ข่าวในประเทศ - เปิดไอเดียเจ๋งนักประดิษฐ์ไทย ผลิตอุปกรณ์ติดตั้งใน ยานยนต์นิรภัย ภายใต้ชื่อสินค้า บางระจัน ที่รับรู้กันดี ในวงการตำรวจและทหาร เพื่อรับมือวิกฤตสังคมไทยตกต่ำ ทั้งเรื่องทุบกระจก หรือแค่หมั่นไส้ขับรถไล่สาดกระสุนปืนใส่ และโดยเฉพาะ แก๊งปาหิน ที่กำลังระบาดไปทั่วประเทศ จนกลายเป็นแฟชั่นอยู่ขณะนี้ ด้วยการคิดค้นแผ่นนิรภัยติดกระจกรถ ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตที่ทนต่อแรงกระแทกและทะลุทะลวงของเข็ง ราคาเริ่มต้นเพียง 1,700 บาท และล่าสุดเปิดตัว หน้ากากนิรภัย ป้องกันแรงกระแทกจากหินตรงใบหน้าและศรีษะ ให้กับผู้เดินทงคนเดียว หรือไม่สะดวกในกำลังทรัพย์ ราคาเพียง 500 บาท พร้อมกันนี้ยังรับปรึกษาให้กับผู้ต้องการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินจากการใช้รถ โดยผลิตอุปกรณ์นิรภัยติดตั้งในรถยนต์รอบคัน แบบไม่ผิดกฎหมายให้ด้วย
ประเทศไทยไม่เพียงกำลังเผชิญกับปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจตกต่ำเท่านั้น แต่สังคมไทยเองก็กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาศีลธรรม โจรมิจฉาชีพ หรือแม้แต่ปัญหาวัยรุ่น จากพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกมา ทั้งการติดเกม ขายบริการ ยกพวกตีกัน หรือทำลายทรัพย์สิน ทุบกระจกรถยนต์ ใช้ปืนยิงรถคันที่ไม่พอใจ เพียงแค่จอดรถขวาง หรือปาดหน้ากัน และล่าสุดพฤติกรรมปาหินใส่รถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนน ซึ่งกำลังระบาดเป็นแฟชั่นไปทั่วทุกภูมิภาค กลายเป็นปัญหาใหญ่อยู่ขณะนี้ นี่ยังไม่รวมเรื่องโจรกรรมรถ ทุบกระจกรถเพื่อขโมยทรัพย์สินภายในรถ และอีกสารพัดที่ผู้ใช้รถเจออีก
ปัญหาในสังคมไทยปัจจุบันมีมาก จนส่งผลกระทบทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ชีวีตและทรัพย์สิน สุดท้ายกลายเป็นปัญหาความมั่นคง อย่างแก๊งปาหินที่กำลังระบาดอยู่นี่ ไม่ใช่แค่ปัญหาของวัยรุ่น หรือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่มันทำให้ผู้คนเกิดความกังวล ไม่กล้าเดินทางทั้งเพื่อทำธุระ ท่องเที่ยว ค้าขาย หรือทำธุรกิจการค้าลงทุน มันส่งผลกระทบที่ร้ายแรงมาก
เป็นบทสรุปของ พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ อดีตนายทหารสรรพาวุธทหารบก และกรรมการผู้จัดการบริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด ผู้คิดค้นอุปกรณ์สำหรับใช้ในราชการตำรวจและทหาร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อนิรภัยป้องกันกระสุน อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนและปราบจราจล อุปกรณ์กระสุนยางและเครื่องยิง ตลอดจนยานยนต์นิรภัย ภายใต้สินค้าชื่อ บางระจัน
