ข่าวในประเทศ - "โทรุ ฮาเซกาวา"เอ็มดีนิสสันคนใหม่ไฟแรง! เปิดใจครั้งแรกหลังรับตำแหน่งในไทย ฟุ้งสภาวะตลาดรถดิ่งเหวแบบนี้ยิ่งชอบ รู้สึกท้าทาย ทำให้มีพลัง โดยประกาศเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรถนิสสันในไทย โตแบบดับเบิ้ลภายใน 3-4 ปี จากปัจจุบันที่ครองแชร์ 5% เผยเตรียมส่งโปรดักต์ใหม่สู่ตลาดหลากโมเดลมากขึ้น ซึ่งทีเด็ดอยู่ที่ อีโคคาร์ เป็นธงนำเพื่อบรรลุเป้าหมาย ยืนยันเปิดตัวแน่ช่วงต้นปีหน้า มีทั้งแบบซีดานและแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตูให้เลือก แต่บทพิสูจน์เริ่มต้นแบบเล็กๆ จะเผยโฉมวันที่ 19 มี.ค.นี้ กับเก๋งหรู นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ ที่ชูว่าโดดเด่นกว่าคู่แข่ง กับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ VQ25DE V6 ขนาด 2500 ซีซี 182 แรงม้า ส่วนปิกอัพย้ำยังสู้ต่อไปไม่ทิ้งแน่นอน
การเปลี่ยนแปลงในค่ายนิสสัน ตั้งแต่การส่งเทียรี่ เวียดิว มากุมบังเหียนแบบฟ้าผ่า เมื่อปลายปี 2550 เพื่อมาคุมโปรเจ็กต์แห่งความหวังนิสสัน นาวารา พร้อมกับปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อผลักดันเก๋งคอมแพ็กต์ นิสสัน ทีด้า ให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น หลังจากแป็กไปอย่างผิดความหมาย และดูเหมือนการปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะสร้างความคึกคักให้กับนิสสันได้พอสมควร แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังปีหนูไฟเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กลับทำให้นิสสันหมดแรงไปดื้อๆ และนี่จะใช่เหตุผลหรือไม่ก็ตาม ปรากฎว่าเมื่อต้นปีนี้นิสสันได้มีการเปลี่ยนตัวบิ๊กบอสคนใหม่อีกครั้ง โดยนับเป็นคนที่ 3 ตั้งแต่นิสสัน มอเตอร์ส เข้ามาทำตลาดในไทยเองเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นจึงน่าจับตาต่อไปนิสสันจะเดินไปทิศทางไหน?... โทรุ ฮาเซกาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด คนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแห่งหมาดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะเป็นผู้ให้คำตอบดีที่สุด และนี่คือการเปิดตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกของเขาด้วย
"นิสสันเป็นรถที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ หรือราคา ที่ดูแล้วไม่แพ้คู่แข่ง แต่ทำไมในเมืองไทยถึงขายไม่ค่อยดี ผมเองก็สงสัยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาและหาวิธีแก้ไข"
นั่นคือข้อสงสัยของฮาเซกาวา และก็เป็นภาระที่หนักหนาสาหัสทีเดียวสำหรับเขา ผู้ซึ่งตลอดช่วงการทำงานที่ผ่านมา นับว่ามีผลงานประสบความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดไต้หวัน หรืออินโดนีเซีย ซึ่งในช่วงที่เขารับหน้าที่กุมบังเหียน สามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตถึง 4 เท่าตัว รวมถึงล่าสุดก่อนย้ายมาดูแลตลาดในไทย ฮาเซกาวาเป็นผู้นำขับเคลื่อนตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง 24 ประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ดูไบ เขาทำให้จากยอดขายปีละ 1.15 แสนคัน พุ่งพรวดเป็น 2.22 แสนคัน ในเวลาที่เขารับตำแหน่งเพียง 3 ปี
ฮาเซกาวาให้ความเห็นถึงประสบการณ์ในอาเซียน (นอกจากประเทศไทย ปัจจุบันฮาเซกาวายังทำหน้าที่ดูแลตลาดภูมิภาคอาเซียนด้วย) โดยเฉพาะที่อินโดนีเซีย เมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพตลาดไทยว่า แม้จำนวนประชากรอินโดนีเซียจะมีถึง 200 ล้านคน แต่ไทยกลับมีกำลังซื้อดีกว่า ทั้งที่มีเพียงแค่กว่า 60 ล้านคัน หรือแม้ด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ความทันสมัย การผลิต และการส่งออก ไทยก็มีศักยภาพที่ดีกว่า
ดังนั้นหวังว่าหลังจากผมรับตำแหน่ง ภายในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของนิสสันในไทย สามารถขยายเป็นตัวเลขดับเบิ้ล โดยปีที่ผ่านมานิสสันมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในไทยประมาณ 5% ซึ่งถ้าดับเบิ้ลก็คงไม่ต่ำกว่า 10%
