xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดปิกอัพยกสูงเดือด!นิสสันสู้-ทีด้าใหม่จ่อคิว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปิกอัพยกสูงเปิดศึกฟัดเดือด! ต่างแห่ส่งหมัดเด็ดออกมาชิงยอดขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ โตโยต้า เปิดตัว พรีรันเนอร์ 2.5 VN เทอร์โบ ทำเอาตลาดสั่นสะเทือน จน นิสสัน ที่ยังไม่ขยับมากนัก ทนไม่ได้ต้องเพิ่มทางเลือกเข็น นาวารา คาลิเบอร์ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ออกมาชนสัปดาห์หน้า หวังจะขยายกลุ่มลูกค้าก่อนถูกคู่แข่งกวาดไปหมด คาดราคาปรับเพิ่มประมาณ 4 หมื่นบาท พร้อมประกาศทุ่มหมดหน้าตัก เดินหน้าลุยตลาดช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งกิจกรรม แคมเปญ และสินค้าใหม่ ที่น่าจะถึงเวลาปรับโฉม นิสสัน ทีด้า เสียที หลังจากญี่ปุ่นเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งในไทยไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก จากการปรับเปลี่ยนกระจัง-กันชนหน้า และด้านท้าย รวมถึงอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ก่อนที่อีโคคาร์จะมาชี้ชะตานิสสันในไทยช่วงต้นปีหน้า

นาวารา คาลิเบอร์
ตลาดรถปิกอัพร้อนแรงขึ้นมาทันที เมื่อยักษ์ใหญ่โตโยต้าเปิดศึกปิกอัพยกสูง ส่ง วีโก้ พรีรันเนอร์ 2.5 VN เทอร์โบ สู่ตลาดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากเดิมที่มีเพียงรุ่นใหญ่ 3.0 ลิตร ในขณะที่คู่แข่งล้วนมีเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรกันหมด ส่วนค่ายมิตซูบิชิก็มีการปรับโฉมปิกอัพไทรทันใหม่ รวมถึงรุ่นยกสูง ไทรทัน พลัส ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ตลาดปิกอัพยกสูงเปิดฉากฟาดฟันกันดุเดือด ซึ่งก่อนหน้านี้มาสด้าก็ขยับไปแล้ว ด้วยการเพิ่มทางเลือกกับ บีที-50 ไฮ-เรซเซอร์+ เกียร์อัตโนมัติ จนงานนี้อีซูซุต้องทุ่มโฆษณา ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ มาเบรกเกมตัดกระแสคู่แข่ง แม้แต่มิตซูบิชิที่เพิ่งแต่งหน้าทาปากใหม่ ยังต้องหันมาเน้นทุ่มโฆษณาปิกอัพยกสูงรุ่นไทรทันพลัสเป็นหลัก

ในเมื่อค่ายปิกอัพเกือบทั้งหมด โดดลงมาเปิดศึกชิงยอดขายปิกอัพสูงเช่นนี้ ทำให้ค่าย นิสสัน ที่หลังจากเปิดตัวปิกอัพยกสูง คาลิเบอร์ เมื่อปลายปีที่แล้ว นับแต่นั้นมาก็ไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก โดยหันรุกรถยนต์นั่งเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่การเปิดตัวนิวโมเดลของ เทียน่า ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ส่ง ทีด้า สเปเชียล เวอร์ชั่น มาเก็บเล็กผสมน้อย และมาช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้นำสปอร์ตสร้างชื่อ 370Z มาทำตลาดเสียที

แต่ปิกอัพของนิสสันกลับดูเงียบๆ ในช่วงที่ผ่านมา แตกต่างจากคู่แข่งที่ทยอยหงายไพ่ออกมาเล่นกันหมด เหตุนี้เลยทำให้นิสสันทนอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องลงมาสู้ในสมรภูมิตลาดปิกอัพยกสูงบ้าง โดยในสัปดาห์หน้า (2 ก.ย.) จะทำการแนะนำ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ มาเป็นอีกทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า จากเดิมในรุ่นคาลิเบอร์จะมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเท่านั้น

สำหรับนาวารา คาลิเบอร์ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ที่แนะนำสู่ตลาดล่าสุด ในส่วนของรูปลักษณ์ หรือในเชิงวิศวกรรมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะในรุ่นดับเบิลแค็บและคิงแค็บ ของปิกอัพนาวาราก็มีรุ่นเกียร์อัตโนมัติทำตลาดอยู่แล้ว จึงมีเพียงอุปกรณ์ภายในที่จะปรับเปลี่ยนใหม่ ให้สะดวกสบายหรูหราขึ้นจากรุ่นเกียร์ธรรมดา ซึ่งก็เหมือนกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติของปิกอัพนาวาราที่มีอยู่ อาทิ เบาะหนัง แอร์แบ็ก และชุดเครื่องเสียงรองรับเอ็มพี3 เป็นต้น

