xs
xsm
sm
md
lg

ซูบารุ อิมเพรสซ่า 2.5 WRX แรงตั้งแต่เกิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แค่เห็นตัวอักษรต่อท้ายว่า WRX คงไม่ต้องสงสัยเรื่อง ความแรงที่บรรจุอยู่ใต้ฝากระโปรงของ ซูบารุ อิมเพรซ่า ซึ่งค่ายดาวลูกไก่หันมาทำตลาดโดยใช้อักษร 3 ตัวดังกล่าวสำหรับรุ่นแรงเป็นพิเศษ ในตัวโฉมใหม่ซึ่งเปิดตัวในเมืองไทยไปเมื่อปลายปี 2007

สำหรับโมเดลนี้เราคงไม่ต้องเกริ่นอะไรมากมายเนื่องจาก “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง”เคยนำเสนอบททดสอบมาแล้วถึง 2 ครั้งในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร (คลิกเพื่ออ่านบททดสอบย้อนหลัง)

ดังนั้นคราวนี้จึงเป็นคิวของ เจ้า 2.5 WRX ตัวแรง แต่ไม่สุดเพราะมีรุ่น WRX STI ที่เป็นตัวท๊อปสุดแรงขนาดแท้ไม่ต้องบรรยายอีกหนึ่งรุ่น

ซึ่งพิกัดความแรงของอิมเพรซ่าตัว 2.5 WRX ที่เรานำมาลองขับนั้นตามสเปคอยู่ระดับ กำลังสูงสุด 220 แรงม้า ที่ 5200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 2800 รอบ/นาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ บ๊อกเซอร์ 4 สูบนอนยัน 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบพร้อม อินเตอร์คูลเลอร์

ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (All Wheel Drive) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เท่านั้น ไม่มีรุ่นเกียร์อัตโนมัติให้เลือก คลัทซ์จะหนักกว่าปกตินิดหน่อย น้ำหนักตัวรถรวม 1,395 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลัง อิสระ ดับเบิลวิชโบน ระบบความปลอดภัยมีระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) แบบ 4 เซ็นเซอร์ 4 ตำแหน่ง พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 205/50 R17 เฉพาะคันที่ซูบารุให้เรามาทดลองเป็นยางบริดสโตนรุ่น RE070 แต่ตัวที่ขายจริงจะไม่ใช่ยางรุ่นนี้

ความรู้สึกแรกหลังเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร “มันไม่มีอะไรแตกต่างจากตัวอื่นที่เคยขับเลย” อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีมาให้แทบจะไม่แตกต่างจากรุ่น 1.5 และ2.0 ลิตร สิ่งเดียวที่แตกต่างอย่างเด่นชัดคือ เบาะนั่ง ทรงสปอร์ต นอกนั้นไม่รู้สึก

สตาร์ทรถ ฟังเสียงเครื่อง 4 สูบนอนยัน (Boxer) อันเป็นเอกลักษณ์เลื่องชื่อ ยังคงความไพเราะเสนาะหูเหมือนเดิม แต่แล้วเมื่อเราเหยียบคลัทซ์ ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนทันที เมื่อคลัทซ์หนักขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน อาจจะไม่เหมาะสมนักสำหรับการใช้งานในเมืองที่ต้องเหยียบคลัทซ์และเบรกบ่อยๆ

และเมื่อเราเข้าเกียร์เดินหน้า ปล่อยคลัทซ์ เหยียบคันเร่งเพียงเบาๆ “โอ้ แม่เจ้า” ทำไมรถมันเหมือนจะกระโจนออกไปข้างหน้าตลอดเวลา นี่นะหรือคืออิทธิพลของ WRX จากเราเติมน้ำหนักกดคันเร่งอีกเพียงเล็กน้อย เจ้าอิมเพรซ่า ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบรวดเร็วเกินคาด

จังหวะเกียร์หนึ่ง เกียร์สอง กดคันเร่งเต็มๆเท้าสักหน่อย ก็สัมผัสได้ถึงความแรงชนิดหลังติดเบาะ แต่ที่เร้าใจสุดๆ เมื่อสับเข้าเกียร์สามแล้ว กดคันเร่งให้รอบของเครื่องยนต์พุ่งทะลุมากกว่า 4000 รอบ/นาที แรงดึงมหาศาลนำพาเจ้าอิมเพรซาวิ่งผ่านความเร็วทะลุเกิน 120 กม./ชม. แบบง่ายดาย และนี่คือแค่ช่วงแรกที่เราได้สัมผัส

