xs
xsm
sm
md
lg

ภารกิจพิชิตโลกกับเบนซ์ จี-คลาส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สำหรับผู้รักการเดินทางผจญภัยท่องเที่ยว หากว่าเลือกที่จะเดินทางค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่คุณคิดว่าความพยายามของมนุษย์คนหนึ่งจะไปได้ไกลแค่ไหน?... "กุนเธอร์ โฮลทอรฟ์" อดีตนักธุรกิจชาวเยอรมนี อายุ 72 ปี เขาคนนี้กำลังเดินทางรอบโลกด้วยรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส ซึ่งได้เดินทางมาแล้วกว่า 20 ปี เป็นระยะทางกว่า 700,000 กิโลเมตร ข้ามพรมแดนประเทศมากว่า 180 ประเทศทั่วโลก อะไรคือแรงบันดาลใจให้เขาทิ้งความจำเจเพื่อมาเป็นผู้พิชิตภารกิจนี้สู่การบันทึกลงใน World Guinness Book "ASTV ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง" หาคำตอบมาให้แล้ว


อะไรทำให้คุณตัดสินใจเดินทางรอบโลก

ก่อนหน้านี้ผมทำงานในสายการบินและเมื่อมีอายุมากขึ้นผมถามตัวเองว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะออกไปใช้ชีวิตอย่างเคยฝัน คือตอนหนุ่มผมฝันว่าอยากเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง จนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมและภรรยาตกลงว่าเราจะลองขับรถไปท่องเที่ยวกัน เลยตัดสินใจซื้อเจ้า OTTO ซึ่งเป็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น จี-คลาสมาในราคาประมาณเกือบ 1 ล้านบาท สมัยโน้นถือว่าราคาค่อนข้างสูงแต่เทียบกับความทนทานนั้นสุดคุ้ม ดีเยี่ยม การเดินทางจึง เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศบ้านเกิด เยอมรนี และขับผ่านเข้ามาที่แอฟริกา ในตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะอยู่ประมาณ 1 ปี แต่พอเอาเข้าจริงทำให้ผมต้องใช้เวลาไปกว่า 5 ปีทีเดียว"

เส้นทางของการเดินทาง 20 ปี

อย่างที่เล่าไว้หลังจากขับผ่านแอฟริกามาได้ผมข้ามเรือมาต่อที่ทวีปอเมริกาใต้แล้วขึ้นไปอเมริกาเหนือกินเวลาไปอีกประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นก็ข้ามมานิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และล่าสุดคือทวีปเอเซีย สำหรับประเทศไทยคือประเทศที่ 182 จากทั้งหมด 200 ประเทศตามที่ตั้งใจไว้ ในครั้งแรกผมไม่ได้คิดว่าจะทำเพื่อเป็นสถิติโลก แต่ทางบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ใ ห้ความสนใจและสนับสนุนเรื่องการเดินทางเพื่อบันทึกใน World Guinness Book ภายใต้ชื่อว่า Round-the-World-Record-Tour"

เล่าถึงความประทับใจในการเดินทาง

"ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมชอบทุกที่ในโลกนี้แม้ว่าจะมีอุปสรรคบ้างก็ตามไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมถึงเรื่องของการเมืองและวัฒนธรรม สำหรับเรื่องของภาษาผมโชคดีตรงที่ผมสามารถสื่อสารได้ประมาณ 6 - 7 ภาษาทำให้การเดินทางง่ายขึ้นมาก แต่ในบางแห่งอย่างแอฟริกาส่วนมากจะเจอแต่สัตว์ป่าอันตรายหรือการเดินทางผ่านทะเลทรายซาฮาราอันแห้งแล้ง ทั้งยังมีอุปสรรคในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บเพราะผมและภรรยาอายุมาก อย่างประเทศไทย ผู้คนส่วนมากอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีน้ำใจบางครั้ง ก็พยายามสื่อสารกับผมทั้งๆที่ไม่ค่อยเข้าใจภาษา หรือเรื่องของอาหารไทยส่วนมากจะมีส่วนผสมของเครื่องเทศที่มีประโยชน์มากๆ"

รถยนต์ที่ใช้เดินทางเป็นอย่างไร

"เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น จี-คลาส คันนี้มีชื่อว่า OTTO ครับเป็นออฟโรดปี 1988 เครื่องยนต์ดีเซล 88 แรงม้า บนหลังคาจะมีหีบใหญ่สองใบบรรจุสัมภาระและยางอะไหล่ รวมถึงอุปกรณ์จำเป็นในการซ่อมบำรุงอีกกว่า 450 ชิ้น ทำให้รถมีน้ำหนักรวม 3.3 ตัน ผมใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่ามีทั้งครัว ห้องนอน ห้องน้ำ เรียกได้ว่าเหมือนบ้านทั่วๆไปเลยครับ ถ้าเจ้า OTTO เกิดขัดข้องผมก็จะงัดอุปกรณ์ที่มีอยู่ซ่อมแซมได้ทันที"

อะไรที่คุณเรียนรู้จากเดินทาง

"จิตใจคือสิ่งสำคัญมากบางครั้งผมเคยท้อแท้และเหนื่อยแต่ดีที่มีภรรยาคอยให้กำลังใจ ผมได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าคุณจะมีผิวสีอะไร พูดภาษาอะไร มีฐานะอะไร ก็ไม่สำคัญเพราะเราคือเพื่อนร่วมโลกเป็นมนุษย์เหมือนกันนี่ล่ะคือมิตรภาพ ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมหันมาช่วยกันดูแลทรัพยากรที่มีอยู่ให้ใช้ได้นานๆ"

หลังจากนี้คุณจะทำอะไรบ้าง

"ตอนนี้เหลือเวลาอีก 1 ปีกว่าผมต้องเดินทางให้ครบตามที่ตั้งใจไว้โดยจุดหมายสุดท้ายคือวนกลับไปยังประเทศเยอรมันนี ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 780,000 กิโลเมตร เมื่อเสร็จสิ้นการเดินทางผมจะยกเจ้า OTTO ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อนำไปแสดงโชว์ในพิพิธภัณฑ์ ณ เมืองสตุ๊ทการ์ท ให้คนรุ่นหลังศึกษาต่อไป ส่วนตัวผมเองตั้งใจเอารถเก่าๆที่มีอยู่ออกมาซ่อมแซมและใช้เวลากับภรรยาให้มากสุดครับ"

กุนเธอร์กล่าวทิ้งท้ายว่าการเดินทางไม่มีที่สิ้นสุดถ้าใจยังสู้แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ๆบนโลกนี้....

กำลังโหลดความคิดเห็น