xs
xsm
sm
md
lg

Mazda CX-9 SUVตัวกลั่น เพื่อชนชั้นชอบสบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 เข้ามาเพื่อเติมเต็มช่องว่างของลูกค้า ซึ่งชอบในแบรนด์มาสด้าและอยากได้รถเอนกประสงค์ที่มีความแตกต่างในแนวทางของมาสด้าเอาไว้ใช้งาน” นั่นคือคำกล่าวถึงเหตุผลของการนำรถรุ่นดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยของผู้บริหารแห่งค่ายซูม-ซูม

โดยตลาดรถเอสยูวีระดับหรูของเมืองไทยแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่(ปีละไม่กี่ร้อยคัน) แต่ถือว่ายังมีที่ว่างให้กับแบรนด์ต่างๆ อีกหลายค่ายนำรถใหม่เข้ามาแจ้งเกิดได้ไม่ยากและ มาสด้า ซีเอ๊กซ์-9 ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายจากยอดส่งมอบรถให้ลูกค้าแล้ว 37 คันในระยะเวลาเพียง 2 เดือนนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว

สำหรับรถที่ครองบัลลังค์เจ้าตลาดในปี 2009ของรถประเภทSUVใหญ่ 3 แถว 7 ที่นั่ง อยู่ก็คือ วอลโว่ เอ็กซ์ซี-90 ด้วยยอดขายทั้งปี 107 คัน รองลงมาเป็น เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 จำนวน 65 คัน ดังนั้นการเปิดตัวมาด้วยตัวเลขขายแล้ว 37 คันในระยะเวลาเพียง 2 เดือนของมาสด้า ซีเอ็กซ์-9 จึงพูดว่า “สุดยอด” ได้อย่างเต็มปาก

คำถามที่ตามมาคือ มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 มีดีอย่างไร เหตุใดผู้บริโภคชาวไทยถึงได้ให้การตอบรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้ ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง ไปหาคำตอบมาให้ หลังตอบรับคำเชิญและเข้าร่วมทดลองขับ ซีเอ็กซ์-9 ที่ทางค่ายมาสด้าจัดให้ บนเส้นทางยอดฮิตในช่วงฤดหนาว กรุงเทพฯ – เขาใหญ่

สัมผัสแรกของเรากับเจ้าซีเอ็กซ์-9 คือความรู้สึกสะดุดตากับรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว กระจังหน้าดีไซน์แนวเดียวกับรถต้นแบบของทางค่ายมาสด้า ตื่นตาตื่นใจกับล้อหน้าและหลังขนาด 20 นิ้วพร้อมยางขนาด 245/50R20 ให้ความรู้สึกสปอร์ตเต็มรูปแบบ

มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 คันของเรามีสื่อมวลชนร่วมเดินทางไปด้วยทั้งสิ้น 5 คน เมื่อเข้าไปนั่งเบาะหลังอันเป็นตำแหน่งแรกของการเดินทางครั้งนี้ รู้สึกถึงพื้นที่กว้างขวางนั่งสบาย มีพื้นที่เหนือเข่าเหลือเฟือ แม้คนนั่งหน้าจะปรับเบาะถอยหลังและเอนมาค่อนข้างมากก็ตาม ตัวเบาะหลังมีปีกข้างโอบกระชับแบบสปอร์ตและสามารถปรับระดับเอนได้ตามต้องการ ขณะที่เบาะหลังทั้งหมดนั่งกัน 3 คน มีเสียงบ่นเล็กน้อยจากผู้นั่งกลางว่า นั่งไม่ค่อยสบายเท่ากับคนอื่น

เมื่อนั่งกันเรียบร้อยการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นโดยใช้ทางด่วนมุ่งหน้าทิศเหนือ สภาพถนนช่วงนี้พื้นผิวค่อนข้างเรียบ เสียงดังรบกวนน้อย นั่งหลังสบายไม่เวียนหัวหรือรู้สึกกระด้างกระเทือนแต่อย่างใด แม้จะใช้ล้อยางขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วก็ตาม

ความเร็วสูงสุดที่ผู้ขับช่วงนี้ทำได้คือเรา 170 กม./ชม. ตัวรถก็ยังนิ่งๆ เกาะถนน ทรงตัวดี ไม่มีอาการโยนหรือลอยลม แต่จะเรื่องของเสียงลมปะทะดังเข้ามารบกวนบ้างเมื่อขับเร็วเกินกว่า 130 กม./ชม. ส่วนการป้องกันเสียงดังจากเครื่องยนต์รบกวนเข้าห้องโดยสารทำได้เงียบดี

