xs
xsm
sm
md
lg

“ปอร์เช่ จีที 3”ความพิเศษที่ลงตัวกับทนง ลี้อิสสระนุกูล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นับเป็นการจับคู่ที่ลงตัวที่สุด สำหรับความพิเศษของรถ ซูเปอร์สปอร์ต “ปอร์เช่ 911 จีที 3” รถที่ปรากฏโฉมในสยามประเทศเพียงแค่ 5 คัน เท่านั้น! เคียงข้างกับคนพิเศษอย่าง “ทนง ลี้อิสสระนุกูล” ทายาทรุ่น 3 ของกลุ่มสิทธิผล ผู้คร่ำหวอดในวงการอะไหล่ยานยนต์เมืองไทยที่สืบทอดประสบการณ์กันมายาวนานกว่า 90 ปี...จะด้วยความบังเอิญหรือพรมลิขิตใดที่ได้นำพาความพิเศษให้ทั้งคู่มาพบกัน...“ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ร่วมค้นหาคำตอบและความเป็นมาที่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

**จับพวงมาลัยครั้งแรก**

ย้อนอดีตสมัยวัยเด็กของ “ทนง” หรือ “เอก” เคยศึกษาชั้นมัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยอุปนิสัยชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ จึงมักพบเด็กหนุ่มคนนี้คลุกคลีอยู่ในสนามประลองความเร็วอยู่เสมอ จนกระทั่งเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนจบปริญญาตรีบริหารธุรกิจการค้า สาขาการตลาดอุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยนานซาน ประเทศญี่ปุ่น และมีโอกาสได้ใกล้ชิดแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้น ครั้งศึกษาดูงานที่บริษัท อีโนเว รับเบอร์ จำกัด และบริษัท สแตนเลย์ อีเลคทริค จำกัด ในดินแดนอาทิตย์อุทัย

“ผมชอบเรื่องของเครื่องยนต์กลไกทุกชนิด ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เริ่มจากขี่จักรยานและมอเตอร์ไซค์ เมื่อโตขึ้นช่วงนั้นเริ่มจะเป็นวัยรุ่นแล้วจึงลองเอารถยนต์คุณพ่อมาลองขับคือ มิตซูบิชิ กาแลนท์ ไม่นานหลังจากนั้นผมก็มีรถเป็นของตัวเองคันแรก คือ มิตซูบิชิ แลมด้า แต่มีเวลาอยู่ด้วยกันไม่เท่าไร ใช้อยู่ประมาณสองปีจึงขายไป เพราะต้องไปเรียนต่อ ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา เริ่มมีรถหลายคันและหลากหลายยี่ห้อที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โดยส่วนใหญ่เป็นรถของประเทศญี่ปุ่น”

**พรมลิขิตชีวิตติดเบาะ**

หลังสำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย เขาตัดสินใจบินกลับประเทศไทยเพื่อดูแลกิจการของที่บ้าน ด้วยวัยเพียง 24 ปี ขณะเดียวกันอีกแง่มุมหนึ่ง หลายคนในแวดวงยานยนต์เริ่มรู้จักทนงในฐานะนักแข่งรถอาชีพ อย่างไรก็ตามเส้นทางหลังพวงมาลัยของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด เพราะเมื่อต้องเข้ามาบริหารงานกลุ่มสิทธิผลมากขึ้น ทำให้ชีวิตเริ่มห่างเหินวงการความเร็วออกไปทุกที จนในที่สุดจำต้องหันหลังให้กับสนามแข่ง และหันมาทุ่มเททำธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง แต่แล้วเมื่อการได้พบเจอเนื้อคู่ ปอร์เช่ 911 จีที 3 เหมือนเป็นสิ่งที่มาเติมเชื้อไฟความฝันวัยหนุ่มให้กลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้ง

