ข่าวต่างประเทศ - บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เผยยอดขายรถยนต์ในเครือ(บีเอ็มดับเบิลยู,มินิ,โรลส์-รอยซ์) ปี 2010 ทำได้ 1,461,166 คัน โต 14.6% เมื่อเทียบกับปี 2009
ในงานดีทรอยต์มอเตอร์โชว์ 2011 เอียน โรเบิร์ตสัน กรรมการบริหารของบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี รับผิดชอบงานด้านการตลาดและการขาย กล่าวว่า ปี 2010 เป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นผลลัพธ์จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ธุรกิจมีการขยายตัวในทุกภูมิภาค ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา ในปี 2011 เราวางเป้าหมายด้านยอดขายไว้ที่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งหมายถึงจะทำสถิติยอดขายสูงสุดในระดับแบรนด์ ทั้ง BMW, MINI และ Rolls-Royce และยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม
ในขณะที่เราจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดและบริหารอย่างระมัดระวัง เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์รุ่นหลัก ยกตัวอย่างเช่น BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่, BMW X3 รุ่นใหม่, BMW X1 และ MINI Countryman จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่ความสำเร็จอีกปีหนึ่ง
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ BMW
ในปี 2010 ยอดขายรถยนต์แบรนด์ BMW เพิ่มขึ้น 14.6% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 1,224,280 คัน ส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จสำหรับธุรกิจรถยนต์แบรนด์ BMW คือ ความสำเร็จจากรถยนต์รุ่นใหม่ เช่น BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ และ BMW X1 ที่ได้รับการตอบสนองจากตลาดทั่วโลกอย่างดีเยี่ยม โดย BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ สามารถสร้างยอดขายถึง 211,968 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22.6% และ BMW X1 ซึ่งเป็นปีแรกที่จำหน่ายเต็มปีก็สามารถทำยอดขายถึง 99,990 คัน
อีกแรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ รถยนต์รุ่นใหญ่ เช่น BMW ซีรี่ย์ 7 และรถอเนกประสงค์ SAV/SAC ซีรี่ย์ X ซึ่งได้เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียและในตลาดอเมริกาที่กำลังฟื้นตัว โดยยอดขายของ BMW ซีรี่ย์ 7 เพิ่มขึ้นถึง 24.9% จากปีก่อนหน้า ปิดปีที่ 65,814 คัน ในขณะเดียวกัน รถอเนกประสงค์ SAV/SAC ซีรี่ย์ X ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยอดขาย BMW X5 เพิ่มขึ้น 15.0% เป็น 102,178 คัน และ BMW X6 เพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 46,404 คัน
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ MINI
ยอดขายรถยนต์แบรนด์ BMW เพิ่มขึ้น 8.1% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 234,175 คัน โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มินิรายงานยอดขายสูงถึง 25,359 คัน เพิ่มขึ้น 38.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมี MINI Countryman ที่เริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมา มินิได้ส่งมอบ MINI Countryman ให้กับลูกค้าแล้ว 14,337 คัน ในขณะเดียวกัน มินิรุ่นอื่นๆ ก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยรุ่นแฮทช์แบ็คทำยอดขายได้ 155,841 คัน (+3.9% จากปีก่อนหน้า) รุ่น Convertible ทำยอดขายได้ 32,680 คัน (+15.5% จากปีก่อนหน้า)
มินิเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกตลาดทั่วโลก โดยตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจรถยนต์แบรนด์ MINI มียอดขาย 45,644 คัน อันดับที่ 2 คือ ตลาดอังกฤษ มียอดขาย 44,514 คัน และอันดับที่ 3 คือ ตลาดเยอรมัน มียอดขาย 31,472 คัน ในปี 2010 ที่ผ่านมา ตามลำดับ
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce
นอกจากรถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce ยังคงความเป็นผู้นำตลาดในเซ็กเมนท์ Ultra Luxury ยังทำสถิติยอดขายเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราการเติบโต 170.6% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 2,711 คัน ในเดือนธันวาคม รถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce รายงานยอดขาย 429 คัน (+16.9%) ในขณะที่ รถยนต์ Rolls-Royce รุ่น Ghost ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากตลาด รุ่น Phantom ก็ยังรักษาระดับยอดขายที่แข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม
