จากต้นแบบที่อวดโฉมในปี 2005 ถึงตอนนี้รถยนต์อเนกประสงค์บนตัวถัง 5 ประตูในชื่อเยติก็ได้รับโอกาสในการขึ้นไลน์ผลิตแล้ว เมื่อแบรนด์สัญชาติเช็กในเครือโฟล์คสวาเกนอย่างสโกดาจัดการนำคันจริงที่พร้อมลุยตลาดยุโรปในกลางปีนี้ออกมาเปิดเผยตัวแล้ว
แค่ชื่อรุ่นก็คงจะบ่งบอกอะไรหลายอย่างได้แล้ว เพราะเจ้าตีนโตรุ่นนี้มาพร้อมกับความอเนกประสงค์ และสมรรถนะในการลุยได้ระดับหนึ่งตามสไตล์ของเอสยูวีที่แชร์พื้นฐานมาจากรถเก๋ง อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างจากต้นแบบมากนัก เรียกว่าปรับแค่รายละเอียดภายนอก เช่น มือเปิดประตู ให้เหมาะกับการใช้งานจริงเท่านั้นเอง
ขณะที่รูปลักษณ์โดยรวมเน้นเหลี่ยมสันเหมือนกล่องโดยที่ตัวถังมีความยาวในระดับเพียง 4,200 มิลลิเมตรเท่านั้น และเมื่อมองจากทางด้านข้างแล้ว หลายคนอาจจะให้ความเห็นว่า ช่วงตัวถังด้านท้าย ซึ่งก็รวมถึงเสาหลังคาหลังมีลักษณะคล้ายกับฮอนด้า ซีอาร์-วีรุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1995 พอสมควร ซึ่งด้านหลังเน้นความอเนกประสงค์ในการบรรทุกสัมภาระ เพราะเมื่อถอดเบาะหลังออกแล้วจะมีความจุมากถึง 1,760 ลิตร
สโกดาเปิดเผยว่า เยติได้รับการผสมผสานทางด้านรายละเอียดเชิงวิศวกรรมจากรถยนต์ในเครือทั้งออกตาเวีย และฟาเบีย พร้อมกับการนำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของโฟล์คสวาเกนมาใช้ ซึ่งความจริงแล้วระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถูกนำมาใช้นานแล้วตั้งแต่สโกดา ออกตาเวียรุ่นที่แล้ว
ทางเลือกในการเจาะตลาดของเยติถือว่าครอบคลุมหลากหลายความต้องการ เพราะถ้าไม่เน้นลุยก็มีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงอย่างเดียวให้สัมผัสด้วยเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำใจในเรื่องเครื่องยนต์ เพราะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งเน้นความประหยัดเป็นหลักจะจับคู่กับเครื่องยนต์เบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน เทอร์โบหรือ TSI แบบ 4 สูบ 1,200 ซีซี 105 แรงม้า หรือไม่ก็เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2,000 ซีซี 110 แรงม้า ซึ่งรุ่นนี้นอกจากแบบขับหน้าแล้ว ก็มีแบบขับเคลื่อน 4 ล้อขายควบคู่ด้วย
ส่วนทางเลือกอื่นๆ ก็มีรุ่นเบนซิน 4 สูบแบบ TSI 1,800 ซีซี 160 แรงม้า ตามด้วยเทอร์โบดีเซลแบบ CR พร้อมระบบคอมมอนเรลที่เน้นความประหยัดน้ำมันและลดมลพิษในไอเสีย เป็นแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี แต่มีให้เลือกถึง 2 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 140 และ 170 แรงม้า โดยทั้งหมดมากับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา 5 และ 6 จังหวะ รวมถึงแบบ DSG 7 จังหวะ
สโกดาเผยว่าไลน์ผลิตของเยติจะอยู่ที่โรงงานในประเทศสาธารณรัฐเช็ก และในช่วงแรกจะเน้นทำตลาดในยุโรปเป็นหลัก โดยจะมีขายทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและขวา โดยจะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ในปลายปีนี้เป็นต้นไป
