ข่าวในประเทศ-ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดสายการผลิตในประเทศไทย สำหรับมาสด้า 3 โฉมใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมทั้งคัน และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 17 มีนาคม 2554
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่าทางคณะผู้บริหารมาสด้าและผู้บริหารจากโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้า ได้ทำการเปิดสายการผลิต และเผยโฉมอย่างเป็นทางการสำหรับรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเป็น All New Mazda3 รุ่นที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคัน (ในประเทศญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า มาสด้า เอ็กเซลา Mazda Exela) คันแรกที่ผลิตในประเทศไทย ที่โรงงานผลิตรถยนต์นั่ง บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที โดยมีเป้าหมายผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในตลาดกลุ่มคอมแพกต์คาร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “มาสด้า3 ใหม่ เป็นรถยนต์ที่ลูกค้าให้การรอคอยเป็นอย่างมาก และจะเป็นรถธงอีกรุ่นหนึ่งของมาสด้าในการก้าวขึ้นสู่หนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของมาสด้า หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 ที่โรงงานเดียวกันนี้ เมื่อช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา และสามารถทำยอดขายได้มากถึงเกือบ 23,000 คันภายในเวลาเพียง 1 ปี ซึ่งคาดว่ามาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ที่ใช้ฐานการผลิตในไทย จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน เพราะเป็นตลาดที่ความต้องการรถยนต์คอมแพกต์คาร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นแรก ประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกตลาดที่จำหน่าย เปิดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2546 ในตลาดต่างประเทศ รวมยอดผลิตกว่า 2,900,000 คันทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเปิดตัวในปลายปี 2548 โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกจนถึงปี 2554 มาสด้า3 มียอดขายถึง 28,000 คัน และได้รับการยอมรับในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ และการออกแบบสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่น จนถูกขนานนามให้เป็นรถสปอร์ตคอมแพกต์คันแรกเมื่อเทียบกับรถในเซ็กเมนต์เดียวกัน
สำหรับข้อมูลบางส่วนของ มาสด้า3 โฉมใหม่ ออกแบบตามแนวคิด Center Focus Design ที่เน้นความสมดุลในการออกแบบทุกองค์ประกอบไปที่จุด Center ของรถ อันเป็นแนวคิดการออกแบบของรถต้นแบบ Mazda KIYORA นอกจากนี้ การดีไซน์กระจังหน้า 5 เหลี่ยมและการออกแบบภายใน นำมาจากรถต้นแบบ Mazda RYUGA ที่ได้รับรางวัลการออกแบบยานยนต์ต้นแบบยอดเยี่ยม ด้านความคิดสร้างสรรค์จากแบรนด์ดีไซน์เนอร์ชั้นสูงระดับโลก หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton Classic Concept Award) ปี 2551 ส่วนข้อมูลอื่นๆ รวมไปถึงราคายังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