หลังจากนั้นเราวิ่งเข้าสู่ช่วงถนนรามอินทรา ในระหว่างเวลาเลิกงานราว 4-5 โมงเย็น ความคล่องตัวในด้านการปรับเปลี่ยนเลนไม่มีปัญหา การบังคับควบคุมพวงมาลัยแม่นยำ น้ำหนักของพวงมาลัยพอดีๆ ไม่หนักจนเกินไป แต่จะไม่ค่อยชอบอยู่นิดเดียว เมื่อรถต้องหยุดหรือชะลอบ่อย จากเหตุ คลัทซ์หนัก ทำให้เมื่อยขาซ้ายได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจราจรจะหนาแน่น แต่บางช่วงก็มีจังหวะให้เราทดลองแซงหรือแทรกเปลี่ยนเลน เจ้าอิมเพรซ่า ไม่ทำให้เราผิดหวัง สามารถเสียบเข้าไปได้ทันทุกช่องที่เราต้องการจะไป จากการตอบสนองช่วงต้นรวดเร็วเกินใจคาดคิด เรียกว่าเป็นรถ ยิ่งขับยิ่งสนุก

แล้วเมื่อเราได้ทดลองวิ่งทางตรงยาวเพื่อหาความเร็วสูงสุด (เลือกใช้ถนนวงแหวนสะพานพระราม5) ณ ความเร็วระดับ 180 กม./ชม. กำลังของเครื่องยนต์ยังเหลือเฟือที่จะไหลไปต่อได้อีก แต่ถนนของเมืองไทยไม่เอื้ออำนวย โดยที่ความเร็วระดับนั้นรถยังคงเกาะถนนสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับแบบเต็ม 100%

บางช่วงของถนนมีคอสะพานเราขับผ่านด้วยความเร็วกว่า 100 กม./ชม. จังหวะขึ้น-ลง ตัวรถไม่เสียการทรงตัว โช้คยุบแล้วเด้งขึ้นมาทีเดียวอยู่ ไม่มีอาการกระดอนซ้ำ สร้างความประทับใจให้เราอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าการเกาะถนนของ เจ้า อิมเพรซ่า 2.5 WRX. หนึบไม่เสียชื่อ ซูบารุ

จากนั้นเราลองขับแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ เจ้าอิมเพรซ่า ก็สามารถทำได้เนียนดี จะมีในเรื่องของอาการที่รถอยากจะพุ่งไปข้างหน้าให้สัมผัสได้เป็นระยะตามจังหวะของการขับและรอบเครื่องยนต์ (อาการเช่นว่านี้ หากให้ลองเปรียบคงจะเหมือน ม้าหนุ่มคะนองศึก อยากออกรบตลอดเวลา)

สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ต้องสงสัยเลยรถแรงขนาดนี้จากการขับหลากสไตล์ทั้งดุดัน และเรื่อยเปื่อย ตัวเลขเฉลี่ยทั้งหมดตามการแสดงผลของหน้าจออยู่ที่ 14.6 ลิตรต่อ 100 กม. หรือคิดเป็นประมาณ 6.8 กม./ลิตร ทั้งนี้บางช่วงที่เรากดคันเร่งหนักๆ ตัวเลขอัตราการบริโภคถีบไปถึง 17-18 ลิตร/100 กม.เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูป(CBU) ทำให้ราคาของ ซูบารุ อิมเพรซ่า 2.5 WRX ถีบตัวขึ้นไปถึง 2.42 ล้านบาท แพงกว่ารุ่น 2.0 ถึงกว่า 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าที่คิดจะซื้อรถตัวนี้คงจะไม่ใช่ พวกมือใหม่หรือซื้อเป็นรถคันเดียวของบ้านอย่างแน่นอน

เพราะเท่าที่ผู้เขียนทราบข้อมูลและคุยกับผู้เป็นเจ้าของหรือเคยครอบครองรถแรงแบบนี้ มักจะเป็นคนที่เคยผ่านการใช้งานรถมาอย่างโชกโชน รวมถึงเคยใช้รถยุโรปหรูหรา ราคาแพงมาแล้วทั้งสิ้น ก่อนที่จะตัดสินใจมาเลือกซื้อเจ้า อิมเพรซ่า 2.5 WRX ไว้เป็นพาหนะคู่ใจอีกหนึ่งคันของบ้าน

สรุป แม้ว่า ตั้งค่าตัวของซูบารุ อิมเพรซ่า 2.5 WRX จะสูงถึง 2.42 ล้านบาท บางคนอาจจะคิดว่าแพง แต่บางคนก็เห็นต่าง ซึ่งเราอยากจะบอกว่า คนที่มีกำลังซื้อได้ และเมื่อตัดสินใจซื้อ เขาจะคิดแค่ว่า “จะมีรถสักกี่คันในวงเงินระดับ 2 ล้านกลางๆ ที่สามารถสั่งให้อดานาลีนของเราหลั่งได้ดังใจ เฉกเช่นคันนี้บ้าง”










กำลังโหลดความคิดเห็น