xs
xsm
sm
md
lg

Mazda 6 : ปรับโฉมกระตุ้นตลาดระลอกใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดูเหมือนว่าช่วงนี้มาสด้าจะมีคิวกระตุ้นตลาดในทุกระดับกันอย่างต่อเนื่อง เพราะทิ้งระยะจากการเผยโฉมรุ่นใหม่ของมาสด้า 5 หรือพรีมาซี่ได้ไม่นาน ก็จัดการเผยความเคลื่อนไหวในการทำตลาด D-Segment หรือรถยนต์ครอบครัวด้วยการไมเนอร์เชนจ์ หรือปรับโฉมให้กับรุ่น 6 หรือใช้ชื่ออาเทนซา (Atenza) เมื่อเป็นเวอร์ชัน JDM

มาสด้า 6 ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่มีความสำคัญสำหรับมาสด้ายุคใหม่ เพราะรุ่นแรกของชื่อนี้ที่เปิดตัวในปี 2002 ถือเป็นรถยนต์หลักรุ่นแรกของมาสด้าที่เปิดตัวขึ้นมาภายใต้นโยบายการเปลี่ยนชื่อรุ่นในการทำตลาด โดยในญี่ปุ่นเปลี่ยนจากตระกูล 626/คาเปลล่า มาเป็นอาเทนซาสำหรับญี่ปุ่น และใช้ชื่อ 6 ในการทำตลาดโลก หลังจากนั้นแนวคิดนี้ก็ถูกนำมาใช้กับรถยนต์อย่าง 323/แฟมิเลีย ซึ่งถูกเปลี่ยนมาเป็นแอกเซลา และ 3 เช่นเดียวกับเดมิโอที่ถูกเปลี่ยนมาเป็น 2 สำหรับตลาดโลก และ 5 สำหรับรุ่นพรีมาซี่

ชื่อ 6 นอกจากจะระบุถึงระดับของกลุ่มตลาดแล้ว อีกนัยหนึ่งน่าจะหมายถึงสายพันธุ์ที่ 6 เมื่อนับรวมการทำตลาดต่อเนื่องกับ 626/คาเปลล่าที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1978 สำหรับตลาดโลก แต่ถ้านับชื่อคาเปลล่าในตลาดญี่ปุ่นจะมีมากกว่า 626 ในตลาดโลก 1 รุ่น เพราะคาเปลล่าเริ่มขายรุ่นแรกในปี 1970 และใช้ชื่อ 616/618 ในตลาดสหรัฐอเมริกา ส่วนรุ่นแรกของ 626 ในตลาดโลกเพิ่งจะมาเริ่มขึ้นโดยใช้รุ่นที่ 2 ของคาเปลล่าในการทำตลาด

สำหรับรุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ในชื่ออาเทนซ่า/6 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 ที่งานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ซึ่งเมื่อนับดูระยะเวลาในการทำตลาดมาแล้วก็ถึงเวลาของการกระตุ้นตลาดแล้ว ซึ่งทางมาสด้าวางคิวเผยโฉมในงาเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 เดือนมีนาคมนี้ และเป็นการปรับโฉมแบบครบเซ็ตทั้งซีดาน, แวกอน และฟาสต์แบ็ก 5 ประตู

ความเปลี่ยนแปลงของตัวรถเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาจะมีขึ้นตลอดทั้งคัน แต่มีเฉพาะด้านหน้าเท่านั้นที่มีภาพให้เห็น ซึ่งสามารถพบกับความเปลี่ยนแปลงได้ทั้งกระจังหน้า ไฟหน้า และกันชนหน้าแบบใหม่ ดูสดใสขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน ขณะที่ด้านท้าย คำว่า ‘ใหม่’ ของมาสด้าไม่รู้ว่าจะครอบคลุมได้ถึงขนาดไหน

ในส่วนของเครื่องยนต์ที่เปิดเผยออกมาเป็นสเปกที่ขายในยุโรป โดยมีเครื่องยนต์ตระกูล MZR เป็นทางเลือกหลัก ด้วยความจุในระดับ 1,800-2,500 ซีซี ส่วนในตลาดอเมริกายังคงมีเครื่องยนต์วี6 3,700 ซีซีของเอสยูวีรุ่น CX-9 ให้เลือกเหมือนเดิม ขณะที่ในยุโรปจะมีขุมพลังเทอร์โบดีเซลบล็อกใหม่ 2,200 ซีซี แต่มีระดับความเร้าใจให้เลือก 3 แบบโดยมีกำลังขับเคลื่อนอยู่ระหว่าง 129-180 แรงม้า

นอกจากนั้นทางมาสด้าบอกว่า 6 ไมเนอร์เชนจ์ยังจะมีการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่ให้ตอบสนองการขับขี่ที่เร้าใจขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไป เช่น ไฟหน้าเลี้ยวตามการหมุนของพวงมาลัย หรือระบบช่วยในการออกตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชัน หรือ Hill-Launch Assist


หลังจากเปิดตัวแล้ว คาดว่ามาสด้าคงจะเริ่มทยอยส่งรุ่นปรับโฉมของ 6/อาเทนซ่าทำตลาดทั่วโลก แต่บ้านเราคงได้แต่ดูรูปกัน เพราะตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นรุ่น 6 มาสด้าก็เมินการรุกตลาดรถยนต์ครอบครัวในบ้านเราไปเลย

กำลังโหลดความคิดเห็น