แน่นอนเป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจผู้รับผิดชอบ ซึ่งเหตุการณ์ปาหินนี่เริ่มมานานกว่าปีแล้ว และยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกวัน แต่ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ว่าจะจับหรือปราบได้ง่ายๆ ไม่รู้ว่ามันจะโผล่ที่ไหนเมื่อไหร่ ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ถึงกับจะขับรถล่อให้ขว้าง แล้วจัดการเก็บแบบเด็ดขาดแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นปัญหาความมั่นคง และมีระดับความรุนแรงแค่ไหน พ.ต.ทรงพลกล่าวและว่า
เราในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์นิรภัย ที่ผลิตและคิดค้นโดยคนไทย ภายใต้ชื่อสินค้า บางระจัน ซึ่งวงการตำรวจและทหารจะรู้จักกันดี จึงมีความคิดอยากจะช่วยเยียวยาสังคม แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุก็ตาม แต่หากจะรอเจ้าหน้าที่รัฐคงต้องใช้เวลาสักพัก จึงได้คิดค้นแผ่นนิรภัยติดกระจกรถยนต์ สามารถป้องกันหินทะลุกระจกเข้ามาได้ โดยเปิดตัวในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้มีการเผยแพร่ออกไปทางสื่อมวลชน จนเป็นที่ตอบรับและสนใจจากประชาชนอย่างมาก แม้แต่ตำรวจระดับผู้กำกับในพื้นที่ที่เกิดเหตุบ่อยๆ ยังโทรมาสั่งซื้อเลย
พ.ต.ทรงพลเล่าถึงความรุนแรงของพฤติกรรมเถื่อนแก๊งปาหิน และที่มาของการคิดค้นแผ่นนิรภัย ซึ่งทำจากโพลีคาร์บอเนต ที่เป็นพลาสติกใสคุณภาพสูง ทนทานต่อความร้อน การกระแทกและทะลุทะลวงของแข็ง โดยได้มีการนำไปใช้ทางด้านอากาศยานและเรือดำน้ำ และใช้เป็นตัวชั้นในสุดของกระจกรถยนต์กันกระสุน รวมถึงใช้ทำโล่ปราบจลาจลของตำรวจ ทำหลังคาบ้าน และตกแต่งภายในอาคาร
แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่เราใช้ในการผลิตอุปกรณ์นิรภัยของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว เมื่อแก๊งปาหินระบาดจึงเห็นว่า น่าจะเอามาใช้ป้องกันได้ จึงได้คิดค้นรูปแบบออกมา เป็นแผ่นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตหน้า 3 มม.ขึ้นไป มีลักษณะเดียวกับกระจกรถยนต์รุ่นนั้นๆ สำหรับติดกับกระจกรถยนต์ด้านใน โดยใช้ตัวดูดยืดเกาะกับกระจกรถยนต์ สามารถใช้ได้กับรถทุกชนิด ทั้งรถเก๋ง ปิกอัพ รถตู้ รถโดยสารถขนาดใหญ่ และรถบรรทุก
"ผมเสียกระจกรถยนต์ไปกว่า 10 แผ่น ในการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกัน โดยทดลองใช้เครื่องยิงลูกเหล็กเท่าหัวน็อตและใหญ่กว่ากำมือยิงใส่กระจก ใช้ความเร็วตั้งแต่ 70-350 กม./ชม. ปรากฎว่าลูกเหล็กทุกขนาดพุ่งทะลุกระจก แต่ไม่ทะลุแผ่นนิรภัยโพลีคาร์บอเนตที่รองอยู่ด้านใน ดังนั้นจึงทำให้คนขับหรือผู้โดยสารปลอดภัย จากแรงกระแทกของก้อนหิน หรือลูกเหล็กได้ เพียงแต่อาจจะได้อย่างเสียอย่าง ไม่สะดวกและทัศนวิสัยลดลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการขับขี่แน่นอน"
พ.ต.ทรงพลบอกจุดประสงค์การผลิตแผ่นนิรภัย ไม่ได้คิดในเชิงธุรกิจเป็นหลัก เหตุผลสำคัญต้องการช่วยเหลือสังคม จึงตั้งราคาให้พออยู่ได้เท่านั้น อย่างแผ่นติดกระจกหน้าใช้ 2 แผ่น ติดฝั่งซ้ายและขวา ราคาแผ่นละ 2,500 บาท ด้านข้างแผ่นละ 1,700 บาท เป็นราคาสำหรับรถขนาดเล็ก แต่หากเป็นรถบัสหรือที่มีขนาดใหญ่ก็จะแพงขึ้นไปอีก หรือหากเป็นหน่วยงานราชการและรถโรงเรียน จะคิดในราคาต้นทุนเท่านั้น และงานนี้เป็นการทำเพื่อสังคม จึงไม่ได้จดสิทธิบัตรแผ่นนิรภัยดังกล่าว หากจะมีคนนำไปทำเลียนแบบก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ต้องระวังเรื่องวัสดุและการผลิต เพราะต้องบีบอัดด้วยความร้อนสูงจึงจะมีคุณภาพ