เมื่อฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องยาก ยิ่งโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว และไทยก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่เรื่องนี้ฮาเซกาวาบอกว่า... ชอบ! ชอบความท้าทาย และรู้ว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีพลังในการทำงาน ทำให้กระตื้อรือร้น ถ้าตลาดไม่ลดลงบางทีก็ไม่สนุก แบบนี้จึงน่าจะสนุกกว่า และยิ่งยากยิ่งดี
อย่างไรก็ตาม หากนิสสันตั้งเป้าจะเติบโตแบบนั้น ในส่วนของโปรดักต์นิสสันคงจะไม่ใช่มีเพียงแค่ 3 โมเดลหลัก อย่างเช่นในปัจจุบันนี้แน่นอน และฮาเซกาวาก็ยอมรับว่า ต่อไปในไทยนิสสันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างเยอะ และก็มีประสิทธิภาพดี เป็นที่ยอมรับของลูกค้าด้วย
วันที่ 19 มีนาคมนี้ เราจะเปิดตัว นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์วี6 ใหม่ ขนาด 2500 ซีซี ที่มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด และคาดว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 3,000 คัน แม้จะดูเล็กน้อย แต่ถือเป็นจุดสำคัญของสยามนิสสันฯ เพราะนี่คือกำลังใจของพนักงาน ถ้าเราทำได้ตามเป้า ต่อไปเราก็จะสามารถทำได้เรื่อยๆ ตรงนี้จะทำให้นิสสันมีความพร้อมทางด้านจิตใจ และความสำเร็จก็ต้องตามมาเช่นกัน
นอกจากนี้ที่กำลังจะเข้ามาอีก คือรถเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ คาดว่าประมาณต้นปีหน้าจะเปิดตัวสู่ตลาดไทย โดยจะมีทั้งแบบซีดาน และแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู ส่วนจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซล และชื่อรุ่นอะไร จะประกาศให้ทราบอีกครั้งเมื่อเราพร้อม
จากคำกล่าวของฮาเซกาวา นั่นแสดงให้เห็นว่านิสสันกำลังมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์นั่ง...ตอนนี้เทรนด์มันเปลี่ยน สังเกตุง่ายๆ ปีที่แล้วตลาดปิกอัพตกลง 40% รถยนต์นั่งเติบโต 20% ตรงนี้ตลาดมันตอบโจทย์อยู่แล้ว ดังนั้นนิสสันจะมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์นั่ง โดยจะโฟกัสไปที่โครงการอีโคคาร์ และเราหวังว่าประเทศไทยจะเป็นต้นแบบให้ตลาดอาเซียนต่อไป
ชัดเจนจากปากของฮาเซกาวา แต่เขาก็ยังยืนยันว่า นิสสันไม่ได้ทิ้งตลาดปิกอัพ ยังให้ความสำคัญเช่นเดิม แม้จะเป็นรองยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า และอีซูซุ นิสสันก็ยังจะสู้ต่อไป
นั่นคือทิศทางของนิสสัน ภายใต้การกุมบังเหียนของเอ็มดีคนใหม่ โทรุ ฮาเซกาวา ส่วนจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่เขาต้องการหรือไม่? ต้องติดตามอย่ากระพริบตาว่า สุดท้ายเขาจะอยู่ยาวหรือโดนเด้งฟ้าผ่าเหมือนกับคนก่อนๆ
แต่สำหรับนิสสัน เทียน่า ใหม่ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งฮาเซกาวาถือเป็นบทพิสูจน์เริ่มต้นเล็กๆ จากข้อมูลที่ "ASTV ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ได้รับมา ในส่วนของรูปลักษณ์หน้าตาไม่ได้แตกต่างไปจากที่ทำตลาดในต่างประเทศเท่าใด นอกจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ VQ25DE ขนาด 2500 ซีซี แบบวี6 DOHC 24 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ให้กำลัง 182 แรงม้า โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ 250XV-V6 ที่มาพร้อมกับซันรูฟ และ 250XV-V6
ส่วนอีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์บล็อก MR20DE ขนาด 2000 ซีซี แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ให้กำลัง 136 แรงม้า มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ 200XL และ 200XE
ด้านอุปกรณ์ต่างๆ ในเทียน่าใหม่ เบาะนั่งหนังแท้ ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง วิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดี 6 แผ่น และ MP3 พร้อมลำโพง 6 ตัว แต่แปลกที่ไม่ใช่เครื่องเล่นดีวีดี เช่นเดียวกับที่เทียน่าใหม่ไม่มีระบบนำทาง หรือเนวิเกเตอร์ เหมือนกับคู่แข่งที่ติดตั้งมาให้ในรุ่นท็อป ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ นับว่าหรูหราและครบครันไม่แพ้คู่แข่งเลย
ทีนี้ก็เหลือเพียงเวลาเปิดตัวเท่านั้น แล้วจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นบทพิสูจน์เล็กๆ อย่างที่ โทรุ ฮาเซกาวากล่าวไว้ จะสำเร็จดังหวังหรือไม่?