ทั้งนี้คาดว่าสนนราคาจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานของปิกอัพ นิสสัน นาวารา เกียร์อัตโนมัติ เมื่อเทียบกับรุ่นเกียร์ธรรมดาอยู่แล้ว
การขยับของนิสสันครั้งนี้จึงน่าจับตามาก เพราะมีรายงานว่าในช่วงครึ่งปีหลัง นิสสันจะเดินหน้ารุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยไฟเขียวเปิดท่องบประมาณอัดฉีดหนัก ทั้งการจัดกิจกรรม แคมเปญ โฆษณาประชาสัมพันธ์ และรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะแนะนำสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงเตรียมพร้อมรองรับรถยนต์นั่ง หรือเก๋งโมเดลใหม่ ในโครงการอีโคคาร์ที่จะเปิดตัวในไทยช่วงต้นปีหน้า


โดยรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะแนะนำสู่ตลาดปลายปีนี้ ถึงเวลาการไมเนอร์เชนจ์ของ นิสสัน ทีด้า เสียที หลังจากในญี่ปุ่นได้ส่งลงทำตลาดมาตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมา แต่ในไทยเพียงแค่แต่งนิดปรับนี่หน่อย และแยกความชัดเจนทางการตลาด ระหว่างรุ่นแฮ็ทช์แบ็กกับรุ่นซีดาน 4 ประตู โดยเติมชื่อเข้าไปในรุ่นซีดานว่า ทีด้า ลาติโอ รวมถึงเพิ่มรุ่นย่อยราคาประหยัดสู่ตลาด และเวอร์ชั่นพิเศษ เป็นต้น
ทีด้า ไมเนอร์เชนจ์

จากรายงานข่าวประมาณเดือนตุลาคม หรือพฤศิกายนนี้ จะมีการเปิดตัวนิสสัน ทีด้า ใหม่สู่ตลาด ซึ่งในไทยก็ไม่น่าจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่ปรับโฉมในญี่ปุ่น โดยมีการปรับเปลี่ยนที่เห็นชัดเจน ในส่วนของกระจังหน้าลายใหม่ จากลายซี่นอนเป็นแบบตารางเหมือนกับเอสยูวีรุ่นมูราโน และออกแบบกันชนหน้าใหม่ ให้ดูสปอร์ตปราดเปรียวขึ้น

ขณะที่ด้านท้ายของรุ่นแฮทช์แบ็ก นอกจากกันชนลายใหม่แล้ว ยังเปลี่ยนฝากระโปรงท้ายใหม่ ซึ่งออกแบบให้มีสันนูนขึ้นมา ตรงช่วงมือเปิดฝากระโปรง และไฟท้ายยังเป็นทรงหยดน้ำเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนลวดลายและตำแหน่งของไฟสัญญาณใหม่ เพิ่มความสดใหม่ได้พอสมควร

ในส่วนห้องโดยสารแม้ว่าชิ้นส่วนหลัก อย่างแผงหน้าปัดจะยังเหมือนเดิม แต่ก็มีการเปลี่ยนวัสดุตกแต่งใหม่ และเปลี่ยนพื้นมาตรวัดทั้ง 3 ดวง ให้เป็นพื้นขาวทั้งหมด พร้อมกับเพิ่มจอดิจิตอล แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และมาตรวัดแบบเรืองแสงเปลี่ยนมาเป็นสีส้ม

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงในเชิงวิศวกรรม ได้มีการปรับจูนระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าใหม่ เพื่อตอบสนองการทำงานที่แม่นยำขึ้น ทั้งในช่วงความเร็วต่ำและสูง แต่ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรุ่นจำหน่ายในไทยยังเป็นบล็อก HR16DE 1600 ซีซี 109 แรงม้า และรุ่น 1800 ซีซี ในรหัส MR18DE มีกำลังเท่าเดิม 128 แรงม้าเช่นเดิม

ส่วนความคืบหน้าของอีโคคาร์ จากรายงานข่าวไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่จะมีการเปิดตัวประมาณช่วงต้นปี 2553 และนิสสันมีความพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผลิต แผนการทำตลาดในประเทศ และการส่งออก โดยไม่จำเป็นต้องทบทวนใหม่ แม้จะมีบริษัทรถยนต์ที่ยืนขอรับส่งเสริมการลงทุนกับอีโคคาร์ เตรียมเสนอให้บีโอไอทบทวนเงื่อนไขการลงทุนใหม่

สำหรับอีโคคาร์ของนิสสันจะเป็นรุ่นไหน? ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่จากรายงานข่าวต่างๆ ที่ออกมา ต่างชี้ชัดว่าจะเป็นโมเดลใหม่ของ มาร์ช ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 โดยมีขนาดตัวถังใกล้เคียงกับซับคอมแพ็กต์ในไทยปัจจุบัน เครื่องยนต์คาดว่าจะวางขนาด 1200 ซีซี ส่วนจะทำตลาดในไทยภายใต้ชื่อมาร์ชเลย หรือเปลี่ยนชื่อใหม่ยังเป็นความลับอยู่

ทั้งหมดเป็นไม้เด็ดของนิสสัน ที่จะลุกขึ้นมาท้าชนทุกยี่ห้อในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อปูทางสร้างแบรนด์นิสสัน รองรับอีโคคาร์ที่ตามมาในต้นปีหน้า และจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า... นิสสันจะกลับมาผงาดในไทยได้หรือไม่?
กำลังโหลดความคิดเห็น