"ล่าสุดเราได้ค้นค้นอุปกรณ์นิรภัยแบบใหม่ ที่เป็นลักณะคล้ายๆ กับหน้ากากของหมอห้องผ่าตัด ผสมกับหน้ากากเชื่อมเหล็ก ผลิตออกมาเป็นแผ่นนิรภัยโพลีคาร์บอเนตที่สวมใส่ศรีษะ ครอบคลุมใบหน้าและโผล่เลยศรีษะไปหน่อย ซึ่งสามารถใช้ป้องกันใบหน้าและศรีษะเท่านั้น แต่พกพาสะดวก จะสวมใส่หรือถอดเมื่อไหร่ก็ได้ แม้แต่เวลาขับรถยนต์อยู่ ขณะที่แผ่นนิรภัยติดกับกระจก เวลาถอดจะต้องจอดรถ และที่สำคัญราคาเพียง 500 บาทเท่านั้น"
พ.ต.ทรงพลเล่าว่า แน่นอนคนมีกำลังทรัพย์สามารถติดฟิล์มนิรภัยราคาหลายหมื่นบาท สวยงามและป้องกันได้ แต่เข้าใจในสังคมมีผู้คนที่แตกต่างกัน บางคนเดินทางเพียงคนเดียว หรือบางคนก็ไม่สะดวกทั้งการติดตั้งและเรื่องเงินทอง แต่ก็จำเป็นเดินทางอยู่ตลอดเวลา เหตุนี้จึงได้คิดค้นแผ่นนิรภัยแบบสวมศรีษะออกมา ซึ่งได้แนวคิดมาจากขณะกำลังนั่งดูรายการเกี่ยวกับหมอที่อยู่ในห้องผ่าตัด
"ผมมีความคิดอยากจะช่วยสังคมอยู่ตลอดเวลา ในเมื่อสิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็ทำ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ผมร่ำรวยอะไร ผมมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้กับโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซึ่งนั่นเป็นธุรกิจหลักของผม มีพนักงานมากกว่า 400 คน ส่วนแผนกอุปกรณ์นิรภัยนี้มีเพียงกว่า 30 คนเท่านั้น ผมเรียนด้านวิศวกรรม และเคยรับราชการทหารกรมสรรพาวุธมาก่อน จึงมีความรู้และประสบการณ์ด้านนี้ แต่ปัญหาของระบบราชการไทย มีองค์กร หรือหน่วยงานที่ผลิตอุปกรณ์ได้เอง คุณภาพไม่แตกต่างจากต่างประเทศ ที่สำคัญราคาถูกกว่า แต่พอถึงเวลากลับจัดซื้อสินค้าเป็นส่วนใหญ่ แล้วบ้านเราจะพัฒนาได้อย่างไร เหตุผมจึงลาออกจากราชการ"
"ผมขอเรียกร้องรัฐบาลของบประมาณเพียง 1% ให้หน่วยราชการซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโอท็อป หรืออะไรก็แล้วแต่ แค่นี้ก็จะทำให้สินค้าอุตสาหกรรมของไทยพัมนาก้าวหน้าไปไกลแล้ว" พ.ต.ทรงพลกล่าวและว่า
เรื่องกฏหมายก็เช่นกัน ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องเหตุร้ายกับประชาชนเยอะ จนบางคนต้องหาวิธีป้องกันตนเอง อย่างอยากจะใช้รถกันกระสุน หรือเสื้อเกราะกันกระสุน แต่ในทางกฎหมายประชาชนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้ เพราะถือเป็นอุปกรณ์ทางยุทธภัณฑ์ ใช้ได้แต่ตำรวจทหารหรือหน่วยงานมั่นคงเท่านั้น เพราะหวั่นจะตกไปอยู่ในมือโจรผู้ก่อการร้าย ซึ่งเมืองนอกเขาก็ใช้ได้ไม่เป็นไร เพียงแต่ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องก่อน ในประเทศไทยก็น่าจะนำมาใช้เช่นกัน
