“ลิมิตเต็ด เอดดิชั่น” กลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ค่ายรถต่างนิยมนำมาใช้เพื่อเรียกความสนใจของลูกค้าในช่วงงานมอเตอร์โชว์’09 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปหมาดๆ ซึ่งเรา “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” เก็บรวบรวมข้อมูลมาให้ลองดูกันเล่นๆ ว่า แต่ละค่ายที่เลือกใช้กลยุทธ์นี้มีทีเด็ดอะไรมานำเสนอกันบ้าง
เชฟโรเลต ส่งแคปติวาเพิ่มNavi
เชฟโรเลตนำเอา รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร LT มาเสริมพิเศษ ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก คือหน้าจอขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ซึ่งยังแสดงผลการทำงานของระบบปรับอากาศ และเครื่องเสียงติดตั้งอยู่บนคอนโซล เบาะหนังเจาะรูสีเบจสุดหรู ล้ออัลลอยลวดลาย 7 ก้านขนาด 18 นิ้วพร้อมยางสปอร์ตจากดันลอป และแผงกระจังหน้าโครเมียมดูสวยงามแฝงความดุดัน โดยปรับมาใช้ชื่อรุ่นพิเศษว่า แคปติวา LTZ
อีซูซุ แต่งหล่อ 2 รุ่นหลัก
ยักษ์ใหญ่รถปิกอัพของไทย อีซูซุ มากับรถรุ่นพิเศษคือ “อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ แพลททินั่ม สปีด” และ “อีซูซุ มิว-เซเว่น แพลททินั่ม TOURING EDITION”
สำหรับ อีซูซุ มิว-เซเว่น แพลททินั่ม TOURING EDITION นำเอาตัวรถรุ่นพรีโม แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สีขาวมุก (Omega Pearl White) ขนาด 3.0 ลิตร มาเสริมความบันเทิงด้วย ชุดเครื่องเล่นดีวีดี จาก Kenwood พร้อม Built-in Bluetooth, จอ LCD ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว, Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยจอด
เพิ่มความพิเศษสุด! ด้วย ชุดรับสัญญาณโทรทัศน์ (TV Tuner) และชุดอุปกรณ์ดาวเทียมนำทาง (Navigator) ช่วยให้การวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น พร้อมยืนยันความพิเศษด้วยสติ๊กเกอร์ตกแต่งด้านข้าง “Touring Edition” สะท้อนรสนิยมคนรักการเดินทาง ผลิตจำนวนจำกัด
ส่วนอีกรุ่นคือ อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ แพลททินั่ม สปีด นำเอารถรุ่น เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร มาเสริมชุดสเกิร์ตรอบคันที่ออกแบบพิเศษ ชุดคอนโซลพร้อมแผงสวิตซ์ข้างประตูลายไม้พิเศษสีดำ Black Blue Pearl ชุดพรมปูพื้นลายสัญลักษณ์ รุ่น “Speed” ฝาครอบชายบันไดสแตนเลส พิมพ์ลาย “Speed” กันรอย ขอบประตูล่าง และสติ๊กเกอร์รุ่น Speed บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำไมก้า และสีบรอนซ์เงินเมทาลิค ผลิตจำนวนจำกัดเช่นกัน
มาสด้าส่ง 3 MOVE Series
สำหรับรถมาสด้า3 ใหม่ "MOVE Series" คือรุ่นพิเศษใช้คอนเซ็ปต์ของ Mazda MPS และหวังเจาะตลาดกลุ่มแฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู ซึ่งประกอบด้วย รุ่น "i-MOVE" สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสปอร์ตแบบคุ้มค่า ซึ่ง "I" มาจาก "Intelligent" ที่ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมสไตล์สปอร์ตรอบคัน เพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์เสริมความคุ้มค่าอีกมากมาย
และรุ่น "s-MOVE" แฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่ง "S" มาจาก "Sport" ตกแต่งเน้นอารมณ์สปอร์ตสไตล์ MPS ด้วยสเกิร์ตหน้าสไตล์สปอร์ต เสริมมุมมองดุดันให้แก่มุมหน้ารถ เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด สติ๊กเกอร์รอบคันออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่นตามสไตล์ MPS ที่เป็นรู้จักในวงการคนรักรถสปอร์ตทั่วโลก พร้อมโลโก้ S-MOVE เน้นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
เสริมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่โดดเด่นคือเครื่องเล่น DVD Touch Screen TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator พร้อมฟังก์ชั่นรองรับ Bluetooth, USB, iPod, SD Card, DVC/CD/MP3/MP4 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวไดมอนด์ไวท์ และสีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น
มิตซูบิชิ จับ 2 รุ่นใส่นำทาง-สีพิเศษ
ค่ายเพชร3เม็ด มากับทีเด็ด 2 รุ่นพิเศษมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นพิเศษสีขาวมุก (White Pearl) และ สเปซ แวกอน รุ่นพิเศษ 2-way Navi Edition ติดตั้งระบบนำทาง (Navigator) และ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth)
รุ่นแรก “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมามากับรุ่นพิเศษสีขาวมุก ( White Pearl ) ในตัวรถรุ่น 3.2 GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ขณะที่อีกหนึงรุ่นเป็น “มิตซูบิชิ สเปซแวกอน” รุ่นพิเศษ 2-way Navi Edition นำสองเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยม คือ รุ่น GLS Limited และรุ่น GT มาติดตั้งอุปกรณ์เสริมทั้ง ระบบนำทาง (Navigator) แบบหน้าจอสัมผัส และ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมจอมอนิเตอร์ใหญ่ขึ้นขนาด 10.2 นิ้ว เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางตลอดเส้นทาง โดยในรุ่น GT มาพร้อมสีพิเศษขาวมุก ส่วนในรุ่น GLS Limited มี 2 สีให้เลือก คือ สีดำ และสีบรอนซ์เงิน
โตโยต้า ตกแต่งพิเศษ 5 รุ่นรวด
สัมผัสกับการปรากฏโฉมของพลพรรค โตโยต้า ที่มาพร้อมเวอร์ชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น วีออส วิช อัลติส ฟอร์จูนเนอร์ และคัมรี่ เริ่มต้นด้วย โคโรลล่า อัลติส รุ่นพิเศษ รุ่น 1.6 SS-I (Superb Seadan-One) จะเน้นการตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยสเกิร์ตด้านหน้า ด้านหลัง และสปอยเลอร์หลัง กระจังหน้า แนวนอนสีขาวพร้อมโครเมี่ยม ไฟท้าย LED แบบเลนส์ไส ล้ออัลลอยด์ 15’สี smoke chrome พร้อมยาง 195/65R15 คิ้วกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ โลโก้
“SS-I ” บริเวณฝากระโปรงท้ายด้านซ้าย
ภายในพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน หัวเกียร์หุ้มหนังและฐานเกียร์ลายไม้ดำพร้อมขอบโครเมี่ยมแผงคอนโซลกลางสี Mettallic พร้อมลายไม้สีดำ สีภายในสีดำ/เบจ และเบาะหนังทูโทนสีเบจ/ดำ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 829,000 บาท มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 900 คัน และมีเฉพาะสีขาวเท่านั้น
ส่วนโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มี 2 เวอร์ชันให้เลือกคือรุ่น ทีอาร์ดี สปอร์ติโว (TRD Sportivo) นำตัวรถรุ่น 3.0 V A/T ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาตกแต่งพิเศษด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ของสำนักแต่ง TRD ทั้งเกิร์ตหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลัง ล้อแม็กอัลลอย 18 นิ้ว ยาง 265/60R18 พร้อมโลโก้ TRD เด่นด้วยป้ายสติกเกอร์ชื่อ TRD Sportivo ประตูรถด้านหลัง 2 ข้างและท้ายรถส่วนช่วงล่างใช้โช้คอัพและคอยล์สปริงจาก TRD Sportivo
