ข่าวในประเทศ - “เสี่ยเชียร” วิเชียร ลีนุตพงษ์ นำทัพคนรุ่นใหม่พา “ยูโรเปียน เอ็นเตอร์ไพรซ์” เดินออกจากร่มเงา “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” พร้อมกับนำแบรนด์รถยนต์ ซีตรอง, สโกด้า, เซียท, จีลี และโพลาร์ซัน รวมถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ตกแต่งพิเศษ “เอ็มทีเอ็ม” ประเดิมชูแบรนด์ “สโกด้า” เริ่มนำทัพ เดินหน้าลุยสังเวียนตลาดรถยนต์ไทย ด้วยการเปิดตัวรถใหม่ สโกด้า ออคตาเวีย 1.8 ทีเอสไอ ใหม่ และแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู สโกด้า ฟาเบีย เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เคาะราคาเกือบ 2 ล้านบาท และ 1.49 ล้านบาท พร้อมกับนำทั้งสองรุ่นมาตกแต่งใหม่ในสไตล์เอ็มทีเอ็ม(MTM) ไม่ว่าจะโมดิฟายด์เครื่องยนต์ ปรับช่วงล่าง และชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน ทำให้ต้องขยับราคาขึ้นอีก 2-3 แสนบาท โดยจะแนะนำกับสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ซึ่งงานนี้ยังควงรถยนต์ในกลุ่มไม่ว่าจะเป็น ซีตรอง จีลี และโพลาซัน มาอัดแคมเปญกวาดยอดขายด้วย ขณะที่แบรนด์ “เซียท” น่าจะถูกปลุกชีพกลับมาลุยตลาดไทยในปีหน้า
สร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก เมื่อ “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” ที่เพิ่งมีการปรับโครงสร้างองค์กรไปหมาดๆ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา กลับต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ด้วยการแยกธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มออกไปอีกรอบ โดยในส่วนของแบรนด์ออดี้ เกีย และมิตซูโอกะ ฝ่ายพี่ใหญ่ “สรวิศ ลีนุตพงษ์” เป็นผู้ดูแลภายใต้โครงสร้างของยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่นต่อไป ขณะที่รถยนต์ซีตรอง สโกด้า เซียท จีลี และโพลาร์ซัน ฝ่ายของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” นำไปบริหารเอง เหลือเพียง “นาซ่า” ที่ยังไม่สรุป เพราะต้องพิจารณาร่วมกับบริษัทแม่ที่มาเลเซีย เพื่อที่จะมีการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายใหม่หรือไม่?
แน่นอนว่าแบรนด์รถยนต์ในส่วนของสายพี่ใหญ่สรวิศ ไม่น่าจะมีปัญหาในการเดินหน้าทำตลาดแต่อย่างใด เนื่องจากทั้งออดี้ และเกีย เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคในไทยรับรู้พอสมควร แต่แบรนด์ในมือของวิเชียร หรือ “เสี่ยเชียร” ผู้น้อง คงมีเพียง “ซีตรอง” เท่านั้น ที่เป็นที่พอรับรู้ของลูกค้า ส่วนที่เหลือหากไม่ใช่ผู้ชื่นชอบรถยนต์จริงๆ เชื่อว่าส่วนใหญ่จะไม่รู้จักกัน
อย่างไรก็ตาม ซีตรองก็มีปัญหาในการสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวสินค้า และกิจกรรมการตลาด ทำให้ทางฝ่ายเสี่ยเชียรจำเป็นต้องผลักดันแบรนด์อื่นๆ ในกลุ่มขึ้นมานำ พร้อมกับยก “ยูโรเปียน เอ็นเตอร์ไพรซ์” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ทำตลาดสโกด้าในไทย เป็นองค์กรนำในการบริหารรถยนต์ในกลุ่มทั้งหมด รวมถึงธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ตกแต่ง ในชื่อ “เอ็มทีเอ็ม” (MTM) ที่เป็นของเสี่ยเชียรเอง ก็ได้นำมารวมไว้ในโครงสร้างบริหารของยูโรเปียนฯ ใหม่ โดยมีสำนักงานอยู่แถวศรีวรา ย่านรามคำแหง
สำหรับแผนการรุกตลาด ยูโรเปียนฯ จะเริ่มด้วยการผลักดันแบรนด์ “สโกด้า” ขึ้นมาเป็นอีกธงนำของกลุ่ม นอกจากซีตรองที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยจะมีการเปิดตัวรถสโกด้ารุ่นใหม่วันนี้(25 พ.ย.) และจะมีการแนะนำสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ พร้อมกับนำรถในกลุ่มอย่างซีตรองมาให้ลูกค้าได้สัมผัส และเลือกซื้อในเงื่อนไขพิเศษด้วย เช่นเดียวกับจีลีและโพลาร์ซัน ขณะที่แบรนด์ “เซียท” อยู่ในแผนนำมาปลุกชีพปีหน้า
