กลายเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งสุดฮ็อตที่สร้างสถิติหน้าใหม่ให้กับตลาดประเภทนี้ไปแล้วสำหรับมาสด้า MX-5 หรือโรดสเตอร์ (เมื่อขายในตลาดญี่ปุ่น และมิอาตะสำหรับตลาดอเมริกา) เมื่อมาสด้าเผยตัวเลขยอดผลิตโดยรวมทั้ง 3 เจนเนอเรชันของ MX-5 เมื่อถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ทะลุหลัก 900,000 คันไปแล้ว
โนบุฮิโร ยามาโมโต้ ผู้จัดการโปรแกรมการพัฒนา MX-5 รุ่นปัจจุบันกล่าวว่า ‘นับตั้งแต่มาสด้าเปิดตัว MX-5 รุ่นแรกออกมา สปอร์ตรุ่นนี้มีการผลิตทำตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีการเปลี่ยนโฉมเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นตลอด 21 ปีที่ทำตลาด แน่นอนว่ายอดการผลิตที่ทะลุ 900,000 คันในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืนของ MX-5 ที่ได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าทั่วโลก และสำหรับอนาคต การพัฒนา MX-5 ใหม่จะยังอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ การสร้างความสนุกสนาน และคงสปิริตแห่งการขับขี่ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้รถสปอร์ตรุ่นนี้กลายเป็นที่หลงใหลของคนทั่วโลก’
MX-5 เปิดตัวครั้งแรกในเดือนเมษายน 1989 โดย MX-5 เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากแนวคิดในการคิดค้นรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบาและให้การบังคับควบคุมที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ซึ่งเมื่อเข้าสู่ยุคทศวรรษที่ 1980 มาสด้าจึงเริ่มต้นในการสานต่อความเร้าใจนี้ จนเป็นที่มาของ MX-5 ในที่สุด โดยจนถึงปัจจุบัน MX-5 ทำตลาดมาแล้ว 3 เจนเนอเรชันรวมระยะเวลาที่อยู่ในตลาด 21 ปี 10 เดือน
ในปี 2000 มาสด้า MX-5 สร้างประวัติศาสตร์และถูกบันทึกลงใน Guinness World Records ฐานะที่เป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่งซึ่งมียอดขายดีที่สุด หรือ Best selling two-seater sportscar โดยในตอนนั้นมียอดผลิตสะสมจนถึงเดือนพฤษภาคม 2000 อยู่ที่ 531,890 คัน ก่อนที่จะทำสถิติใหม่ใสครั้งนี้ ซึ่งได้รับการบันทึกเป็น ใน Guinness World Records อีกครั้ง
‘เรามองไปข้างหน้าถึงหลักชัย และตัวเลขการผลิต 1 ล้านคันไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไป’ เซอิตะ คานาอิ กรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของมาสด้ากล่าว ‘มาสด้ายังยืนยันในการพัฒนาและปรับปรุง MX-5 ต่อไป เพื่อให้เป็นรถสปอร์ตที่สร้างความสนุกสนานในการขับขี่เช่นเดียวกับความใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย’
เชื่อว่าเจนเนอเรชันที่ 4 ของ MX-5 มีคิวเปิดตัวคันจริงในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 ซึ่งจะมีขึ้นปลายปีนี้อย่างแน่นอน