ตลาดยางรถยนต์ในบ้านเราขณะนี้เรียกว่าคึกคัก เนื่องจากมีค่ายยางรถยนต์เปิดตัวสินค้าใหม่กันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการรุกทำกิจกรรมทางการตลาดเต็มพิกัด สวนทางกับยอดขายรถยนต์ที่ตกลงทุกเดือน ล่าสุดค่าย กู๊ดเยียร์ เปิดตัวยางรถยนต์รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า "กู๊ดเยียร์ ดูรา พลัส"
ยางรุ่นใหม่เปิดตัวโดยใช้สโลแกนว่า ยางที่วิ่งได้ไกล 100,000 กม. เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด ซึ่งคำโฆษณานี้ ทีมงานของกู๊ดเยียร์ได้บอกเราว่า ผ่านการอนุญาตจากทาง สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ให้สามารถใช้ได้ สำหรับสิ่งยืนยันตามคำโฆษณาดังกล่าว มีอยู่ในโบชัวร์ว่า "ผลทดสอบ โดยวิศวกรกู๊ดเยียร์ ด้วยยางขนาด 185/65R14 ในสภาพถนนของประเทศไทย"
อย่างไรก็ตามเพื่อพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ ทีมงานกู๊ดเยียร์ จัดการทดสอบยางรุ่นใหม่นี้เพื่อโชว์ให้ดูว่า ยางที่เขาว่าวิ่งได้ถึง 100,000 กม. นั้นเป็นอย่างไร ชนิดทันทีทันควันหลังการเปิดตัว กู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เพียง 1 วัน แต่ก่อนเข้าถึงเรื่องของทดสอบเรามาทำความรู้จักกับยาง ดูราพลัส สักนิด
กู๊ดเยียร์ส่งดูราพลัส สู่ตลาดโดยวางเป้าหมายเพื่อเจาะกลุ่มตลาดรถเก๋งขนาดเล็ก (ซับคอมแพคซ์) ด้วยไซส์ขนาด 12-16 นิ้ว ซึ่งรุ่นขนาด 15 นิ้วจะมีขนาดให้เลือกเยอะที่สุด สนนราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง ชูประเด็นเรื่องความคุ้มค่าต่อระยะทางเป็นจุดขาย
สำหรับจุดเด่นของยางดูราพลัส ที่ กู๊ดเยียร์นำเสนอคือ เทคโนโลยี TredLife อันทำให้ดอกยางหน้ากว้างขึ้น ร่องลึกขึ้นและเนื่องจากมีส่วนผสมที่ทนทานต่อการสึกหรอมาก จึงมีอายุการใช้งานนานกว่า ซึ่งเป็นที่มาของการที่กู๊ดเยียร์บอกว่า ยางของเขาวิ่งผ่านระยะทาง 100,000 กม. โดยคงประสิทธิภาพไว้เหมือนเดิม
การคิดค้นยางรุ่นดังกล่าวมีขึ้นที่ศูนย์นวัตกรรมกู๊ดเยียร์ ในกรุงลักเซมเบิร์ก โดยวิศวกร นักฟิสิกส์ นักเคมีและผู้เชี่ยวชาญรวมกว่า 100 ชีวิตร่วมกันพัฒนา ด้วยเป้าหมายสร้างยางที่วิ่งได้ถึง 100,000 กม. และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ทั้งนี้จากการทดสอบในห้องแล๊ปยืนยันว่า ยางดูราพลัส วิ่งยาวถึงขนาดนั้นได้ แต่แล้วความจริงจะวิ่งถึงหรือไม่ กู๊ดเยียร์ให้เรา ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง ไปพิสูจน์
เส้นทางการทดสอบเริ่มจากโรงงานกู๊ดเยียร์ แถวรังสิต จบการเดินทางที่ คีรีมายา เขาใหญ่ ช่วงแรกเป็นการทดลองขับ ยางกู๊ดเยียร์ ที่ประจำการอยู่ในรถโตโยต้า วิออส โดยจะสลับกันขับเปลี่ยนกับรถวิออส ที่ใส่ยางของค่ายคู่แข่งอื่นๆ