พ.ต.ทรงพลกล่าวถึงปัญหาและอุปสรรค ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินตนเองของประชาชน แม้แต่อุปกรณ์ที่เกิดเสียงดัง ในการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เวลาผู้หญิงถูกฉุดคร่าขมขืน หรือกระชากกระเป๋า ยังมีปัญหาทางข้อกฎหมายเช่นเดียวกัน
"เมื่อไม่กี่วันมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่สมุทรสาคร โทรมาปรึกษาจะทำอย่างไร เพราะมีปัญหากับวัยรุ่นเพียงแค่รถจอดขวางทางกัน เลยบอกช่วยหลบให้หน่อย เท่านั้นหล่ะขับรถออกออกมาไม่นาน พวกเล่นขับรถตามมายิงกระจกแตกหมด ดีว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บมาก ซึ่งผมเห็นใจแต่บอกว่าจะทำให้กันกระสุนไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย แต่สามารถช่วยลดวามรุนแรงได้ อย่างติดตั้งแผ่นนิรภัยขนาดหนา 20 มม. นี่จะสามารถป้องกันกระสุนปืนลูกซองสั้น หรือปืนพกขนาด .22 ที่พวกวัยรุ่นชอบใช้ได้ และถือว่าติดตั้งได้ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งจากการพิสูจน์ของตำรวจยืนยันว่า อาวุธที่วัยรุ่นใช้ยิงเป็นปืนขนาดดังกล่าว"
"ผมเห็นใจประชาชนไทย ที่จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิตและทรัพย์สิน จนต้องหาวิธีป้องกันตนเอง แต่ยังติดขัดเรื่องกฎหมาย ซึ่งผมพร้อมจะช่วยเหลือ ใครที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เกี่ยวกับการใช้รถยนต์มาปรึกษาผมได้ เพื่อหาวิธีป้องกันเหตุร้ายแรงให้มีผลกระทบน้อยที่สุด โดยติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยได้รอบคัน ตั้งแต่กระจก ตัวถัง ไปจนถึงยางรถยนต์ และไม่ผิดกฎหมายด้วย แต่ผมยืนยันจะไม่ทำอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายให้เด็ดขาด"
นั่นคือปากคำของนักประดิษฐ์ไทย พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์และยานยนต์นิรภัย บางระจัน หรืออยากทราบข้อมูลเข้าไปดู www.bangrajun.com หรือติดต่อ e-mail : precipart@hotmail.com หากว่าคุณมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน!!
ประเทศไทยไม่เพียงกำลังเผชิญกับปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจตกต่ำเท่านั้น แต่สังคมไทยเองก็กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาศีลธรรม โจรมิจฉาชีพ หรือแม้แต่ปัญหาวัยรุ่น จากพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกมา ทั้งการติดเกม ขายบริการ ยกพวกตีกัน หรือทำลายทรัพย์สิน ทุบกระจกรถยนต์ ใช้ปืนยิงรถคันที่ไม่พอใจ เพียงแค่จอดรถขวาง หรือปาดหน้ากัน และล่าสุดพฤติกรรมปาหินใส่รถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนน ซึ่งกำลังระบาดเป็นแฟชั่นไปทั่วทุกภูมิภาค กลายเป็นปัญหาใหญ่อยู่ขณะนี้ นี่ยังไม่รวมเรื่องโจรกรรมรถ ทุบกระจกรถเพื่อขโมยทรัพย์สินภายในรถ และอีกสารพัดที่ผู้ใช้รถเจออีก
ปัญหาในสังคมไทยปัจจุบันมีมาก จนส่งผลกระทบทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ชีวีตและทรัพย์สิน สุดท้ายกลายเป็นปัญหาความมั่นคง อย่างแก๊งปาหินที่กำลังระบาดอยู่นี่ ไม่ใช่แค่ปัญหาของวัยรุ่น หรือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น แต่มันทำให้ผู้คนเกิดความกังวล ไม่กล้าเดินทางทั้งเพื่อทำธุระ ท่องเที่ยว ค้าขาย หรือทำธุรกิจการค้าลงทุน มันส่งผลกระทบที่ร้ายแรงมาก
