xs
xsm
sm
md
lg

ชิมลางก่อนใคร “ซิรอคโค่” หนึ่งเดียวของไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แทบจะไม่น่าเชื่อเมื่อเจ้าโมเดลสุดร้อนแรง “ซิรอคโค่” (Scirocco) ของค่าย โฟล์คสวาเกน ที่นำมาแสดงเมื่องานมอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา ตั้งราคาขายเพียง 2.46 ล้านบาท เราคาดว่าคงต้องมีเจ้าของแล้วอย่างแน่นอน จากยอดจองกว่า 20 คัน แต่เมื่อสอบถามทีมงานได้ความว่า เจ้ารถคันเด่นนั้นจะต้องถูกส่งกลับไปเยอรมนี เนื่องจากขอมาแสดงเพียงอย่างเดียว ส่วนรถที่จะขายจริงกว่าจะมาก็โน่น เดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ตามจะด้วยความบังเอิญบวกกับโชคเล็กน้อย ทำให้ทีมงาน ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง มีโอกาสสัมผัสกับเจ้า “โฟล์คสวาเกน ซิรอคโค่” ก่อนใคร เมื่อได้รับคำชวนให้ทดลองขับจากเจ้าของรถ ซิรอคโค คันแรกในเมืองไทย แม้จะเพียงระยะทางสั้นๆ เราก็ไม่ปฏิเสธ

ก่อนการขับเราได้พูดคุยถึงสเปคของเจ้า ซิรอคโค คันนี้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากตัวที่ขายโดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อยู่หลายจุด เริ่มจาก ชุดแต่งภายนอกที่ได้รับการตกแต่งใหม่รอบคันจากสำนักแต่งจากเยอรมนี ซึ่งแว่วมาว่าเตรียมจะเข้ามาลุยตลาดอย่างเป็นทางการในเมืองไทยตาม โฟล์คสวาเกน อีกด้วย

นอกจากนั้น เจ้าซิรอคโค่ คันนี้ยังได้รับการปรับจูนเนอร์กล่องให้มีกำลังเพิ่มมากขึ้นจาก สเปคโรงงาน 200 แรงม้า กลายเป็น 250 แรงม้า พร้อมกับใส่ชุดโช้คอัพ-สปริงแต่ง และเสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยขนาด 19” ดูดุดันฉีกแนวจากเดิม

เรารับกุญแจ ติดเครื่องยนต์ เสียงอาจจะไม่คำรามอะไรมากมาย แต่เมื่อเคลื่อนตัวออกมาสู่ถนนใหญ่ กดคันเร่งคิกดาวน์ ตามคำบอกของเจ้าของรถที่ให้เราลอง เราก็พบกับอาการหลังติดเบาะ จากแรงดึงมหาศาลซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาจากซิรอคโค เล็กๆ คันนี้ เรียกว่าความรู้สึกแบบนี้จะพบได้ในรถระดับซุปเปอร์คาร์

พร้อมกับการตอบสนองอย่างต่อเนื่องในทุกย่านความเร็วหลังการคิกดาวน์ จากความลำหน้าของชุดเกียร์อัตโนมัติ DSG อันเลื่องชื่อแห่งโฟล์คสวาเกน ที่ทำให้รถไม่สูญเสียกำลังในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ และเมื่อผสานกับรูปร่างของรถ ส่งผลการเปลี่ยนเลนหรือมุดซ้าย-ขวาในสภาพการจราจรหนาแน่นทำได้ประทับใจและให้ความสนุกไม่น้อย

ส่วนช่วงล่างที่ปรับเปลี่ยนมาทำให้เรารู้สึกว่า แข็งพอสมควร ซึ่งหากเป็นรถสเปคโรงงาน คาดว่าจะนุ่มนวลกว่านี้ เราลองขับเป็นระยะทางราว 10 กม. ความสนุกยังไม่ทันหายแต่ก็มีความจำเป็นต้องอำลาจากกันไป พร้อมกับคำมั่นสัญญาว่า อีกไม่นานเมื่อซิรอคโคตัวขายจริงๆ มาถึงเราจะได้มีโอกาสทดลองขับอีกครั้ง ส่วนจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามชมกันต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น