ข่าวในประเทศ - เบนซ์ได้ฤกษ์ ปรับโฉมรุ่นC-Class ใหม่เทียบได้กับ CLS เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นและระบบนำทางแบบพร้อมการแสดงผลแบบสามมิติ เคาะราคาเริ่มต้นที่ 2.739 - 3.249 ล้านบาท
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า C-Class โฉมใหม่จึงได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ในด้านความคุ้มค่าและคุณภาพของรถเซ็กเม้นท์นี้ รวมทั้งภายในยังได้ปรับให้ดูทันสมัยด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เพียงแต่การปรับเปลี่ยนจอแสดงผลใหม่เท่านั้น แต่ยังเพิ่มการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอีกด้วย
"จากยอดขายในปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นการปรับโฉมใหม่ตามนิยาม A new class of agility นับเป็นการพัฒนาอีกขั้น ด้วยการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนั้นเราได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการขาย"
ภายนอกกันชนหน้าใหม่ที่ รวมทั้งกระจังหน้าสีเงินที่ดูสะดุดตา ด้วยรูปทรง V-Shape พร้อมฝากระโปรงหน้าใหม่ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาสอดรับกับความเด่นสะดุดตาของโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ซึ่งทำงานควบคู่กับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System - ILS) ที่สามารถปรับระดับการส่องสว่างโดยอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง
ภายในแผงหน้าปัดใหม่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย มีดีไซน์ ด้วยลายเส้นที่ต่อเนื่องไปจนถึงแผงข้างประตูด้านหน้าทั้งสองข้าง จอแสดงผลความละเอียดสูง นอกจากนั้นภายในยังตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูทันสมัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้วยการเชื่อมต่อเพียงปลายปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัย
โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารหรือ Telematics ที่มีมาพร้อมกับรุ่น C-Class ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ของรถรุ่นนี้ และระบบนำทางแบบพร้อมการแสดงผลแบบสามมิติ จุดเด่นของการตกแต่งภายในของเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ใหม่นี้ได้ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นคล้ายกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS ใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะพวงมาลัยลายโครเมียมซึ่งสื่อถึงความเป็นสไตล์สปอร์ตในรุ่น AVANTGARDE
สำหรับมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class ใหม่เปิดตัวด้วยรุ่น C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ผลิตกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า พร้อมแรงบิดถึง 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 1,800 รอบต่อนาที มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม.โดยใช้เวลาเพียง 7.0 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 15.62-17.24 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 153-167 กรัมต่อหนึ่งกิโลเมตร
นอกจากนี้ลูกค้าจะได้รับการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class นับเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุด และมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2007 ได้มีจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวไปแล้วกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก
รุ่น | ราคา (บาท) |
C 200 BlueEFFICIENCY | 2,739,000 |
C 200 BlueEFFICIENCY ELEGANCE | 2,929,000 |
C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE | 3,189,000 |
C 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE | 3,249,000 |