“สำหรับผมรถปอร์เช่มันมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนรถยี่ห้ออื่น แม้ที่ผ่านมาเคยใช้มาหลายรุ่นแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น 996 , 997 จนกระทั่งมาประทับใจและลงตัวที่สุดกับรถคันนี้ ซึ่งขับมาได้ประมาณปีกว่าๆ โดยความพิเศษของเขาเริ่มตั้งแต่การถอดแบบมาจากรถแข่งในสนาม ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.7 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีพละกำลัง 320 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 300 กม./ชม. มีอัตราเร่งจากศูนย์ถึงร้อยเพียงแค่ 4.1 วินาที และที่สำคัญเป็นสีพิเศษที่ต้องสั่งทำสำหรับคนพิเศษเท่านั้น”

**รถดีต้องขับสนุก**

แม้รถคันโปรดจะมีราคาค่าตัวกว่า 21 ล้านบาท แถมยังนำเข้าเพียงแค่ 5 คันในประเทศไทย แต่ผู้ครอบครองไม่ได้นำมาจอดตั้งโชว์หรือซื้อมาเก็บสะสมเพียงอย่างเดียว เพราะรถดีในความหมายของอดีตนักแข่ง ต้องสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย

“คันนี้ใช้บ่อยที่สุดในบรรดารถที่มีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเดินทางจากบ้านไปกลับที่ทำงานหรือใช้ท่องเที่ยวออกต่างจังหวัด ถือว่าเป็นรถในฝันที่ขับสนุกมากจนไม่อยากได้คันอื่นอีกเลย ถ้าใครได้ลองขับจะเข้าใจว่ารุ่นนี้อาจไม่ใช่รุ่นที่ดีสุดของปอร์เช่ แต่ในแง่การตอบสนองการขับขี่ที่สนุกสนาน เรียกความแรงได้ดั่งใจ ตัวรถด้านหน้าสามารถปรับยกขึ้นสูงได้เวลาขึ้นเนิน รวมถึงงานดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกที่สามารถสั่งได้พิเศษไม่เหมือนใคร ผมว่าเป็นความลงตัวที่สุดในตอนนี้แล้ว”

**เนื้อคู่อยู่กันยาว**

หากถามถึงรถในฝันรุ่นอื่นที่อยากได้ เขาทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนตอบว่า “แค่ที่มีอยู่ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าผมมีแต่รถแพงๆ ทั้งนั้น ซึ่งคำว่าพอเพียงอยู่ที่แต่ละบุคคลจะกำหนด อย่างผมซื้อตามกำลังทรัพย์ที่มีและนำมาใช้งานจริง ไม่ใช่ซื้อเพราะต้องการเชิดชูหน้าตาในสังคม ส่วนอนาคตก็ไม่คิดที่จะซื้อรถเพิ่มอีกแล้ว จนกว่าที่มีอยู่ตอนนี้จะเสียและซ่อมแซมไม่ได้ถึงค่อยมาว่าใหม่”

**สติเร็วกว่ารถ**

ทิ้งท้ายกับการควบคุมรถที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 300 กม./ชม. ทายาทรุ่น 3 กลุ่มสิทธิผล ย้ำว่าการขับขี่ทุกครั้งต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ขับรถเร็วและใช้ความระมัดระวังควบคู่กับความไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง อย่างบางวันทำงานหนัก หากรู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยล้า ต้องพักสายตาก่อนเสมอถึงจะขับรถกลับบ้าน นอกจากนี้เขายังฝากถึงผู้ใช้รถทุกคนว่า ควรมีน้ำใจให้แก่กันบนท้องถนน พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรให้ถูกต้อง

“มารยาทการขับรถที่ไม่ควรทำและพบเจอบ่อยที่สุดคือ รถที่ขับช้าชอบอยู่เลนขวา เพราะส่วนมากคิดว่าเลนนี้ดีที่สุดไม่ต้องไปเบียดกับใคร แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อยากให้ผู้ขับขี่ทุกท่านทำความเข้าใจตรงจุดนี้ด้วยครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น