ทั้งนี้ “สโกด้า” เป็นรถยนต์จากสาธารณรัฐเช็ก ในกลุ่มโฟล์กสวาเกน ซึ่งทำตลาดในไทยมานานนับสิบปี โดยกลุ่มยนตรกิจของตระกูล “ลีนุตพงษ์” เป็นผู้ถือสิทธิ์การจำหน่าย จนมีการเปลี่ยนแปลงและปรับโครงสร้างธุรกิจเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมา และล่าสุดเพิ่งปรับอีกระลอก ทำให้สโกด้าตกมาอยู่ในมือของเสี่ยเชียรตามที่กล่าวไป ซึ่งตลอดระยะเวลาที่สโกด้าเข้ามาทำตลาดในไทย ไม่ค่อยได้รับการผลักดันอย่างจริงจังจากยนตรกิจเท่าไหร่ จึงทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไทยนัก
ส่วนการเปิดตัวรถยนต์สโกด้าครั้งนี้ ถึงจะไม่เป็นโมเดลใหม่สดในตลาดไทย เพราะเคยนำเข้ามาทำตลาดแล้ว แต่ก็ถือเป็นตัวธงนำของแบรนด์สโกด้า เริ่มกันที่รุ่นแรก “สโกด้า ออคตาเวีย” (Skoda Octavia) ซึ่งเป็นตัวหลักในการทำตลาดในไทยช่วงที่ผ่านมา คราวนี้มากับเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปในต่างประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับเปลี่ยนกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟหน้าและไฟท้ายออกแบบใหม่
โดยออคตาเวียรุ่นที่จะเปิดตัวทำตลาดในไทย เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1,798 ซีซี ระบบ TSI ให้กำลัง 160 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน- เมตร ที่1,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 223 กม./ชม. โดยมีสนนราคาอยู่ที่ประมาณกว่า 1.9 ล้านบาท
และเพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบความแรง ยูโรเปียนฯ ที่ได้รวมเอาเอ็มทีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทตกแต่งและโมดิฟายด์เครื่องยนต์มาไว้ด้วยกัน จึงได้นำสโกด้า ออคตาเวีย มาปรับแต่งใหม่ในสไตล์สปอร์ต เรียกว่า “เอ็มทีเอ็ม สโกด้า ออคตาเวีย 1.8ทีเอสไอ(MTM Skoda Octavia 1.8STI) ทำให้ขุมพลังเพิ่มเป็น 200 แรงม้า และเปลี่ยนเป็นล้อแม็กอัลลอยด์ Bimoto Rims ขนาด 19 นิ้ว พร้อมกับสปริงช่วงล่างกันกระเทือน เพื่อให้เหมาะสมกับความแรงที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันราคาก็บวกขึ้นเป็น 2.3 ล้านบาท
แต่หากเห็นว่าออคตาเวียนั่นใหญ่ไป และไม่ต้องการความแรงขนาดนั้น ยูโรเปียนฯ ยังมีทางเลือกใหม่อีก กับ“สโกด้า ฟาเบีย” (Skoda Fabia) แฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งเคยเข้ามาทำตลาดในไทยช่วงหนึ่ง ดังนั้นนี่จึงเป็นการกลับมาอีกครั้ง กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1,598 ซีซี 16 วาล์ว 105 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Tiptronic โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 11.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุด อยู่ที่185 กม./ชม. ราคาอยู่ที่ 1.49 ล้านบาท
แน่นอนว่าฟาเบียยังได้รับตกแต่งในสไตล์ของเอ็มทีเอ็ม แม้จะไม่ได้รับการปรับจูนเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นจากเวอร์ชั่นปกติ แต่ภายนอกก็ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยชุดแต่ง Body kits จาก Milotec พร้อมล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว โดยราคาของ “เอ็มทีเอ็ม สโกด้า ฟาเบีย” (MTM Skoda Fabia 1.6) ปรับเพิ่มเกือบ 1.7 ล้านบาท
จะเห็นว่าการรับบทหัวหมู่ทะลวงฟัน ของ “สโกด้า” ครั้งนี้ แม้จะไม่ถึงกับเป็นการพลิกกลยุทธ์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ แต่จากที่มีเพียง 2 แตกเป็น 4 รุ่น อย่างน้อยก็ทำให้สโกด้าสามารถเพิ่มกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
แต่สิ่งที่สำคัญการนำรถสโกด้ามาเบิกฤกษ์ นำพากลุ่มยูโรเปียนฯ ที่ ณ วันนี้ ไม่มีร่มเงาของยนตรกิจ นับเป็นการท้าทายอย่างมาก ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ และตัวทีมงานที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ ภายใต้การบริหารของ “วิชชุดา ลีนุตพงษ์” ที่เสี่ยเชียรผู้พ่อไว้วางใจให้รับบทนำ หลังจากได้แสดงฝีมือปลุกปั้นรถแต่งเอ็มทีเอ็มมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นจึงน่าจับตามองว่า… พวกเขาจะสามารถนำพากลุ่มยูโรเปียนฯ มาผงาดในยุทธจักรตลาดรถยนต์ไทย เหมือนเช่นรุ่นปู่รุ่นพ่อทำได้หรือไม่?