ด้านการตกแต่งภายในมีชุดเครื่องเสียงแบบเต็มหน้าจอขนาด 2 Din สีภายในห้องโดยสารแบบทูโทน สีดำและครีม Sand Beige เบาะหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมปั้มลาย TRD Sportivo ,ที่เท้าแขนคอนโซลกลางหุ้มหนัง,หัวเกียร์ A/T และหัวเกียร์เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนหุ้มหนังแบบเจาะรู ขณะที่คอนโซลกลาง,ผงครอบแป้นเกียร์,พวงมาลัย และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า หุ้มลายสปอร์ตเคฟลาร์ทั้งหมด
ขณะที่อีกหนึ่งรุ่นเป็น รุ่นอเพอร์โต (APERTO) ที่จะนำตัวรถรุ่น 3.0V A/T แบบขับเคลื่อนสองล้อ มาเสริมความบันเทิงด้วยการติดตั้งเครื่องเสียงแบบเต็มหน้าจอขนาด 2Din พร้อมจอLCD ขนาด 8.5 นิ้วบนเพดานห้องโดยสาร และเพิ่มช่องเสียบต่ออุปกรณ์ AUX และUSB รองรับอุปกรณ์ด้านความบันเทิงแบบครบถ้วน
ซึ่งฟอร์จูนเนอร์ทั้ง 2 รุ่นจะผลิตจำหน่ายเฉพาะสีขาวเท่านั้น โดยรุ่น TRD Sportivo ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,600 คันและรุ่น APERTO เพียง 800 คัน
นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยการปรับแต่งรุ่น คัมรี่ ในแบบพีเศษ เอ็กซ์ตรีมโม (Extremo) หลังจากที่เวอร์ชั่นนี้เคยนำมาใช้ในรุ่น 2.0 มาคราวนี้ โตโยต้าจับรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรมาเสริมหล่อบ้าง โดยใส่ เสกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หน้าและหลังใหม่ ภายในปรับเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่ พร้อมด้วยสัญลักษณ์ Extremo ท้ายรถ โดยจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 150 คันเท่านั้น
สำหรับรุ่น วิช โตโยต้าเสริมหล่ออีกครั้งด้วยเวอร์ชั่น ST3 (Sport Touring III) มากับชุดแต่งใหม่ เน้นอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น ทั้งสเกิร์ตหน้า และสเกิร์ตหลังดีไซน์ล้ำยุค ไฟหน้า HID แบบเลนส์ Projector ล้ออัลลอยโครเมียมรมดำปัดเงาขนาด 17 นิ้ว มือจับประตูดีไซน์สปอร์ต และสัญลักษณ์ ST3 บ่งบอกรสนิยมเหนือชั้นของผู้ขับขี่
ตกแต่งด้วยโทนสีดำลายเคฟลาร์ ขับอารมณ์สปอร์ตไม่แพ้ภายนอก เริ่มต้นด้วยเบาะหนังดีไซน์ใหม่ปั้มลายนูนสัญลักษณ์ ST3 แบบ Perforated โทนสีดำ-แดง พรมปูพื้นลายใหม่ เสริมความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยเครื่องเสียงจอ DVD แบบ 2 DIN ที่คอนโซลหน้า และ LCD หลังขนาดใหญ่ 8.5 นิ้ว บริเวณที่นั่งแถวสอง พร้อมด้วยช่องต่อ USB และ Ipod เพิ่มความสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง
ส่วนรุ่นวิออส นั้นมาในโฉม VIOS GT Street เวอร์ชั่น ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบแนวสปอร์ต โดยปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยวด้วยสเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง สปอยเลอร์และสติกเกอร์ GT Street ที่ฝากระโปรงหลัง ท่อไอเสียพร้อมฝาครอบ สแตนเลส และสติกเกอร์ด้านข้างดีไซน์สปอร์ต
ส่วนภายในใช้สีโทนสีแดงดำที่ให้ความรู้สึกเร้าใจ ทั้งผ้าเบาะสีแดงกับสีดำรวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง หัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง และคอนโซลหน้าสุดสปอร์ตสีดำ-แดง อย่างไรก็ตาม วีออส จีที มีค่าตัวอยู่ที่ 579,000 บาท และผลิตเพียงแค่ 1,000 คันเท่านั้น
