สำหรับรถยนต์จากยุโรปที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย แบรนด์เก่าแก่อันดับต้นๆ ต้องยกให้กับ “เฟียต” (FIAT) ที่ห่างหายการทำตลาดไปนานหลายปี แต่ล่าสุด “กลุ่มพระนครยนตการ” ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์ เฟียต ในประเทศไทยได้ฟื้น เฟียต กลับมาทำตลาดอีกครั้ง ASTVผู้จัดการมอเตอริ่งจึงนำเสนอเรื่องราวในอดีตของรถเฟียตกันสักหน่อยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
เฟียตก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1899 โดย Giovanni Agnelli ร่วมกับนักลงทุนอีกหลายคน ซึ่งรถยนต์รุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดมีชื่อว่า 3 ½ CV เครื่องยนต์ขนาด 697 ซีซี แบบบอกเซอร์ ต่อมาเริ่มผลิตรถบรรทุกเมื่อปี 1903 และส่งออกไปขายยังอเมริกาเมื่อปี 1908 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเฟียตได้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินเป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับคำว่า FIAT ย่อมาจาก FABBRICA ITALANA AUTOMOBILI TORINO แปลว่า โรงผลิตรถยนต์ แห่งเมืองตูริน
เฟียตเริ่มเป็นที่รู้จักมาขึ้นในยุโรปเมื่อรถของเฟียต ถูกนิยมนำมาทำเป็นแท็กซี่คอยรับส่งผู้คน ส่งผลให้เฟียตเติบโตขึ้นมาเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ในปี 1910 และยังคงความยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาปี 1917 เข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โรงงานผลิตรถยนต์ของเฟียตต้องยุติการผลิตรถ แล้วหันมาผลิตอากาศยาน, ปืนกล, รถบรรทุก และรถพยาบาล รวมถึงเครื่องยนต์ต่างๆ ที่สนับสนุนภารกิจการทำสงครามของฝ่ายพันธมิตร
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลง เฟียตกลับมาเริ่มต้นผลิตรถแทรคเตอร์ เป็นอันดับแรก ด้วยปรัชญาในการผลิตที่เน้นตอบสนอง รถระดับชาวบ้าน ใช้งานอย่างคุ้มราคา
ในปี 1922 เฟียตก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ลิงกอตโต้ (Lingotto) ขึ้น โดยเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งยังเป็นโรงงานแห่งแรกของเฟียตที่ใช้เทคโนโลยีไลน์ประกอบรถยนต์ ซึ่งเริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1923 ต่อมาในปี 1925 เฟียตสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อิตาลีได้ถึง 87%
เมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เฟียตก็ต้องกลับมาผลิตยานยนต์และอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ และรถหุ้มเกราะ เพื่อสนับสนุนกองทัพอิตาลีและเยอรมัน จนกระทั่งสงครามยุติลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายอักษะ และส่งผลให้ ตระกูล Agnelli ต้องยุติบทบาทของตัวเองในเฟียตตามไปด้วยเนื่องจากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับมุสโสลินี่
จวบจนกระทั่งในปี 1963 Gianni Agnelli หลานของ Giovanni เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการและดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป และกลายมาเป็นประธานตั้งแต่ปี 1966จนถึงปี 1996 นำพาเฟียตก้าวสู่ความยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของอิตาลี
ปัจจุบัน เฟียตมีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากมายไล่เรียงตั้งแต่รถขนาดเล็กจิ๋วจนถึงระดับซุปเปอร์ คาร์ ได้แก่ เฟอร์รารี่, อัลฟา โรมีโอ, มาเซราติ, แลนเซีย, อาบาร์ท และเฟียต ทั้งนี้นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว เฟียตยังมีธุรกิจอื่นอีกเช่น รถบรรทุก,อุปกรณ์การเกษตร,อุปกรณ์ก่อสร้าง,การเงิน,สื่อสิ่งพิมพ์ และอุตสาหกรรมเหล็ก เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีใครเรียกเฟียตว่าเป็น มาเฟียแห่งอิตาลี
เฟียตก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1899 โดย Giovanni Agnelli ร่วมกับนักลงทุนอีกหลายคน ซึ่งรถยนต์รุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดมีชื่อว่า 3 ½ CV เครื่องยนต์ขนาด 697 ซีซี แบบบอกเซอร์ ต่อมาเริ่มผลิตรถบรรทุกเมื่อปี 1903 และส่งออกไปขายยังอเมริกาเมื่อปี 1908 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเฟียตได้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินเป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับคำว่า FIAT ย่อมาจาก FABBRICA ITALANA AUTOMOBILI TORINO แปลว่า โรงผลิตรถยนต์ แห่งเมืองตูริน
เฟียตเริ่มเป็นที่รู้จักมาขึ้นในยุโรปเมื่อรถของเฟียต ถูกนิยมนำมาทำเป็นแท็กซี่คอยรับส่งผู้คน ส่งผลให้เฟียตเติบโตขึ้นมาเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ในปี 1910 และยังคงความยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาปี 1917 เข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โรงงานผลิตรถยนต์ของเฟียตต้องยุติการผลิตรถ แล้วหันมาผลิตอากาศยาน, ปืนกล, รถบรรทุก และรถพยาบาล รวมถึงเครื่องยนต์ต่างๆ ที่สนับสนุนภารกิจการทำสงครามของฝ่ายพันธมิตร
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลง เฟียตกลับมาเริ่มต้นผลิตรถแทรคเตอร์ เป็นอันดับแรก ด้วยปรัชญาในการผลิตที่เน้นตอบสนอง รถระดับชาวบ้าน ใช้งานอย่างคุ้มราคา
ในปี 1922 เฟียตก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ลิงกอตโต้ (Lingotto) ขึ้น โดยเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งยังเป็นโรงงานแห่งแรกของเฟียตที่ใช้เทคโนโลยีไลน์ประกอบรถยนต์ ซึ่งเริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1923 ต่อมาในปี 1925 เฟียตสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อิตาลีได้ถึง 87%
เมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เฟียตก็ต้องกลับมาผลิตยานยนต์และอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ และรถหุ้มเกราะ เพื่อสนับสนุนกองทัพอิตาลีและเยอรมัน จนกระทั่งสงครามยุติลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายอักษะ และส่งผลให้ ตระกูล Agnelli ต้องยุติบทบาทของตัวเองในเฟียตตามไปด้วยเนื่องจากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับมุสโสลินี่
จวบจนกระทั่งในปี 1963 Gianni Agnelli หลานของ Giovanni เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการและดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป และกลายมาเป็นประธานตั้งแต่ปี 1966จนถึงปี 1996 นำพาเฟียตก้าวสู่ความยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของอิตาลี
ปัจจุบัน เฟียตมีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากมายไล่เรียงตั้งแต่รถขนาดเล็กจิ๋วจนถึงระดับซุปเปอร์ คาร์ ได้แก่ เฟอร์รารี่, อัลฟา โรมีโอ, มาเซราติ, แลนเซีย, อาบาร์ท และเฟียต ทั้งนี้นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว เฟียตยังมีธุรกิจอื่นอีกเช่น รถบรรทุก,อุปกรณ์การเกษตร,อุปกรณ์ก่อสร้าง,การเงิน,สื่อสิ่งพิมพ์ และอุตสาหกรรมเหล็ก เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีใครเรียกเฟียตว่าเป็น มาเฟียแห่งอิตาลี