วันนี้(21 ม.ค.) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวถึงทิศทางตลาดรถยนต์และนโยบายบริษัท นำโดยศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวรถใหม่สองรุ่นคือ อี-คลาส รุ่นประกอบในประเทศ (CKD) กับ เอส-คลาส ปรับโฉม
เริ่มด้วย E 300 AVANTGARDE (W 212) รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 2,996 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 161 กิโลวัตต์ /219 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 2,500 – 5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 247 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ขณะเดียวกันด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.27 ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class เป็นยนตรกรรมหรูที่ลู่ลมมากที่สุด นอกจากนี้ E 300 AVANTGARDE ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยทางด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะในการขับขี่ สนนราคาที่ 4,999,000 บาท
อีกรุ่นเป็นสุดยอดยนตรกรรมหรู S-Class ปรับโฉม ที่มาใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ S 300 L, S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ S 500 L โดยยนตกรรมทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งด้านความสะดวกสบายในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
The new generation S-Class มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความโดดเด่นภูมิฐาน ด้วยไฟคู่หน้าแบบไบซีนอน และไฟท้ายที่เพิ่มมุมมองแบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยี LED ที่ส่องสว่างไกล ให้รถที่ตามมาเห็นสัญญาไฟได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อันประกอบด้วย ATTENTION ASSIST ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Adaptive Highbeam Assist ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืน Night View Assist Plus ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน รวมถึงจอภาพแสดงผลแบบ SPLITVIEW ซึ่งสามารถแสดงภาพสองมุมมองภายใต้จอแสดงผลเดียว เป็นครั้งแรกของโลกยานยนต์ ในการนำเทคโนโลยีชั้นสูงนี้มาใช้ ซึ่งในขณะที่ผู้ขับขี่อ่านแผนที่จากระบบ NAVIGATION ผู้โดยสารด้านหน้าก็สามารถชมภาพยนตร์จากเครื่องเล่นดีวีดีได้
เอส-คลาส ใหม่ สนนที่ราคา 7,799,000 บาท สำหรับ S 300 L, 7,999,000 บาท สำหรับ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ 10,999,000 บาท สำหรับ S 500 L
ด้านศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า E 300 AVANTGARDE และ the new generation S-Class เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการประกอบระดับโลกจากบริษัทแม่ในประเทศเยอรมนี ด้วยรางวัล Mercedes-Benz Quality Award CKD
ทั้งนี้บริษัทฯจะได้จัดงาน Showroom Launch สำหรับทั้ง 2 รุ่นพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22-23-24 มกราคมนี้ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมอื่นๆมากมาย ที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์
“แนวโน้มรถยนต์รุ่นใหม่ๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะเป็นยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ภายใต้แนวคิด “BlueEFFICIENCY” ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในอันที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซค์อย่างมีประสิทธิภาพ” ศ. ดร.เพาฟเลอร์ กล่าว
เริ่มด้วย E 300 AVANTGARDE (W 212) รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 2,996 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 161 กิโลวัตต์ /219 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 2,500 – 5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 247 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ขณะเดียวกันด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.27 ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class เป็นยนตรกรรมหรูที่ลู่ลมมากที่สุด นอกจากนี้ E 300 AVANTGARDE ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยทางด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะในการขับขี่ สนนราคาที่ 4,999,000 บาท
อีกรุ่นเป็นสุดยอดยนตรกรรมหรู S-Class ปรับโฉม ที่มาใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ S 300 L, S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ S 500 L โดยยนตกรรมทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งด้านความสะดวกสบายในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
The new generation S-Class มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความโดดเด่นภูมิฐาน ด้วยไฟคู่หน้าแบบไบซีนอน และไฟท้ายที่เพิ่มมุมมองแบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยี LED ที่ส่องสว่างไกล ให้รถที่ตามมาเห็นสัญญาไฟได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อันประกอบด้วย ATTENTION ASSIST ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Adaptive Highbeam Assist ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืน Night View Assist Plus ระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน รวมถึงจอภาพแสดงผลแบบ SPLITVIEW ซึ่งสามารถแสดงภาพสองมุมมองภายใต้จอแสดงผลเดียว เป็นครั้งแรกของโลกยานยนต์ ในการนำเทคโนโลยีชั้นสูงนี้มาใช้ ซึ่งในขณะที่ผู้ขับขี่อ่านแผนที่จากระบบ NAVIGATION ผู้โดยสารด้านหน้าก็สามารถชมภาพยนตร์จากเครื่องเล่นดีวีดีได้
เอส-คลาส ใหม่ สนนที่ราคา 7,799,000 บาท สำหรับ S 300 L, 7,999,000 บาท สำหรับ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L และ 10,999,000 บาท สำหรับ S 500 L
ด้านศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า E 300 AVANTGARDE และ the new generation S-Class เป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานการประกอบระดับโลกจากบริษัทแม่ในประเทศเยอรมนี ด้วยรางวัล Mercedes-Benz Quality Award CKD
ทั้งนี้บริษัทฯจะได้จัดงาน Showroom Launch สำหรับทั้ง 2 รุ่นพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22-23-24 มกราคมนี้ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมอื่นๆมากมาย ที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์
“แนวโน้มรถยนต์รุ่นใหม่ๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะเป็นยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ภายใต้แนวคิด “BlueEFFICIENCY” ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในอันที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซค์อย่างมีประสิทธิภาพ” ศ. ดร.เพาฟเลอร์ กล่าว