ผลของความรู้สึกของเรา บอกตามตรงว่า ไม่เห็นความแตกต่างแต่อย่างใด และเมื่อถามสื่อมวลชนท่านอื่นที่ร่วมทดสอบ คำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่รู้สึกถึงความต่าง และมีบางท่านที่บอกว่า เสียงยางบดถนนของดูราพลัส ดังกว่าคู่แข่งด้วย
จากนั้นให้เราร่วมสังเกตการณ์และเป็นพยานใน สถานีการทดสอบระยะเบรก เปรียบเทียบระหว่างยางคู่แข่งกับยางดูราพลัส โดยใช้รถคันเดียวกัน วิ่ง 2 ครั้ง ถอดเปลี่ยนยางคนละชุดในแต่ละครั้ง ใช้ความเร็วสำหรับการวิ่ง 100 กม./ชม. และกำหนดจุดเบรก
ผลการทดสอบนี้ยางดูราพลัสเบรกได้ระยะสั้นกว่า อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราอยากจะบอกว่า การทดสอบนี้มีปัจจัยหลายอย่างไม่อาจควบคุมและสร้างความน่าเชื่อถือให้เราได้ เช่น จุดเบรก, ความเร็วของรถ และ น้ำหนักในการกดเบรก เนื่องจากใช้คนในการขับ
สถานีทดสอบต่อมาให้เราไปทดลองขับแบบสลาลม แต่เนื่องจากจังหวะที่เรากำลังจะทดสอบกลับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก การทดสอบจึงต้องเลื่อนไปรอจนฝนหยุด และเมื่อฟ้าใส เราก็ได้เริ่มทำการทดสอบ อย่างไรก็ตามพื้นผิวยังคงมีสภาพเปียก อย่างมาก ทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก ซึ่งผลความรู้สึกของเราในการขับแบบสลาลม ยางดูราพลัสเกาะถนนดีไว้ใจได้ แม้ในสภาพพื้นเปียกแฉะ
สำหรับสถานีต่อมาเป็นการทดลองเปรียบเทียบแรงต้านการหมุนของล้อ โดยปล่อยรถลงมาแล้ววัดระยะทางที่รถวิ่งมาได้ ผลก็คือ ยางดูราพลัส ไหลได้ระยะทางไกลกว่าคู่แข่งประมาณ 10% แต่ทั้งนี้ก็ยังคงไม่อาจจะอ้างอิงผลได้ เนื่องจากจุดที่ปล่อยรถแต่ละครั้งนั้นใช้สายตาในการกำหนดและบอกว่าตรงกัน ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนได้ง่าย
สุดท้ายนำเราไปฟังการบรรยายถึงที่มา,สรรพคุณของยางและดูยางที่ผ่านสภาพการใช้งานมาแล้วราว 70,000 กม. ของยางรถยนต์ 4 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกัน และวัดค่าความหนาของดอกยาง และผลที่ออกมา คงไม่ต้องบอก เราก็รู้ว่าคุณทายถูก ยางกู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เหลือดอกยางหนาที่สุด (เราไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วยางทั้ง 4 ยี่ห้อวิ่งมาเท่าไหร่ มีแต่เพียงคำบอกของทีมงานกู๊ดเยียร์)
ส่วนยางที่วิ่ง 100,000 กม.แล้ว ไม่มีให้เราดู เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการวิ่งให้ได้ระยะดังกล่าว ซึ่งจะทราบผลในอีกราว 2-3 สัปดาห์ อ่านถึงตรงนี้อาจจะงงว่า จะต้องวิ่งทำไมอีก ในเมื่อมียางชุดที่ทดสอบโดยวิศวกรกู๊ดเยียร์ซึ่งวิ่งได้ 100,000 กม. แล้ว คำตอบคือ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งผลเป็นอย่างไรจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