ระหว่างการนั่ง ได้สำรวจและทดลองเล่นฟังก์ชั่นต่างที่มาสด้ามีให้เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกส่วนทั้งซ้าย-ขวาและหน้า-หลัง เครื่องเสียงจอLCD 4.3 นิ้ว ระบบบันทึกข้อมูลการขับขี่ (Trip Computer) หลังคาซันรูฟ ที่เปิดได้ 2 รูปแบบ

ตัดฉากกลับไปที่คิวของการเป็นผู้ขับ เมื่อเข้านั่งประจำการหลังพวงมาลัย ติดเครื่องยนต์โดยไม่ต้องเสียบกุญแจแค่บิดปุ่มสตาร์ทที่คอพวงมาลัย เข้าเกียร์เดินหน้า เหยียบคันเร่งปุ๊บ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแบบซูม-ซูมปั๊บ เครื่องยนต์ขนาด 3.7 ลิตร พละกำลัง 273 แรงม้า แรงบิด 367 นิวตันเมตร ให้การตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัว

พวงมาลัยหนังคุณภาพผิวเนียน จับกระชับมือ น้ำหนักเวลาหักเลี้ยวพอดีไม่เบาหรือหนักจนเกินไป การขับขี่ที่ย่านความเร็วระดับ 140-150 กม./ชม. ไม่รู้สึกว่าเร็ว ความรู้สึกยังเหมือนวิ่งแค่ 100 กม./ชม. เทียบชั้นรถSUVที่เป็นคู่แข่งในระดับเดียวกันได้อย่างไม่น้อยหน้า

ส่วนสิ่งที่ดูจะไม่ค่อยชอบใจของสื่อมวลชนบางท่านที่ร่วมทดลองขับในทริปนี้ คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์ภายหลังจากกดคันเร่งแบบคิกดาวน์แล้วจะต้องรอประมาณอึดใจนึง(ราว 1-2 วินาที) รถจึงจะตอบสนองลดเกียร์ต่ำลงมาและพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ซึ่งการตอบสนองช้ากว่าที่ผู้ขับคิด อาจจะเป็นผลมาจากการเซ็ตคันเร่งไม่ให้คิกดาวน์ติดง่ายจนเกินไป อันจะทำให้รถขับไม่นุ่มนวลและยังสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุอีกด้วย ส่วนการทำงานระบบเกียร์ 6 สปีดActivematic ช่วงการเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลได้รอยต่อเหมือนเป็นเกียร์ระบบสายพาน(CVT) ทั้งที่เป็นเกียร์ระบบเฟือง

ด้านทัศนวิสัยการขับชัดเจนดี ทั้งการขับแบบนอกเมืองและในเมือง โดยในเมืองความคล่องจะน้อยกว่ารถแบบอื่นเนื่องจากตัวรถมีขนาดใหญ่และสูง แต่จะได้เปรียบเวลาเบียดเพื่อเปลี่ยนเลนเพราะอยู่ในมุมมองที่สูงกว่านั่นเอง

อัตราการบริโภคน้ำมันจากการเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 76 กม./ชม. ตามการแสดงผลของหน้าจอ(ขับจริงส่วนใหญ่จะวิ่งราว 120-140 กม./ชม. มีคิกดาวน์อย่างต่อเนื่อง) อยู่ที่ระดับ 14.6 ลิตรต่อระยะทาง 100 กม. หรือคิดเป็น 6.9 กม./ลิตร ใกล้เคียงกับตัวเลขของทีมงานมาสด้าที่เคลมไว้ระดับ 7-8 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลสำหรับประเภทนี้ โดยซีเอ็กซ์-9 สามารถเติมน้ำมันได้ตั้งแต่ แก๊สโซฮอล์ชนิด อี10ออกเทน91 ขึ้นไป

สำหรับมาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ทุกคันผลิตจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่นแล้วส่งออกไปทำตลาดทั่วโลก แต่ไม่ทำตลาดในบ้านตัวเอง เนื่องจากคนญี่ปุ่นไม่นิยมรถSUVขนาดใหญ่ ส่วนตลาดสำคัญที่สุดของ ซีเอ็กซ์-9 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสหรัฐอเมริกา

สรุป มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ครบเครื่องทั้งเรื่องรูปลักษณ์ สมรรถณะ การใช้งาน และเมื่อมองเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันราคา 3.69 ล้านบาทของ ซีเอ็กซ์-9 นับว่ายังถูกกว่าคู่แข่งอีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เมื่อเห็นยอดขายซีเอ็กซ์-9 เดินหน้า แถมยังมีกระแสถามถึงซีเอ็กซ์-7 จากลูกค้าที่ชอบรถแนวนี้อีกด้วย















กำลังโหลดความคิดเห็น