ซุ่มจับหนุ่มใหญ่ตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่จัดสรรได้ของกลางจำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 5 ล้าน เจ้าตัวรับเจอพิษเศรษฐกิจเลยคิดสั้นงัดบ้านเศรษฐีหาเงินเลี้ยงครอบครัวบางส่วนนำไปลงทุนธุรกิจนากุ้ง
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.กฤตภาส เพ็ญกิตติ รอง ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผกก.สน.ธรรมศาลา และ พ.ต.ท.สุรินทร์ ชาวศรีทอง รอง ผกก.(ปป.) สน.ธรรมศาลา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายเกษมสันต์ ชักชวน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ซอยลาดปลาเค้า 18 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. พร้อมของกลาง นาฬิกายี่ห้อ DKNY แท้ 1 เรือน พระพุทธรูปบูชา 47 องค์ นาฬิกายี่ห้อต่างๆ 51 เรือน พระเครื่องกว่า 1000 องค์ กล้องถ่ายรูป 3 ตัว ธนบัตรเก่า 100 ใบ เหรียญบาทโบราณ ประมาณ 1,000 เหรียญ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง ตั๋วจำนำสร้อยคอ แหวน พระเหลี่ยมทอง และเครื่องเพชร อีก 20 ใบ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ 1 ชุด รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน นาวารา สีบรอนซ์ ทะเบียน ตห-5393 กทม. 1 คัน และรถจักรยานอีก 1 คัน โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือรับของโจร รวมมูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 5,000,000 บาท
พ.ต.อ.กฤตภาส กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการวางแผนจัดกำลังซุ่มโป่งภายในหมู่บ้านจัดสรรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หลังทราบว่ามีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านจัดสรรเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในหมู่บ้านชวนชื่นกรีนวิลล์ ขณะปั่นรถจักรยาน 2 ล้อผ่านมาในลักษณะท่าทางมีพิรุธจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางและอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ ก่อนขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านพักพบของกลางจำนวนมาก จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวน นายเกษมสันต์รับสารภาพว่ามีอาชีพขับรถกระบะตระเวนขายสินค้ามาระยะหนึ่ง พอเศรษฐกิจตกต่ำจึงต้องออกมาหารายได้เลี้ยงครอบครัวด้วยการตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยการพรางตัวให้คล้ายคนงานก่อสร้างหรือคนทำสวน เพื่อไม่ให้ รปภ.ของหมู่บ้านต่างๆ สงสัย หลังจากนั้นก็จะขับรถไปจอดไว้ตามซอยของหมู่บ้าน ก่อนใช้รถจักรยานที่บรรทุกมาด้วยปั่นตระเวนหาบ้านเป้าหมายโดยเน้นบ้านเหยื่อที่ปิดไฟมืด ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาก็จะเอาไปขายและจำนำ เงินที่ได้ทั้งหมดเอามาเลี้ยงครอบครัว และซื้อฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ในตำบลบางเลน อ.กำแพงแสน
มีรายงานว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาหลายครั้งและหลายพื้นที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อไปอีก หากผู้ใดสงสัยว่าอาจเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ยกเค้าทรัพย์สินให้รีบติดต่อขอดูตัว และทรัพย์สินของกลางได้ที่ สน.ธรรมศาลา ทุกวันและเวลาราชการ