ข่าวในประเทศ-ยักษ์ธุรกิจ “เครือซี.พี.” ถอยทำตลาดรถยนต์จากจีน “เชอรี่” อ้างไม่ต้องการเป็นเพียงแค่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเดียว จึงปล่อยให้ “วิทิต ลุนุตพงษ์” อดีตผู้บริหารกลุ่มยนตรกิจทำตลาดฝ่ายเดียว แต่ยังหวังชุบมือเปิบหากตลาดสดใส ขอมีเอี่ยวลงทุนผลิตในอนาคตด้วย
นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซี.พี. (CP) ในฐานะประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมทั่วไปของซี.พี. เปิดเผยว่า จากที่เครือซี.พี.กำลังศึกษาแผนการทำตลาดรถยนต์ยี่ห้อเชอรี่จากประเทศจีนในไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในต้นปี 2551 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้เครือซี.พี.ต้องเปลี่ยนแปลงแผนงาน โดยจะยังไม่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเชอรี่ในช่วงระยะเวลานี้
“เนื่องจากซี.พี.ไม่ต้องการเป็นแค่ตัวแทนจำหน่าย เราต้องการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การทำตลาดไปจนถึงผลิต แต่เมื่อพิจารณาแล้วคงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เลยให้ทางฝ่ายคุณวิทิต ลีนุตพงษ์ อดีตผู้บริหารกลุ่มยนตรกิจ และเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน ซึ่งเคยตกลงจะร่วมดำเนินงานกัน เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เชอรี่ในประเทศไทยแต่ฝ่ายเดียว โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสสองของปี 2552 ส่วนรายละเอียดคุณวิทิตจะเป็นผู้เปิดเผยเอง”
ทั้งนี้ตามแผนเดิมจะร่วมกัน 3 ฝ่าย ได้แก่ เครือซี.พี., บริษัทแม่เชอรี่ประเทศจีน และคุณวิทิต ลีนุตพงษ์ เพื่อทำตลาดรถยนต์เชอรี่แบบครบวงจร ทั้งการจำหน่ายและผลิต แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มพร้อมๆ กัน เพราะเชอรี่ถึงจะเป็นแบรนด์ระดับต้นๆ ของจีน แต่ในตลาดโลกรถยนต์เชอรี่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน การรับรู้ของผู้บริโภคทั่วโลกยังไม่สูงนัก รวมถึงตลาดในประเทศไทยด้วย เหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีสินค้ามานำร่องทำตลาด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ไปก่อน
นายธนากรกล่าวว่า จากการศึกษาปริมาณที่เหมาะสมในการลงทุน เพื่อขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์เชอรี่ในไทย จะต้องมีปริมาณการผลิตไม่ต่ำกว่า 5,000 คันต่อปี ซึ่งเบื้องต้นคงเป็นเรื่องยาก ตรงนี้จึงไม่สอดคล้องกับนโยบายของเครือซี.พี. ที่ต้องการทำแบบครบวงจร ทำให้ตัดสินใจชะลอร่วมทำตลาดรถยนต์เชอรี่ออกไป และเมื่อตลาดในประเทศมีปริมาณที่เหมาะสม เครือซี.พี.จึงจะเข้าไปร่วมลงทุนในการตั้งโรงงานประกอบ
“เครือซี.พี.มีสัมพันธ์ที่ดีกับทางบริษัทเชอรี่ประเทศจีน จึงมีศักยภาพในการดึงมาร่วมลงทุนตั้งโรงงานประกอบในไทย แต่นั่นเป็นสิ่งพูดกันไว้เท่านั้น ไม่ได้มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเมื่อถึงเวลาทางคุณวิทิตจะขึ้นไลน์ประกอบเอง โดยไม่มีเครือซี.พี.ร่วมลงทุนด้วยก็ได้” นายธนากรกล่าวตบท้าย