การเปลี่ยนแปลงในค่ายนิสสัน ตั้งแต่การส่งเทียรี่ เวียดิว มากุมบังเหียนแบบฟ้าผ่า เมื่อปลายปี 2550 เพื่อมาคุมโปรเจ็กต์แห่งความหวังนิสสัน นาวารา พร้อมกับปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อผลักดันเก๋งคอมแพ็กต์ นิสสัน ทีด้า ให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น หลังจากแป็กไปอย่างผิดความหมาย และดูเหมือนการปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะสร้างความคึกคักให้กับนิสสันได้พอสมควร แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังปีหนูไฟเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กลับทำให้นิสสันหมดแรงไปดื้อๆ และนี่จะใช่เหตุผลหรือไม่ก็ตาม ปรากฎว่าเมื่อต้นปีนี้นิสสันได้มีการเปลี่ยนตัวบิ๊กบอสคนใหม่อีกครั้ง โดยนับเป็นคนที่ 3 ตั้งแต่นิสสัน มอเตอร์ส เข้ามาทำตลาดในไทยเองเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นจึงน่าจับตาต่อไปนิสสันจะเดินไปทิศทางไหน?... โทรุ ฮาเซกาวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด คนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแห่งหมาดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะเป็นผู้ให้คำตอบดีที่สุด และนี่คือการเปิดตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกของเขาด้วย
"นิสสันเป็นรถที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ หรือราคา ที่ดูแล้วไม่แพ้คู่แข่ง แต่ทำไมในเมืองไทยถึงขายไม่ค่อยดี ผมเองก็สงสัยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาและหาวิธีแก้ไข"
นั่นคือข้อสงสัยของฮาเซกาวา และก็เป็นภาระที่หนักหนาสาหัสทีเดียวสำหรับเขา ผู้ซึ่งตลอดช่วงการทำงานที่ผ่านมา นับว่ามีผลงานประสบความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดไต้หวัน หรืออินโดนีเซีย ซึ่งในช่วงที่เขารับหน้าที่กุมบังเหียน สามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตถึง 4 เท่าตัว รวมถึงล่าสุดก่อนย้ายมาดูแลตลาดในไทย ฮาเซกาวาเป็นผู้นำขับเคลื่อนตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลาง 24 ประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ดูไบ เขาทำให้จากยอดขายปีละ 1.15 แสนคัน พุ่งพรวดเป็น 2.22 แสนคัน ในเวลาที่เขารับตำแหน่งเพียง 3 ปี
ฮาเซกาวาให้ความเห็นถึงประสบการณ์ในอาเซียน (นอกจากประเทศไทย ปัจจุบันฮาเซกาวายังทำหน้าที่ดูแลตลาดภูมิภาคอาเซียนด้วย) โดยเฉพาะที่อินโดนีเซีย เมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพตลาดไทยว่า แม้จำนวนประชากรอินโดนีเซียจะมีถึง 200 ล้านคน แต่ไทยกลับมีกำลังซื้อดีกว่า ทั้งที่มีเพียงแค่กว่า 60 ล้านคัน หรือแม้ด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ความทันสมัย การผลิต และการส่งออก ไทยก็มีศักยภาพที่ดีกว่า
ดังนั้นหวังว่าหลังจากผมรับตำแหน่ง ภายในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของนิสสันในไทย สามารถขยายเป็นตัวเลขดับเบิ้ล โดยปีที่ผ่านมานิสสันมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในไทยประมาณ 5% ซึ่งถ้าดับเบิ้ลก็คงไม่ต่ำกว่า 10%
เมื่อฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องยาก ยิ่งโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว และไทยก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่เรื่องนี้ฮาเซกาวาบอกว่า... ชอบ! ชอบความท้าทาย และรู้ว่าเป็นเรื่องยาก แต่ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีพลังในการทำงาน ทำให้กระตื้อรือร้น ถ้าตลาดไม่ลดลงบางทีก็ไม่สนุก แบบนี้จึงน่าจะสนุกกว่า และยิ่งยากยิ่งดี
