xs
xsm
sm
md
lg

Porsche Panamera S Hybrid อัจฉริยะเต็มรูปแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข่าวต่างประเทศ-ปอร์เช่เผยโฉมซูเปอร์สปอร์ต Porsche Panamera S Hybrid (พานาเมร่า เอส ไฮบริด) อัดแน่นเทคโนโลยีไฮบริดคู่ขนานเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกอย่างเป็นทางการในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 81

หลังจากความสำเร็จอย่างล้นหลามจากรุ่นคาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid) ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกที่ผ่านมานั้น เป็นเสมือนสัญญาณให้เห็นถึงความสำเร็จของการผลิตรถยนต์สปอร์ตตามแนวคิดและหลักปรัชญาของปอร์เช่ที่ว่า "ประสิทธิภาพการทำงานอย่างอัจฉริยะของปอร์เช่ หรือ Porsche Intelligence Performance" โดยโมเดลใหม่ Porsche Panamera S Hybrid จะเปิดตัวขึ้นในรอบปฐมทัศน์วันที่ 1 มีนาคม 2011 ณ งานแถลงข่าวซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณพื้นที่การแสดงรถยนต์ของปอร์เช่ใน Hall 1 stand เลขที่ 1050 โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 7:30 น.
เทคโนโลยีไฮบริดคู่ขนานเต็มรูปแบบ
พานาเมร่า เอส ไฮบริด พกพากำลังเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าสูงสุดถึง 380 แรงม้า (279 กิโลวัตต์) สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงแค่ 6.0 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 270 กม./ชม. เครื่องยนต์ที่ทำงานโดยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถวิ่งได้ยาวถึง 2 กม. โดยประมาณหรือวิ่งได้จนถึงอัตราความเร็วที่ 85 กม./ชม. ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ เครื่องยนต์ไฮบริดของปอร์เช่คือระบบเดียวในโลกที่สามารถใช้ประโยชน์จากการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบ "Sailing" ที่ใช้ขับเคลื่อนบนมอเตอร์เวย์และถนนสายหลัก และจะทำการตัดการทำงานและปิดหน่วยขับเคลื่อน powertrain เมื่อความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 165 กม./ชม.

ด้านอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.8 ลิตร/100 กม. (ตามรูปแบบการขับขี่แบบ NEDC) อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อย C02 เพียง 159 กรัม/กม. ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยม จึงทำให้ปอร์เช่รุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่ประหยัดที่สุดสำหรับแบรนด์ปอร์เช่ตั้งแต่เคยมีมา

นอกจากนี้ มิชลินได้ทำการผลิตยางรุ่นพิเศษที่มีประสิทธิภาพพร้อมใช้ทุกฤดู อีกทั้งยังผลิตออกมาเพื่อพานาเมร่ารุ่นนี้โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้ และหากติดตั้งยางรุ่นมาตรฐานแล้วอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นยังอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมจนเหลือเชื่อด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงแค่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น (ตามรูปแบบการขับขี่แบบ NEDC) และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่แค่เพียง 167 กรัม/กม.เท่านั้นเอง
เคย์แมน อาร์ เผยโฉมครั้งแรกเช่นกัน
นอกจากไฮไลท์ของความอัจฉริยะเต็มรูปแบบ ยังเสริมความน่าสนใจด้วยรถแข่งต้นแบบเครื่องยนต์ไฮบริดอย่าง 918 RSR Hybrid ซึ่งจะปรากฎตัวเป็นครั้งแรกต่อหน้าผู้ชมในยุโรปเลยทีเดียว ตามติดมาด้วยการนำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษอย่างเคย์แมน อาร์ (Cayman R) สปอร์ตคูเป้ที่มีกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 330 แรงม้า (243 กิโลวัตต์) ที่จะออกมาเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน รวมถึงรถรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด (Limited Edition) สายพันธุ์ 911 และ Boxster มาเผยโฉมเพื่อสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น คือ 911 Black Edition ที่มีขุมพลังถึง 345 แรรงม้า (254 กิโลวัตต์) บนพื้นฐานของรุ่น 911 คาเรร่า (911 Carrera) ซึ่งมียอดผลิตจำกัดเพียง 1,911 คันเท่านั้น และอีกหนึ่งรุ่นคือบล๊อคเสตอร์ เอส แบล็ค อิดิชั่น (Boxster S Black edition) รถยนต์บ็อกซเตอร์รุ่นพิเศษที่ผลิตเพียง 987 คัน ขุมพลังแรงม้านั้นสูงสุดถึง 320 แรงม้า (235 กิโลวัตต์) ซึ่งแรงกว่ารุ่นบ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) ถึง 10 แรงม้าเลยทีเดียว
911 Black Edition
สรุปแล้วงานนี้ปอร์เช่จัดหนักขนชุดใหญ่มาให้สาวกซูเปอร์สปอร์ตได้รับชมกันอย่างจุใจ หากต้องการมีส่วนร่วมกับการเปิดตัวในรอบปฐมทัศน์นี้ สามารถคลิ๊กชมการถ่ายทอดสดได้บนเว็บไซด์ www.porsche.com/geneva
Porsche Panamera S Hybrid เต็มตาด้านท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น