BMW Group ประสบความสำเร็จในทุกภูมิภาค
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาดในปี 2010 ที่ผ่านมา โดยยังมีตลาดเยอรมัน มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยมียอดขายรวมของรถยนต์แบรนด์ BMW และ MINI อยู่ที่ 266,009 คัน (+3.1% เมือเทียบกับปีก่อนหน้า) ในขณะที่ตลาดเยอรมันโดยรวมมียอดจำหน่ายรถยนต์ลดลงถึง 23% จากปีก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอีก 2.3% เป็น 9.1% โดย BMW เป็นเพียงแบรนด์เดียวในตลาดที่สามารถมียอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดเยอรมันในปี 2010 ที่ผ่านมา
สำหรับตลาดอเมริกา ซึ่งสร้างสัดส่วนยอดขายเป็นอันดับที่ 2 ให้กับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขาย 265,757 คัน เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อนหน้า ซึ่ง BMW เป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมจากยุโรปที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 3 คือ ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่โดดเด่นในด้านอัตราการเติบโต โดยยอดขายรวมของแบรนด์ BMW และ MINI มีอัตราการเติบโตถึง 86.7% ที่ 168,998 คัน อีกทั้งยังเป็นตลาดที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของรถยนต์รุ่นใหญ่อีกด้วย
ตลาดอังกฤษ ซึ่งเป็นตลาดอันดับที่ 4 ในแง่ของสัดส่วนยอดขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในสภาวะตลาดผันผวนด้านเศรษฐกิจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขาย 157,312 คัน (+13.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) ในขณะเดียวกัน ตลาดอื่นๆทั่วโลกก็มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ยกตัวอย่างเช่น รัสเซีย (+26.7%, ยอดขาย 21,585 คัน), เกาหลีใต้ (+74.7%, ยอดขาย 19,222 คัน), บราซิล (+54.5%, ยอดขาย 9,886 คัน) และอินเดีย (+72.6%, ยอดขาย 6,246 คัน)
นอกจากธุรกิจรถยนต์แล้ว ธุรกิจมอเตอร์ไซค์ หรือ BMW Motorrad ก็เติบโต 12.3% ด้วยยอดขาย 98,047 คัน ในปี 2010 ที่ผ่านมา
ในงานดีทรอยต์มอเตอร์โชว์ 2011 เอียน โรเบิร์ตสัน กรรมการบริหารของบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี รับผิดชอบงานด้านการตลาดและการขาย กล่าวว่า ปี 2010 เป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นผลลัพธ์จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ธุรกิจมีการขยายตัวในทุกภูมิภาค ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา ในปี 2011 เราวางเป้าหมายด้านยอดขายไว้ที่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งหมายถึงจะทำสถิติยอดขายสูงสุดในระดับแบรนด์ ทั้ง BMW, MINI และ Rolls-Royce และยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม
ในขณะที่เราจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดและบริหารอย่างระมัดระวัง เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์รุ่นหลัก ยกตัวอย่างเช่น BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่, BMW X3 รุ่นใหม่, BMW X1 และ MINI Countryman จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่ความสำเร็จอีกปีหนึ่ง
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ BMW
ในปี 2010 ยอดขายรถยนต์แบรนด์ BMW เพิ่มขึ้น 14.6% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 1,224,280 คัน ส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จสำหรับธุรกิจรถยนต์แบรนด์ BMW คือ ความสำเร็จจากรถยนต์รุ่นใหม่ เช่น BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ และ BMW X1 ที่ได้รับการตอบสนองจากตลาดทั่วโลกอย่างดีเยี่ยม โดย BMW ซีรี่ย์ 5 ใหม่ สามารถสร้างยอดขายถึง 211,968 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22.6% และ BMW X1 ซึ่งเป็นปีแรกที่จำหน่ายเต็มปีก็สามารถทำยอดขายถึง 99,990 คัน
อีกแรงขับเคลื่อนสำคัญ คือ รถยนต์รุ่นใหญ่ เช่น BMW ซีรี่ย์ 7 และรถอเนกประสงค์ SAV/SAC ซีรี่ย์ X ซึ่งได้เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียและในตลาดอเมริกาที่กำลังฟื้นตัว โดยยอดขายของ BMW ซีรี่ย์ 7 เพิ่มขึ้นถึง 24.9% จากปีก่อนหน้า ปิดปีที่ 65,814 คัน ในขณะเดียวกัน รถอเนกประสงค์ SAV/SAC ซีรี่ย์ X ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยอดขาย BMW X5 เพิ่มขึ้น 15.0% เป็น 102,178 คัน และ BMW X6 เพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 46,404 คัน