สรุป การไปทดสอบยางกู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เพื่อพิสูจน์ว่า ยางที่เขาว่า วิ่งได้ 100,000 กม. เป็นอย่างไร เราพบว่า ยังไม่เห็นความแตกต่างกับยางคู่แข่งแต่อย่างใด ส่วนระยะทางที่กล่าวอ้าง ก็ยังไม่เห็นผลพิสูจน์ที่เป็นรูปธรรมออกมาจนทำให้รู้สึกเชื่อถือได้
ยางรุ่นใหม่เปิดตัวโดยใช้สโลแกนว่า ยางที่วิ่งได้ไกล 100,000 กม. เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด ซึ่งคำโฆษณานี้ ทีมงานของกู๊ดเยียร์ได้บอกเราว่า ผ่านการอนุญาตจากทาง สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ให้สามารถใช้ได้ สำหรับสิ่งยืนยันตามคำโฆษณาดังกล่าว มีอยู่ในโบชัวร์ว่า "ผลทดสอบ โดยวิศวกรกู๊ดเยียร์ ด้วยยางขนาด 185/65R14 ในสภาพถนนของประเทศไทย"
อย่างไรก็ตามเพื่อพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ ทีมงานกู๊ดเยียร์ จัดการทดสอบยางรุ่นใหม่นี้เพื่อโชว์ให้ดูว่า ยางที่เขาว่าวิ่งได้ถึง 100,000 กม. นั้นเป็นอย่างไร ชนิดทันทีทันควันหลังการเปิดตัว กู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เพียง 1 วัน แต่ก่อนเข้าถึงเรื่องของทดสอบเรามาทำความรู้จักกับยาง ดูราพลัส สักนิด
กู๊ดเยียร์ส่งดูราพลัส สู่ตลาดโดยวางเป้าหมายเพื่อเจาะกลุ่มตลาดรถเก๋งขนาดเล็ก (ซับคอมแพคซ์) ด้วยไซส์ขนาด 12-16 นิ้ว ซึ่งรุ่นขนาด 15 นิ้วจะมีขนาดให้เลือกเยอะที่สุด สนนราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง ชูประเด็นเรื่องความคุ้มค่าต่อระยะทางเป็นจุดขาย
สำหรับจุดเด่นของยางดูราพลัส ที่ กู๊ดเยียร์นำเสนอคือ เทคโนโลยี TredLife อันทำให้ดอกยางหน้ากว้างขึ้น ร่องลึกขึ้นและเนื่องจากมีส่วนผสมที่ทนทานต่อการสึกหรอมาก จึงมีอายุการใช้งานนานกว่า ซึ่งเป็นที่มาของการที่กู๊ดเยียร์บอกว่า ยางของเขาวิ่งผ่านระยะทาง 100,000 กม. โดยคงประสิทธิภาพไว้เหมือนเดิม
การคิดค้นยางรุ่นดังกล่าวมีขึ้นที่ศูนย์นวัตกรรมกู๊ดเยียร์ ในกรุงลักเซมเบิร์ก โดยวิศวกร นักฟิสิกส์ นักเคมีและผู้เชี่ยวชาญรวมกว่า 100 ชีวิตร่วมกันพัฒนา ด้วยเป้าหมายสร้างยางที่วิ่งได้ถึง 100,000 กม. และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ทั้งนี้จากการทดสอบในห้องแล๊ปยืนยันว่า ยางดูราพลัส วิ่งยาวถึงขนาดนั้นได้ แต่แล้วความจริงจะวิ่งถึงหรือไม่ กู๊ดเยียร์ให้เรา ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง ไปพิสูจน์
เส้นทางการทดสอบเริ่มจากโรงงานกู๊ดเยียร์ แถวรังสิต จบการเดินทางที่ คีรีมายา เขาใหญ่ ช่วงแรกเป็นการทดลองขับ ยางกู๊ดเยียร์ ที่ประจำการอยู่ในรถโตโยต้า วิออส โดยจะสลับกันขับเปลี่ยนกับรถวิออส ที่ใส่ยางของค่ายคู่แข่งอื่นๆ
ผลของความรู้สึกของเรา บอกตามตรงว่า ไม่เห็นความแตกต่างแต่อย่างใด และเมื่อถามสื่อมวลชนท่านอื่นที่ร่วมทดสอบ คำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่รู้สึกถึงความต่าง และมีบางท่านที่บอกว่า เสียงยางบดถนนของดูราพลัส ดังกว่าคู่แข่งด้วย