เป็นบทสรุปของ พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ อดีตนายทหารสรรพาวุธทหารบก และกรรมการผู้จัดการบริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด ผู้คิดค้นอุปกรณ์สำหรับใช้ในราชการตำรวจและทหาร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อนิรภัยป้องกันกระสุน อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนและปราบจราจล อุปกรณ์กระสุนยางและเครื่องยิง ตลอดจนยานยนต์นิรภัย ภายใต้สินค้าชื่อ บางระจัน
แน่นอนเป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจผู้รับผิดชอบ ซึ่งเหตุการณ์ปาหินนี่เริ่มมานานกว่าปีแล้ว และยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกวัน แต่ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ว่าจะจับหรือปราบได้ง่ายๆ ไม่รู้ว่ามันจะโผล่ที่ไหนเมื่อไหร่ ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ถึงกับจะขับรถล่อให้ขว้าง แล้วจัดการเก็บแบบเด็ดขาดแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นปัญหาความมั่นคง และมีระดับความรุนแรงแค่ไหน พ.ต.ทรงพลกล่าวและว่า
เราในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์นิรภัย ที่ผลิตและคิดค้นโดยคนไทย ภายใต้ชื่อสินค้า บางระจัน ซึ่งวงการตำรวจและทหารจะรู้จักกันดี จึงมีความคิดอยากจะช่วยเยียวยาสังคม แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุก็ตาม แต่หากจะรอเจ้าหน้าที่รัฐคงต้องใช้เวลาสักพัก จึงได้คิดค้นแผ่นนิรภัยติดกระจกรถยนต์ สามารถป้องกันหินทะลุกระจกเข้ามาได้ โดยเปิดตัวในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้มีการเผยแพร่ออกไปทางสื่อมวลชน จนเป็นที่ตอบรับและสนใจจากประชาชนอย่างมาก แม้แต่ตำรวจระดับผู้กำกับในพื้นที่ที่เกิดเหตุบ่อยๆ ยังโทรมาสั่งซื้อเลย
พ.ต.ทรงพลเล่าถึงความรุนแรงของพฤติกรรมเถื่อนแก๊งปาหิน และที่มาของการคิดค้นแผ่นนิรภัย ซึ่งทำจากโพลีคาร์บอเนต ที่เป็นพลาสติกใสคุณภาพสูง ทนทานต่อความร้อน การกระแทกและทะลุทะลวงของแข็ง โดยได้มีการนำไปใช้ทางด้านอากาศยานและเรือดำน้ำ และใช้เป็นตัวชั้นในสุดของกระจกรถยนต์กันกระสุน รวมถึงใช้ทำโล่ปราบจลาจลของตำรวจ ทำหลังคาบ้าน และตกแต่งภายในอาคาร
แผ่นโพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่เราใช้ในการผลิตอุปกรณ์นิรภัยของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว เมื่อแก๊งปาหินระบาดจึงเห็นว่า น่าจะเอามาใช้ป้องกันได้ จึงได้คิดค้นรูปแบบออกมา เป็นแผ่นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตหน้า 3 มม.ขึ้นไป มีลักษณะเดียวกับกระจกรถยนต์รุ่นนั้นๆ สำหรับติดกับกระจกรถยนต์ด้านใน โดยใช้ตัวดูดยืดเกาะกับกระจกรถยนต์ สามารถใช้ได้กับรถทุกชนิด ทั้งรถเก๋ง ปิกอัพ รถตู้ รถโดยสารถขนาดใหญ่ และรถบรรทุก