อย่างไรก็ตาม หากนิสสันตั้งเป้าจะเติบโตแบบนั้น ในส่วนของโปรดักต์นิสสันคงจะไม่ใช่มีเพียงแค่ 3 โมเดลหลัก อย่างเช่นในปัจจุบันนี้แน่นอน และฮาเซกาวาก็ยอมรับว่า ต่อไปในไทยนิสสันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างเยอะ และก็มีประสิทธิภาพดี เป็นที่ยอมรับของลูกค้าด้วย
วันที่ 19 มีนาคมนี้ เราจะเปิดตัว นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์วี6 ใหม่ ขนาด 2500 ซีซี ที่มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด และคาดว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 3,000 คัน แม้จะดูเล็กน้อย แต่ถือเป็นจุดสำคัญของสยามนิสสันฯ เพราะนี่คือกำลังใจของพนักงาน ถ้าเราทำได้ตามเป้า ต่อไปเราก็จะสามารถทำได้เรื่อยๆ ตรงนี้จะทำให้นิสสันมีความพร้อมทางด้านจิตใจ และความสำเร็จก็ต้องตามมาเช่นกัน
นอกจากนี้ที่กำลังจะเข้ามาอีก คือรถเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ คาดว่าประมาณต้นปีหน้าจะเปิดตัวสู่ตลาดไทย โดยจะมีทั้งแบบซีดาน และแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู ส่วนจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซล และชื่อรุ่นอะไร จะประกาศให้ทราบอีกครั้งเมื่อเราพร้อม
จากคำกล่าวของฮาเซกาวา นั่นแสดงให้เห็นว่านิสสันกำลังมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์นั่ง...ตอนนี้เทรนด์มันเปลี่ยน สังเกตุง่ายๆ ปีที่แล้วตลาดปิกอัพตกลง 40% รถยนต์นั่งเติบโต 20% ตรงนี้ตลาดมันตอบโจทย์อยู่แล้ว ดังนั้นนิสสันจะมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์นั่ง โดยจะโฟกัสไปที่โครงการอีโคคาร์ และเราหวังว่าประเทศไทยจะเป็นต้นแบบให้ตลาดอาเซียนต่อไป
ชัดเจนจากปากของฮาเซกาวา แต่เขาก็ยังยืนยันว่า นิสสันไม่ได้ทิ้งตลาดปิกอัพ ยังให้ความสำคัญเช่นเดิม แม้จะเป็นรองยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า และอีซูซุ นิสสันก็ยังจะสู้ต่อไป
นั่นคือทิศทางของนิสสัน ภายใต้การกุมบังเหียนของเอ็มดีคนใหม่ โทรุ ฮาเซกาวา ส่วนจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่เขาต้องการหรือไม่? ต้องติดตามอย่ากระพริบตาว่า สุดท้ายเขาจะอยู่ยาวหรือโดนเด้งฟ้าผ่าเหมือนกับคนก่อนๆ
แต่สำหรับนิสสัน เทียน่า ใหม่ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่งฮาเซกาวาถือเป็นบทพิสูจน์เริ่มต้นเล็กๆ จากข้อมูลที่ "ASTV ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ได้รับมา ในส่วนของรูปลักษณ์หน้าตาไม่ได้แตกต่างไปจากที่ทำตลาดในต่างประเทศเท่าใด นอกจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ VQ25DE ขนาด 2500 ซีซี แบบวี6 DOHC 24 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ให้กำลัง 182 แรงม้า โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ 250XV-V6 ที่มาพร้อมกับซันรูฟ และ 250XV-V6
ส่วนอีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์บล็อก MR20DE ขนาด 2000 ซีซี แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CVTC ให้กำลัง 136 แรงม้า มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ 200XL และ 200XE
ด้านอุปกรณ์ต่างๆ ในเทียน่าใหม่ เบาะนั่งหนังแท้ ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง วิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดี 6 แผ่น และ MP3 พร้อมลำโพง 6 ตัว แต่แปลกที่ไม่ใช่เครื่องเล่นดีวีดี เช่นเดียวกับที่เทียน่าใหม่ไม่มีระบบนำทาง หรือเนวิเกเตอร์ เหมือนกับคู่แข่งที่ติดตั้งมาให้ในรุ่นท็อป ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ นับว่าหรูหราและครบครันไม่แพ้คู่แข่งเลย
ทีนี้ก็เหลือเพียงเวลาเปิดตัวเท่านั้น แล้วจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นบทพิสูจน์เล็กๆ อย่างที่ โทรุ ฮาเซกาวากล่าวไว้ จะสำเร็จดังหวังหรือไม่?