จากนั้นให้เราร่วมสังเกตการณ์และเป็นพยานใน สถานีการทดสอบระยะเบรก เปรียบเทียบระหว่างยางคู่แข่งกับยางดูราพลัส โดยใช้รถคันเดียวกัน วิ่ง 2 ครั้ง ถอดเปลี่ยนยางคนละชุดในแต่ละครั้ง ใช้ความเร็วสำหรับการวิ่ง 100 กม./ชม. และกำหนดจุดเบรก
ผลการทดสอบนี้ยางดูราพลัสเบรกได้ระยะสั้นกว่า อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราอยากจะบอกว่า การทดสอบนี้มีปัจจัยหลายอย่างไม่อาจควบคุมและสร้างความน่าเชื่อถือให้เราได้ เช่น จุดเบรก, ความเร็วของรถ และ น้ำหนักในการกดเบรก เนื่องจากใช้คนในการขับ
สถานีทดสอบต่อมาให้เราไปทดลองขับแบบสลาลม แต่เนื่องจากจังหวะที่เรากำลังจะทดสอบกลับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก การทดสอบจึงต้องเลื่อนไปรอจนฝนหยุด และเมื่อฟ้าใส เราก็ได้เริ่มทำการทดสอบ อย่างไรก็ตามพื้นผิวยังคงมีสภาพเปียก อย่างมาก ทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก ซึ่งผลความรู้สึกของเราในการขับแบบสลาลม ยางดูราพลัสเกาะถนนดีไว้ใจได้ แม้ในสภาพพื้นเปียกแฉะ
สำหรับสถานีต่อมาเป็นการทดลองเปรียบเทียบแรงต้านการหมุนของล้อ โดยปล่อยรถลงมาแล้ววัดระยะทางที่รถวิ่งมาได้ ผลก็คือ ยางดูราพลัส ไหลได้ระยะทางไกลกว่าคู่แข่งประมาณ 10% แต่ทั้งนี้ก็ยังคงไม่อาจจะอ้างอิงผลได้ เนื่องจากจุดที่ปล่อยรถแต่ละครั้งนั้นใช้สายตาในการกำหนดและบอกว่าตรงกัน ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนได้ง่าย
สุดท้ายนำเราไปฟังการบรรยายถึงที่มา,สรรพคุณของยางและดูยางที่ผ่านสภาพการใช้งานมาแล้วราว 70,000 กม. ของยางรถยนต์ 4 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกัน และวัดค่าความหนาของดอกยาง และผลที่ออกมา คงไม่ต้องบอก เราก็รู้ว่าคุณทายถูก ยางกู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เหลือดอกยางหนาที่สุด (เราไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วยางทั้ง 4 ยี่ห้อวิ่งมาเท่าไหร่ มีแต่เพียงคำบอกของทีมงานกู๊ดเยียร์)
ส่วนยางที่วิ่ง 100,000 กม.แล้ว ไม่มีให้เราดู เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการวิ่งให้ได้ระยะดังกล่าว ซึ่งจะทราบผลในอีกราว 2-3 สัปดาห์ อ่านถึงตรงนี้อาจจะงงว่า จะต้องวิ่งทำไมอีก ในเมื่อมียางชุดที่ทดสอบโดยวิศวกรกู๊ดเยียร์ซึ่งวิ่งได้ 100,000 กม. แล้ว คำตอบคือ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งผลเป็นอย่างไรจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
สรุป การไปทดสอบยางกู๊ดเยียร์ ดูราพลัส เพื่อพิสูจน์ว่า ยางที่เขาว่า วิ่งได้ 100,000 กม. เป็นอย่างไร เราพบว่า ยังไม่เห็นความแตกต่างกับยางคู่แข่งแต่อย่างใด ส่วนระยะทางที่กล่าวอ้าง ก็ยังไม่เห็นผลพิสูจน์ที่เป็นรูปธรรมออกมาจนทำให้รู้สึกเชื่อถือได้
