอฟ-150 และ 250/350 อย่างมาก โดยรถเหล่านี้ต่างมีคะแนนสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน
การสำรวจคุณภาพโดยรวมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอด 16 ปีที่ผ่านมานี้ ได้ใช้เครื่องมือในการวัดที่มีความเที่ยงตรงด้วยการสอบถามผู้ซื้อให้ระบุถึงประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถใหม่ในทุกแง่มุม นับตั้งแต่การซื้อ ความเชื่อมั่น การสนับสนุน ความภักดี และความพึงพอใจที่ผู้ซื้อมีต่อรถของตนเอง ไปจนถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่