"ผมเสียกระจกรถยนต์ไปกว่า 10 แผ่น ในการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกัน โดยทดลองใช้เครื่องยิงลูกเหล็กเท่าหัวน็อตและใหญ่กว่ากำมือยิงใส่กระจก ใช้ความเร็วตั้งแต่ 70-350 กม./ชม. ปรากฎว่าลูกเหล็กทุกขนาดพุ่งทะลุกระจก แต่ไม่ทะลุแผ่นนิรภัยโพลีคาร์บอเนตที่รองอยู่ด้านใน ดังนั้นจึงทำให้คนขับหรือผู้โดยสารปลอดภัย จากแรงกระแทกของก้อนหิน หรือลูกเหล็กได้ เพียงแต่อาจจะได้อย่างเสียอย่าง ไม่สะดวกและทัศนวิสัยลดลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอันตรายต่อการขับขี่แน่นอน"
พ.ต.ทรงพลบอกจุดประสงค์การผลิตแผ่นนิรภัย ไม่ได้คิดในเชิงธุรกิจเป็นหลัก เหตุผลสำคัญต้องการช่วยเหลือสังคม จึงตั้งราคาให้พออยู่ได้เท่านั้น อย่างแผ่นติดกระจกหน้าใช้ 2 แผ่น ติดฝั่งซ้ายและขวา ราคาแผ่นละ 2,500 บาท ด้านข้างแผ่นละ 1,700 บาท เป็นราคาสำหรับรถขนาดเล็ก แต่หากเป็นรถบัสหรือที่มีขนาดใหญ่ก็จะแพงขึ้นไปอีก หรือหากเป็นหน่วยงานราชการและรถโรงเรียน จะคิดในราคาต้นทุนเท่านั้น และงานนี้เป็นการทำเพื่อสังคม จึงไม่ได้จดสิทธิบัตรแผ่นนิรภัยดังกล่าว หากจะมีคนนำไปทำเลียนแบบก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ต้องระวังเรื่องวัสดุและการผลิต เพราะต้องบีบอัดด้วยความร้อนสูงจึงจะมีคุณภาพ
"ล่าสุดเราได้ค้นค้นอุปกรณ์นิรภัยแบบใหม่ ที่เป็นลักณะคล้ายๆ กับหน้ากากของหมอห้องผ่าตัด ผสมกับหน้ากากเชื่อมเหล็ก ผลิตออกมาเป็นแผ่นนิรภัยโพลีคาร์บอเนตที่สวมใส่ศรีษะ ครอบคลุมใบหน้าและโผล่เลยศรีษะไปหน่อย ซึ่งสามารถใช้ป้องกันใบหน้าและศรีษะเท่านั้น แต่พกพาสะดวก จะสวมใส่หรือถอดเมื่อไหร่ก็ได้ แม้แต่เวลาขับรถยนต์อยู่ ขณะที่แผ่นนิรภัยติดกับกระจก เวลาถอดจะต้องจอดรถ และที่สำคัญราคาเพียง 500 บาทเท่านั้น"
พ.ต.ทรงพลเล่าว่า แน่นอนคนมีกำลังทรัพย์สามารถติดฟิล์มนิรภัยราคาหลายหมื่นบาท สวยงามและป้องกันได้ แต่เข้าใจในสังคมมีผู้คนที่แตกต่างกัน บางคนเดินทางเพียงคนเดียว หรือบางคนก็ไม่สะดวกทั้งการติดตั้งและเรื่องเงินทอง แต่ก็จำเป็นเดินทางอยู่ตลอดเวลา เหตุนี้จึงได้คิดค้นแผ่นนิรภัยแบบสวมศรีษะออกมา ซึ่งได้แนวคิดมาจากขณะกำลังนั่งดูรายการเกี่ยวกับหมอที่อยู่ในห้องผ่าตัด
"ผมมีความคิดอยากจะช่วยสังคมอยู่ตลอดเวลา ในเมื่อสิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็ทำ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ผมร่ำรวยอะไร ผมมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้กับโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซึ่งนั่นเป็นธุรกิจหลักของผม มีพนักงานมากกว่า 400 คน ส่วนแผนกอุปกรณ์นิรภัยนี้มีเพียงกว่า 30 คนเท่านั้น ผมเรียนด้านวิศวกรรม และเคยรับราชการทหารกรมสรรพาวุธมาก่อน จึงมีความรู้และประสบการณ์ด้านนี้ แต่ปัญหาของระบบราชการไทย มีองค์กร หรือหน่วยงานที่ผลิตอุปกรณ์ได้เอง คุณภาพไม่แตกต่างจากต่างประเทศ ที่สำคัญราคาถูกกว่า แต่พอถึงเวลากลับจัดซื้อสินค้าเป็นส่วนใหญ่ แล้วบ้านเราจะพัฒนาได้อย่างไร เหตุผมจึงลาออกจากราชการ"