ทั้งหมดนี้คือ รถรุ่นพิเศษ ที่บรรดาค่ายรถต่างใช้เป็นกลยุทธ์ในการเรียกลูกค้าทั้งเพื่อให้เข้ามาชมและกระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภค ส่วนจะมีใครตกเป็นเหยื่อทางการตลาดมากน้อยเพียงไรก็สุดแท้แต่จะคาดเดา
เชฟโรเลต ส่งแคปติวาเพิ่มNavi
เชฟโรเลตนำเอา รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร LT มาเสริมพิเศษ ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก คือหน้าจอขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ซึ่งยังแสดงผลการทำงานของระบบปรับอากาศ และเครื่องเสียงติดตั้งอยู่บนคอนโซล เบาะหนังเจาะรูสีเบจสุดหรู ล้ออัลลอยลวดลาย 7 ก้านขนาด 18 นิ้วพร้อมยางสปอร์ตจากดันลอป และแผงกระจังหน้าโครเมียมดูสวยงามแฝงความดุดัน โดยปรับมาใช้ชื่อรุ่นพิเศษว่า แคปติวา LTZ
อีซูซุ แต่งหล่อ 2 รุ่นหลัก
ยักษ์ใหญ่รถปิกอัพของไทย อีซูซุ มากับรถรุ่นพิเศษคือ “อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ แพลททินั่ม สปีด” และ “อีซูซุ มิว-เซเว่น แพลททินั่ม TOURING EDITION”
สำหรับ อีซูซุ มิว-เซเว่น แพลททินั่ม TOURING EDITION นำเอาตัวรถรุ่นพรีโม แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สีขาวมุก (Omega Pearl White) ขนาด 3.0 ลิตร มาเสริมความบันเทิงด้วย ชุดเครื่องเล่นดีวีดี จาก Kenwood พร้อม Built-in Bluetooth, จอ LCD ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว, Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยจอด
เพิ่มความพิเศษสุด! ด้วย ชุดรับสัญญาณโทรทัศน์ (TV Tuner) และชุดอุปกรณ์ดาวเทียมนำทาง (Navigator) ช่วยให้การวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น พร้อมยืนยันความพิเศษด้วยสติ๊กเกอร์ตกแต่งด้านข้าง “Touring Edition” สะท้อนรสนิยมคนรักการเดินทาง ผลิตจำนวนจำกัด
ส่วนอีกรุ่นคือ อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ แพลททินั่ม สปีด นำเอารถรุ่น เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร มาเสริมชุดสเกิร์ตรอบคันที่ออกแบบพิเศษ ชุดคอนโซลพร้อมแผงสวิตซ์ข้างประตูลายไม้พิเศษสีดำ Black Blue Pearl ชุดพรมปูพื้นลายสัญลักษณ์ รุ่น “Speed” ฝาครอบชายบันไดสแตนเลส พิมพ์ลาย “Speed” กันรอย ขอบประตูล่าง และสติ๊กเกอร์รุ่น Speed บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ซึ่งมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำไมก้า และสีบรอนซ์เงินเมทาลิค ผลิตจำนวนจำกัดเช่นกัน
มาสด้าส่ง 3 MOVE Series
สำหรับรถมาสด้า3 ใหม่ "MOVE Series" คือรุ่นพิเศษใช้คอนเซ็ปต์ของ Mazda MPS และหวังเจาะตลาดกลุ่มแฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู ซึ่งประกอบด้วย รุ่น "i-MOVE" สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสปอร์ตแบบคุ้มค่า ซึ่ง "I" มาจาก "Intelligent" ที่ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมสไตล์สปอร์ตรอบคัน เพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์เสริมความคุ้มค่าอีกมากมาย
และรุ่น "s-MOVE" แฮ็ทช์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่ง "S" มาจาก "Sport" ตกแต่งเน้นอารมณ์สปอร์ตสไตล์ MPS ด้วยสเกิร์ตหน้าสไตล์สปอร์ต เสริมมุมมองดุดันให้แก่มุมหน้ารถ เซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด สติ๊กเกอร์รอบคันออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่นตามสไตล์ MPS ที่เป็นรู้จักในวงการคนรักรถสปอร์ตทั่วโลก พร้อมโลโก้ S-MOVE เน้นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
เสริมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่โดดเด่นคือเครื่องเล่น DVD Touch Screen TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง GPS Navigator พร้อมฟังก์ชั่นรองรับ Bluetooth, USB, iPod, SD Card, DVC/CD/MP3/MP4 มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวไดมอนด์ไวท์ และสีดำแพนเธอร์แบล็กเมทัลลิก ผลิตด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น
มิตซูบิชิ จับ 2 รุ่นใส่นำทาง-สีพิเศษ
ค่ายเพชร3เม็ด มากับทีเด็ด 2 รุ่นพิเศษมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นพิเศษสีขาวมุก (White Pearl) และ สเปซ แวกอน รุ่นพิเศษ 2-way Navi Edition ติดตั้งระบบนำทาง (Navigator) และ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth)
รุ่นแรก “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมามากับรุ่นพิเศษสีขาวมุก ( White Pearl ) ในตัวรถรุ่น 3.2 GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ขณะที่อีกหนึงรุ่นเป็น “มิตซูบิชิ สเปซแวกอน” รุ่นพิเศษ 2-way Navi Edition นำสองเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยม คือ รุ่น GLS Limited และรุ่น GT มาติดตั้งอุปกรณ์เสริมทั้ง ระบบนำทาง (Navigator) แบบหน้าจอสัมผัส และ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมจอมอนิเตอร์ใหญ่ขึ้นขนาด 10.2 นิ้ว เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางตลอดเส้นทาง โดยในรุ่น GT มาพร้อมสีพิเศษขาวมุก ส่วนในรุ่น GLS Limited มี 2 สีให้เลือก คือ สีดำ และสีบรอนซ์เงิน
โตโยต้า ตกแต่งพิเศษ 5 รุ่นรวด
สัมผัสกับการปรากฏโฉมของพลพรรค โตโยต้า ที่มาพร้อมเวอร์ชั่นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น วีออส วิช อัลติส ฟอร์จูนเนอร์ และคัมรี่ เริ่มต้นด้วย โคโรลล่า อัลติส รุ่นพิเศษ รุ่น 1.6 SS-I (Superb Seadan-One) จะเน้นการตกแต่งสไตล์สปอร์ตด้วยสเกิร์ตด้านหน้า ด้านหลัง และสปอยเลอร์หลัง กระจังหน้า แนวนอนสีขาวพร้อมโครเมี่ยม ไฟท้าย LED แบบเลนส์ไส ล้ออัลลอยด์ 15’สี smoke chrome พร้อมยาง 195/65R15 คิ้วกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ โลโก้
“SS-I ” บริเวณฝากระโปรงท้ายด้านซ้าย
ภายในพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน หัวเกียร์หุ้มหนังและฐานเกียร์ลายไม้ดำพร้อมขอบโครเมี่ยมแผงคอนโซลกลางสี Mettallic พร้อมลายไม้สีดำ สีภายในสีดำ/เบจ และเบาะหนังทูโทนสีเบจ/ดำ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 829,000 บาท มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 900 คัน และมีเฉพาะสีขาวเท่านั้น
ส่วนโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มี 2 เวอร์ชันให้เลือกคือรุ่น ทีอาร์ดี สปอร์ติโว (TRD Sportivo) นำตัวรถรุ่น 3.0 V A/T ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาตกแต่งพิเศษด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ของสำนักแต่ง TRD ทั้งเกิร์ตหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลัง ล้อแม็กอัลลอย 18 นิ้ว ยาง 265/60R18 พร้อมโลโก้ TRD เด่นด้วยป้ายสติกเกอร์ชื่อ TRD Sportivo ประตูรถด้านหลัง 2 ข้างและท้ายรถส่วนช่วงล่างใช้โช้คอัพและคอยล์สปริงจาก TRD Sportivo
