ข่าวในประเทศ – ค่ายรถหรู “บีเอ็มดับเบิลยู” ปีนี้เตรียมทีเด็ดปึ้ก ทั้งรถยนต์รุ่นใหม่แนะนำสู่ตลาด 6 โมเดล และไฟแนนซ์ในกลุ่มเปิดนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกลุกลามไทย มั่นใจสามารถรักษายอดขายไว้ได้อย่างมั่นคง และยืนยันไม่ปิดโรงงานประกอบในไทยแน่นอน เผยกำลังหาตลาดใหม่แก้ปัญหากำลังการผลิตที่ลดลง
นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมาแม้จะมีเหตุการณ์หลายอย่างกระทบต่อตลาดรถยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาน้ำมันแพง การเมืองภายในประเทศ และวิกฤตการเงินสหรัฐ แต่บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ปยังประสบความสำเร็จ ยอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ มีอัตราเติบโต 28 และ 18% ตามลำดับ รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้นถึง 14%
“ในปี 2552 นี้ แม้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ก็แตกต่างจากปี 2540 ที่ปัญหาเกิดขึ้นในไทยจนทำให้ไม่มีเงินภายในประเทศ ขณะที่ครั้งนี้คนไทยยังมีเงินอยู่ เพียงแต่ไม่กล้าที่จะนำออกมาใช้ เราจึงจำเป็นต้องเข้าไปหาผู้บริโภค นำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ตรงนี้จะทำให้บีเอ็มดับเบิลยูสามารถเติบโตอย่างมั่นคง หรือรักษายอดขายเท่ากับที่ผ่านมาไว้ได้”
สำหรับสิ่งที่บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ปจะดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ มีด้วยกัน 2 ส่วนสำคัญ คือ การขยายศูนย์บริการและตอบสนองการบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ และมีสินค้าแนะนำสู่ตลาดต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากรถยนต์รุ่นหลักๆ ในปัจจุบัน ที่จะเพิ่มอุปกรณ์หรือรายละเอียดมากขึ้น ยังจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ กับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Efficient Dynamic โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล
นายคอร์ดิสกล่าวว่า โดยรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวรถใหม่ถึง 6 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่, ซีรี่ส์ 3 ซีดานใหม่, Z4 โรดสเตอร์ และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 คูเป้ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 14 กุมภาพันธ์นี้ ในส่วนรถยนต์มินิจะมีการเปิดตัว มินิ คอนเวิร์ททิเบิล และนำเข้ารถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู HP2 สปอร์ต เข้ามาจำหน่ายภายในปีนี้
“การที่ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้ออยู่ แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ไม่กล้าที่จะใช้จ่ายออกมา ตรงนี้เราจะต้องเข้าไปนำเสนอถึงรายละเอียด หรือเจาะลึกเข้าไปตลาดเฉพาะมากขึ้น เพื่อตองสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เหตุนี้บีเอ็มดับเบิลยูจึงต้องเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าหลากหลายมากขึ้น”
ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับโรงงานประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู จ.ระยอง ที่ปัจจุบันกำลังการผลิตลดลงมาก จนอาจจะหยุดไลน์การผลิตชั่วคราวนั้น นายคอร์ดิสยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงาน หรือปิดโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูในเมืองไทยแน่นอน แม้กำลังการผลิตจะลดลง แต่จะทำการปรับไลน์การผลิตให้สอดคล้องตลาด และขณะนี้บีเอ็มดับเบิลยูกำลังวางแผนหาตลาดใหม่ เพื่อใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ให้ได้เต็มที่ แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ได้
นายอูเว่ เสต็ดเลอร์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า แม้จะได้รับแรงกดดันจากสภาพตลาดการเงินสูงมาก แต่ในปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูฯ ยังสามารถเติบโตและทำผลกำไรได้ เนื่องจากได้มีการเปิดบริการใหม่ๆ ทั้งโปรแกรมสินเชื่อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ รวมถึงเปิดบริการใหม่ในส่วนของธุรกิจประกันภัย ทำให้พอร์ตโดยรวมเติบโตถึง 15%
“ในปีนี้เราจะพยายามรักษาการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และต่อยอดธุรกิจเดิมให้ครบวงจรมากขึ้น รวมถึงเพิ่มนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อครอบคลุมและครบวงจรสำหรับเจ้าของรถยนต์ เช่น การนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ประกันภัยรถยนต์ และประกันวงเงินสินเชื่อ รวมเข้าด้วยกันเป็นแพ็คเก็จตามความต้องการของลูกค้า เป็นต้น”นายเสต็ดเลอร์กล่าวตบท้าย