ข่าวในประเทศ - Audi Q5 ทำยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 1 ของยอดขาย SUV ในคลาสเดียวกันทั่วโลกในขณะนี้ โดย ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มียอดจำหน่ายสูงถึง 63,119 คัน เหตุ 2 เทคโนโลยีของ Audi ที่แตกต่างแซงหน้าคู่แข่ง คือเทคโนโลยี quattro® และเทคโนโลยี TFSI และเตรียมเปิดสายการผลิต Q5 ใหม่ในตลาดจีนเพิ่ม
นายกิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า “Audi Q5 2.0 TFSI quattro® คือ รถพรีเมียม SUV ขนาดกลางที่สมบูรณ์แบบและร้อนแรงที่สุดทั่วโลกในช่วงนี้ เนื่องจากสามารถขึ้นแท่นผู้นำยอดขายรถพรีเมียม SUV อันดับ 1 ทั่วโลกในเซกเมนต์เดียวกันในขณะนี้โดยมียอดขายสูงถึง 63,119 คัน ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมของปีนี้ หลังจากเพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลกได้ไม่นาน รวมถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้”
“Audi Q5 ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทั่วโลก ซึ่งในตลาดไทยก็ได้รับการตอบรับอย่างเหนือความคาดหมาย ในปัจจุบันนี้มียอดสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีที่ Audi ได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเทคโนโลยี quattro® ที่เป็นระบบการขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติแบบ full-time ที่เหนือชั้นกว่า เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาครั้งแรกเพื่อใช้กับรถ saloon เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Audi และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในสนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกหลายสนาม
และปัจจุบันนี้ Audi ได้นำเทคโนโลยี quattro® มาใช้กับ SUV ซึ่งถือว่าเป็นการจับคู่ที่เหมาะสม ช่วยเติมเต็มให้รถ Audi Q5 สมบูรณ์แบบที่สุด โดยผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงความแรงได้เต็มพิกัดด้วยแรงบิดสูงในรอบที่ต่ำ โดย quattro® ใช้ระบบ mechanic เป็นหลักสำคัญ โดยเฟืองท้ายกลางแบบ Torsen ให้การตอบสนองการขับเคลื่อนได้ดีเยี่ยมด้วยการกระจายแรงบิดที่ไม่เท่ากันระหว่างล้อหน้าและล้อหลังตามสภาพจริงของถนนที่วิ่ง จึงทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความปลอดภัยสูงสุดในการควบคุมรถในทุกโค้งและทุกสภาพถนน เหนือกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในรถทั่วไป”
Audi Q5 2.0 TFSI quattro® ,มากับครื่องยนต์ 2.0 TFSI เทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซิน Turbo FSI (Fuel Stratified Injection) ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรงแบบเหนือชั้นและยังให้ความประหยัดน้ำมันเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันถึง 15% ให้กำลังสูงถึง 211 แรงม้าที่ 4,300-6,000 รอบต่อนาที ในขณะเดียวกันก็ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมด้วยแรงบิดสูงถึง 350 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำและกว้างเริ่มต้นที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในเครื่องยนต์เบนซิน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.76 กม./ลิตร
กิตติ กล่าวเสริมว่า “เนื่องจาก Audi Q5 จัดเป็นพรีเมียม SUV ที่ได้รับความสำเร็จและการตอบรับดีมากเหนือความคาดหมายจากลูกค้าทั่วโลก และยังถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายของ Audi ทั่วโลก ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ Audi ทำยอดขายทั่วโลกได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ คือทำได้ 705,300 คัน และเชื่อมั่นว่าในสิ้นปีนี้จะสามารถทำได้ถึง 900,000 คัน ตามเป้าหมายที่วางไว้
ในช่วง 9 เดือนแรก Audi เป็นผู้นำตลาดมียอดการจดทะเบียนรถใหม่สูงสุดในยุโรป โดยตลาดในยุโรปตะวันตก(ไม่รวมเยอรมนี) Audi มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 0.2% โดยเฉพาะที่ประเทศสเปน, อิตาลี, เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากนี้จีน และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตมากที่สุด โดยยอดจำหน่าย Audi ที่จีน และเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน ของปีนี้ ทำได้ถึง 108,859 คัน และ 138,523 คันตามลำดับ เพิ่มขึ้นถึง 19.7% และเพิ่มขึ้น 17.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความสำเร็จของ Audi Q5 ทำให้ Audi ตัดสินใจเปิดสายพานการผลิต Audi Q5 ที่ประเทศจีน เมืองชางชุน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดจีนเท่านั้น สำหรับประเทศไทยจัดป็นหนึ่งในตลาดของเอเชียแปซิฟิก ที่มีศักยภายการเติบโตที่ดี ดังนั้น AUDI AG จึงให้การสนับสนุนประเทศไทยด้วยดี กิตติ กล่าวตบท้าย