ด้านการตกแต่งภายในมีชุดเครื่องเสียงแบบเต็มหน้าจอขนาด 2 Din สีภายในห้องโดยสารแบบทูโทน สีดำและครีม Sand Beige เบาะหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมปั้มลาย TRD Sportivo ,ที่เท้าแขนคอนโซลกลางหุ้มหนัง,หัวเกียร์ A/T และหัวเกียร์เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนหุ้มหนังแบบเจาะรู ขณะที่คอนโซลกลาง,ผงครอบแป้นเกียร์,พวงมาลัย และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า หุ้มลายสปอร์ตเคฟลาร์ทั้งหมด
ขณะที่อีกหนึ่งรุ่นเป็น รุ่นอเพอร์โต (APERTO) ที่จะนำตัวรถรุ่น 3.0V A/T แบบขับเคลื่อนสองล้อ มาเสริมความบันเทิงด้วยการติดตั้งเครื่องเสียงแบบเต็มหน้าจอขนาด 2Din พร้อมจอLCD ขนาด 8.5 นิ้วบนเพดานห้องโดยสาร และเพิ่มช่องเสียบต่ออุปกรณ์ AUX และUSB รองรับอุปกรณ์ด้านความบันเทิงแบบครบถ้วน
ซึ่งฟอร์จูนเนอร์ทั้ง 2 รุ่นจะผลิตจำหน่ายเฉพาะสีขาวเท่านั้น โดยรุ่น TRD Sportivo ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,600 คันและรุ่น APERTO เพียง 800 คัน
นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยการปรับแต่งรุ่น คัมรี่ ในแบบพีเศษ เอ็กซ์ตรีมโม (Extremo) หลังจากที่เวอร์ชั่นนี้เคยนำมาใช้ในรุ่น 2.0 มาคราวนี้ โตโยต้าจับรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรมาเสริมหล่อบ้าง โดยใส่ เสกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หน้าและหลังใหม่ ภายในปรับเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่ พร้อมด้วยสัญลักษณ์ Extremo ท้ายรถ โดยจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 150 คันเท่านั้น
สำหรับรุ่น วิช โตโยต้าเสริมหล่ออีกครั้งด้วยเวอร์ชั่น ST3 (Sport Touring III) มากับชุดแต่งใหม่ เน้นอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น ทั้งสเกิร์ตหน้า และสเกิร์ตหลังดีไซน์ล้ำยุค ไฟหน้า HID แบบเลนส์ Projector ล้ออัลลอยโครเมียมรมดำปัดเงาขนาด 17 นิ้ว มือจับประตูดีไซน์สปอร์ต และสัญลักษณ์ ST3 บ่งบอกรสนิยมเหนือชั้นของผู้ขับขี่
ตกแต่งด้วยโทนสีดำลายเคฟลาร์ ขับอารมณ์สปอร์ตไม่แพ้ภายนอก เริ่มต้นด้วยเบาะหนังดีไซน์ใหม่ปั้มลายนูนสัญลักษณ์ ST3 แบบ Perforated โทนสีดำ-แดง พรมปูพื้นลายใหม่ เสริมความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยเครื่องเสียงจอ DVD แบบ 2 DIN ที่คอนโซลหน้า และ LCD หลังขนาดใหญ่ 8.5 นิ้ว บริเวณที่นั่งแถวสอง พร้อมด้วยช่องต่อ USB และ Ipod เพิ่มความสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง
ส่วนรุ่นวิออส นั้นมาในโฉม VIOS GT Street เวอร์ชั่น ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบแนวสปอร์ต โดยปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยวด้วยสเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง สปอยเลอร์และสติกเกอร์ GT Street ที่ฝากระโปรงหลัง ท่อไอเสียพร้อมฝาครอบ สแตนเลส และสติกเกอร์ด้านข้างดีไซน์สปอร์ต
ส่วนภายในใช้สีโทนสีแดงดำที่ให้ความรู้สึกเร้าใจ ทั้งผ้าเบาะสีแดงกับสีดำรวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง หัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง และคอนโซลหน้าสุดสปอร์ตสีดำ-แดง อย่างไรก็ตาม วีออส จีที มีค่าตัวอยู่ที่ 579,000 บาท และผลิตเพียงแค่ 1,000 คันเท่านั้น
ทั้งหมดนี้คือ รถรุ่นพิเศษ ที่บรรดาค่ายรถต่างใช้เป็นกลยุทธ์ในการเรียกลูกค้าทั้งเพื่อให้เข้ามาชมและกระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภค ส่วนจะมีใครตกเป็นเหยื่อทางการตลาดมากน้อยเพียงไรก็สุดแท้แต่จะคาดเดา