มิตซูบิชิกระตุ้นตลาดเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ครั้งใหม่ด้วยผลผลิตล่าสุดของเอสยูวีสายพันธุ์เอาท์แลนเดอร์ โดยเปิดตัวเป็นรุ่นต้นแบบในชื่อเอาท์แลนเดอร์ จีที คอนเซ็ปต์ที่งานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการปรับปรุงอีกนิดหน่อยและส่งขายเป็นคันจริงในปลายปีนี้เพื่อเป็นรุ่นใหม่ของเอาท์แลนเดอร์
เอาท์แลนเดอร์รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2001 โดยใช้ชื่อแอร์เทร็กสำหรับเวอร์ชัน JDM ที่ขายในญี่ปุ่น ส่วนเจนเนอเรชันที่ 2 เปิดตัวในปี 2005 และคราวนี้ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันตลาดโลกหรือ JDM เปลี่ยนมาใช้ชื่อเอาท์แลนเดอร์หมด (ยกเว้นในละตินอเมริกาบางแห่งใช้ชื่อมอนเทโร เอาท์แลนเดอร์) และมิตซูบิชิก็ยังส่งเอสยูวีรุ่นนี้ไปให้กับกลุ่ม PSA แห่งฝรั่งเศสเพื่อแต่งหน้าทาปากใหม่และรีแบรนด์ขายในชื่อเปอโยต์ 4007 และซีตรอง ซี-ครอสเซอร์
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากรูปทรงโดยรวมแล้วจะพบว่า แม้ตัวถังด้านหน้าจะได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยยกสไตล์แห่งความดุดันของกระจังหน้าแบบ Jet Fighter ของแลนเซอร์ อีโวลูชัน 10 มาใช้กับเอสยูวี แต่รายละเอียดของโครงสร้างตัวถังหลักโดยรวมยังใช้ร่วมกับเอาท์แลนเดอร์รุ่นที่ 2 ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าจะบอกว่าเป็นโมเดลเชนจ์ก็คงได้ไม่เต็มปากนัก น่าจะเรียกว่าเป็นบิ๊กไมเนอร์เชนจ์มากกว่า
เอาท์แลนเดอร์รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่น GS ซึ่งเป็น Project Global ตั้งแต่สมัยที่มิตซูบิชิ ไครสเลอร์ ยังอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในร่มเงาของเดมเลอร์ไครสเลอร์ โดยรถยนต์ที่แชร์พื้นฐานนี้ก็มีทั้งแลนเซอร์, เดอลิก้า และไครสเลอร์ เซบริง จี๊ป คอมแพสส์ และเพทริออต รวมถึงดอดจ์ อะเวนเจอร์ และคาลิเบอร์
ตัวต้นแบบมาพร้อมกับความเร้าใจของเครื่องยนต์เบนซินรหัส 6B31 วี6 3,000 ซีซี SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC เหมือนกับรุ่นจำหน่ายจริง ซึ่งได้รับการอัพเกรดสมรรถนะจาก 223 มาเป็น 230 แรงม้า พร้อมกับล้อแม็กของ OZ และชุดดิสก์เบรกของ Brembo
แต่มีความเด่นกว่าตรงที่มีการติดตั้งระบบที่เรียกว่า INL หรือ Idle Neutral Logic ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเกียร์จากตำแหน่งขับเคลื่อน หรือ D ไปยังตำแหน่งเกียร์ว่าง หรือ N ทันทีที่รถจอดติดอยู่กับที่
รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่แบบ S-AWC Super All Wheel Control ซึ่งมีความฉับไวและแม่นยำในการทำงาน เพราะอาศัยข้อมูลจากการหมุนของล้อ, กำลังของเครื่องยนต์ และการกดคันเร่งมาใช้ในการประมวลผลเพื่อสั่งการกระจายแรงบิดของเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 ให้เหมาะสม
สำหรับแฟนๆ ของมิตซูบิชิรอกันได้ในช่วงปลายปีนี้ เพราะเอาท์แลนเดอร์ต้นแบบคันนี้น่าจะถูกปรับปรุงอีกนิดก่อนลงสู่ตลาดจริงเพื่อแข่งขันกับคู่ปรับอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี และโตโยต้า ราฟโฟร์