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ MINI
ยอดขายรถยนต์แบรนด์ BMW เพิ่มขึ้น 8.1% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 234,175 คัน โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มินิรายงานยอดขายสูงถึง 25,359 คัน เพิ่มขึ้น 38.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมี MINI Countryman ที่เริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมา มินิได้ส่งมอบ MINI Countryman ให้กับลูกค้าแล้ว 14,337 คัน ในขณะเดียวกัน มินิรุ่นอื่นๆ ก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยรุ่นแฮทช์แบ็คทำยอดขายได้ 155,841 คัน (+3.9% จากปีก่อนหน้า) รุ่น Convertible ทำยอดขายได้ 32,680 คัน (+15.5% จากปีก่อนหน้า)
มินิเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกตลาดทั่วโลก โดยตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจรถยนต์แบรนด์ MINI มียอดขาย 45,644 คัน อันดับที่ 2 คือ ตลาดอังกฤษ มียอดขาย 44,514 คัน และอันดับที่ 3 คือ ตลาดเยอรมัน มียอดขาย 31,472 คัน ในปี 2010 ที่ผ่านมา ตามลำดับ
ธุรกิจรถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce
นอกจากรถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce ยังคงความเป็นผู้นำตลาดในเซ็กเมนท์ Ultra Luxury ยังทำสถิติยอดขายเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราการเติบโต 170.6% จากปีก่อนหน้า ปิดปีด้วยยอดขายที่ 2,711 คัน ในเดือนธันวาคม รถยนต์แบรนด์ Rolls-Royce รายงานยอดขาย 429 คัน (+16.9%) ในขณะที่ รถยนต์ Rolls-Royce รุ่น Ghost ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากตลาด รุ่น Phantom ก็ยังรักษาระดับยอดขายที่แข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม
BMW Group ประสบความสำเร็จในทุกภูมิภาค
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาดในปี 2010 ที่ผ่านมา โดยยังมีตลาดเยอรมัน มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยมียอดขายรวมของรถยนต์แบรนด์ BMW และ MINI อยู่ที่ 266,009 คัน (+3.1% เมือเทียบกับปีก่อนหน้า) ในขณะที่ตลาดเยอรมันโดยรวมมียอดจำหน่ายรถยนต์ลดลงถึง 23% จากปีก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอีก 2.3% เป็น 9.1% โดย BMW เป็นเพียงแบรนด์เดียวในตลาดที่สามารถมียอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดเยอรมันในปี 2010 ที่ผ่านมา
สำหรับตลาดอเมริกา ซึ่งสร้างสัดส่วนยอดขายเป็นอันดับที่ 2 ให้กับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขาย 265,757 คัน เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อนหน้า ซึ่ง BMW เป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมจากยุโรปที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 3 คือ ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่โดดเด่นในด้านอัตราการเติบโต โดยยอดขายรวมของแบรนด์ BMW และ MINI มีอัตราการเติบโตถึง 86.7% ที่ 168,998 คัน อีกทั้งยังเป็นตลาดที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของรถยนต์รุ่นใหญ่อีกด้วย
ตลาดอังกฤษ ซึ่งเป็นตลาดอันดับที่ 4 ในแง่ของสัดส่วนยอดขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในสภาวะตลาดผันผวนด้านเศรษฐกิจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถทำยอดขาย 157,312 คัน (+13.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) ในขณะเดียวกัน ตลาดอื่นๆทั่วโลกก็มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ยกตัวอย่างเช่น รัสเซีย (+26.7%, ยอดขาย 21,585 คัน), เกาหลีใต้ (+74.7%, ยอดขาย 19,222 คัน), บราซิล (+54.5%, ยอดขาย 9,886 คัน) และอินเดีย (+72.6%, ยอดขาย 6,246 คัน)
นอกจากธุรกิจรถยนต์แล้ว ธุรกิจมอเตอร์ไซค์ หรือ BMW Motorrad ก็เติบโต 12.3% ด้วยยอดขาย 98,047 คัน ในปี 2010 ที่ผ่านมา
ยอดขาย(คัน) | อัตราเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2009 | |
ยอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป | 1,461,166 | +13.6% |
แบรนด์ BMW | 1,224,280 | +14.6% |
แบรนด์ MINI | 234,175 | +8.1% |
แบรนด์ Rolls-Royce | 2,711 | +170.6% |
มอเตอร์ไซค์ | 98,047 | +12.3% |