"ผมขอเรียกร้องรัฐบาลของบประมาณเพียง 1% ให้หน่วยราชการซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโอท็อป หรืออะไรก็แล้วแต่ แค่นี้ก็จะทำให้สินค้าอุตสาหกรรมของไทยพัมนาก้าวหน้าไปไกลแล้ว" พ.ต.ทรงพลกล่าวและว่า
เรื่องกฏหมายก็เช่นกัน ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องเหตุร้ายกับประชาชนเยอะ จนบางคนต้องหาวิธีป้องกันตนเอง อย่างอยากจะใช้รถกันกระสุน หรือเสื้อเกราะกันกระสุน แต่ในทางกฎหมายประชาชนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้ เพราะถือเป็นอุปกรณ์ทางยุทธภัณฑ์ ใช้ได้แต่ตำรวจทหารหรือหน่วยงานมั่นคงเท่านั้น เพราะหวั่นจะตกไปอยู่ในมือโจรผู้ก่อการร้าย ซึ่งเมืองนอกเขาก็ใช้ได้ไม่เป็นไร เพียงแต่ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องก่อน ในประเทศไทยก็น่าจะนำมาใช้เช่นกัน
พ.ต.ทรงพลกล่าวถึงปัญหาและอุปสรรค ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินตนเองของประชาชน แม้แต่อุปกรณ์ที่เกิดเสียงดัง ในการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เวลาผู้หญิงถูกฉุดคร่าขมขืน หรือกระชากกระเป๋า ยังมีปัญหาทางข้อกฎหมายเช่นเดียวกัน
"เมื่อไม่กี่วันมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่สมุทรสาคร โทรมาปรึกษาจะทำอย่างไร เพราะมีปัญหากับวัยรุ่นเพียงแค่รถจอดขวางทางกัน เลยบอกช่วยหลบให้หน่อย เท่านั้นหล่ะขับรถออกออกมาไม่นาน พวกเล่นขับรถตามมายิงกระจกแตกหมด ดีว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บมาก ซึ่งผมเห็นใจแต่บอกว่าจะทำให้กันกระสุนไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย แต่สามารถช่วยลดวามรุนแรงได้ อย่างติดตั้งแผ่นนิรภัยขนาดหนา 20 มม. นี่จะสามารถป้องกันกระสุนปืนลูกซองสั้น หรือปืนพกขนาด .22 ที่พวกวัยรุ่นชอบใช้ได้ และถือว่าติดตั้งได้ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งจากการพิสูจน์ของตำรวจยืนยันว่า อาวุธที่วัยรุ่นใช้ยิงเป็นปืนขนาดดังกล่าว"
"ผมเห็นใจประชาชนไทย ที่จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิตและทรัพย์สิน จนต้องหาวิธีป้องกันตนเอง แต่ยังติดขัดเรื่องกฎหมาย ซึ่งผมพร้อมจะช่วยเหลือ ใครที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เกี่ยวกับการใช้รถยนต์มาปรึกษาผมได้ เพื่อหาวิธีป้องกันเหตุร้ายแรงให้มีผลกระทบน้อยที่สุด โดยติดตั้งอุปกรณ์นิรภัยได้รอบคัน ตั้งแต่กระจก ตัวถัง ไปจนถึงยางรถยนต์ และไม่ผิดกฎหมายด้วย แต่ผมยืนยันจะไม่ทำอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมายให้เด็ดขาด"
นั่นคือปากคำของนักประดิษฐ์ไทย พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์และยานยนต์นิรภัย บางระจัน หรืออยากทราบข้อมูลเข้าไปดู www.bangrajun.com หรือติดต่อ e-mail : precipart@hotmail.com หากว่าคุณมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน!!