ข่าวต่างประเทศ - จีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส และไครสเลอร์ ได้รับของขวัญวันคริสมาสต์จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชจัดการอนุมัติเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 17,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 609,000 ล้านบาท ในขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์สเมินข้อเสนอในครั้งนี้ เพราะสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังดีอยู่ และปล่อยข้อเสนอนี้ให้กับทางคู่ปรับร่วมชาติที่อยู่ในสภาพที่วิกฤตกว่ารับความช่วยเหลือไปก่อน
เว็บไซต์ดีทรอยต์นิวส์รายงานว่า เงินกู้ทั้งหมดแบ่งมาจากงบประมาณกอบกู้วิกฤติการเงิน หรือ Troubled Asset Relief Program จำนวน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 24.5 ล้านล้านบาทเพื่อเข้าช่วยเหลือบริษัทของสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่บริษัททั้งสองแห่งจะต้องเร่งปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ ภายในวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า เพื่อให้บริษัทมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ หากบริษัททั้งสองแห่งไม่สามารถปฏิบัติได้ เงินกู้ทั้งหมดจะถูกเรียกเก็บคืนรัฐบาล และบริษัททั้งสองแห่งอาจจะถูกปล่อยให้ล้มละลาย
การให้เงินกู้ช่วยเหลือนี้แบ่งออกเป็น 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 329,000 ล้านบาทสำหรับจีเอ็มในช่วงเดือนมกราคม 2009 และอีก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 140,000 ล้านบาทสำหรับในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ทางไครสเลอร์จะได้รับเงินจำนวน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 140,000 ล้านบาทสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้
ขณะที่ทางบาแร็ค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาออกปากเตือนบริษัทรถยนต์อเมริกันให้ใช้โอกาสนี้ในการจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และอย่าปล่อยให้เกิดความสูญเสียขึ้นมาอีก
‘ชาวอเมริกันเริ่มจะหมดความอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว’ โอบามากล่าว
ทางด้านฟอร์ด มอเตอร์สแม้ว่าจะประสบปัญหาทางด้านการเงินเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าสภาพที่เกิดขึ้นกับแบรนด์หมายเลข 2 ของสหรัฐอเมริกาจะน้อยกว่าเพื่อนร่วมชาติ และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง โดยเชื่อว่าการดำเนินงานภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของฟอร์ด ทำให้สภาพบริษัทไม่ได้อยู่ในสภาพที่วิกฤตมากนัก และระบบเครือข่ายในการสนับสนุนทางด้านชิ้นส่วนยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
‘เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเรายังมีงานอีกเยอะที่จะต้องทำ’อลัน มูลัลลี่ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์สกล่าว’ผมมีความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ เพราะว่าในตอนนี้แผนการของเราไปได้ดีและกำลังผลักดันให้ฟอร์ดเดินไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง’
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ฟอร์ดขาดทุนไปจำนวนทั้งสิ้น 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 300,000 ล้านบาท แต่ด้วยเงินออมในรูปแบบเงินสดและเครดิตจำนวน 29,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.03 ล้านล้านบาท ทำให้บริษัทยังสามารถประคองกิจการให้เดินหน้าต่อไป และมากพอสำหรับการทำงานตลอดช่วงปี 2009 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในสภาพแย่ลงไปกว่านี้ก็ตาม โดยในปีหน้า ฟอร์ดจะลดค่าใช้จ่ายโดยเน้นไปที่เงินเดือนของพนักงานลงอีก 10% และกำลังเจรจากับทางสหภาพคนงาน หรือ UAW ในการหาทางลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก
เว็บไซต์ดีทรอยต์นิวส์รายงานว่า เงินกู้ทั้งหมดแบ่งมาจากงบประมาณกอบกู้วิกฤติการเงิน หรือ Troubled Asset Relief Program จำนวน 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 24.5 ล้านล้านบาทเพื่อเข้าช่วยเหลือบริษัทของสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่บริษัททั้งสองแห่งจะต้องเร่งปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ ภายในวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า เพื่อให้บริษัทมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ หากบริษัททั้งสองแห่งไม่สามารถปฏิบัติได้ เงินกู้ทั้งหมดจะถูกเรียกเก็บคืนรัฐบาล และบริษัททั้งสองแห่งอาจจะถูกปล่อยให้ล้มละลาย
การให้เงินกู้ช่วยเหลือนี้แบ่งออกเป็น 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 329,000 ล้านบาทสำหรับจีเอ็มในช่วงเดือนมกราคม 2009 และอีก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 140,000 ล้านบาทสำหรับในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ทางไครสเลอร์จะได้รับเงินจำนวน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 140,000 ล้านบาทสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้
ขณะที่ทางบาแร็ค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาออกปากเตือนบริษัทรถยนต์อเมริกันให้ใช้โอกาสนี้ในการจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และอย่าปล่อยให้เกิดความสูญเสียขึ้นมาอีก
‘ชาวอเมริกันเริ่มจะหมดความอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว’ โอบามากล่าว
ทางด้านฟอร์ด มอเตอร์สแม้ว่าจะประสบปัญหาทางด้านการเงินเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าสภาพที่เกิดขึ้นกับแบรนด์หมายเลข 2 ของสหรัฐอเมริกาจะน้อยกว่าเพื่อนร่วมชาติ และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง โดยเชื่อว่าการดำเนินงานภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของฟอร์ด ทำให้สภาพบริษัทไม่ได้อยู่ในสภาพที่วิกฤตมากนัก และระบบเครือข่ายในการสนับสนุนทางด้านชิ้นส่วนยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
‘เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเรายังมีงานอีกเยอะที่จะต้องทำ’อลัน มูลัลลี่ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์สกล่าว’ผมมีความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ เพราะว่าในตอนนี้แผนการของเราไปได้ดีและกำลังผลักดันให้ฟอร์ดเดินไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง’
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ฟอร์ดขาดทุนไปจำนวนทั้งสิ้น 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 300,000 ล้านบาท แต่ด้วยเงินออมในรูปแบบเงินสดและเครดิตจำนวน 29,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.03 ล้านล้านบาท ทำให้บริษัทยังสามารถประคองกิจการให้เดินหน้าต่อไป และมากพอสำหรับการทำงานตลอดช่วงปี 2009 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในสภาพแย่ลงไปกว่านี้ก็ตาม โดยในปีหน้า ฟอร์ดจะลดค่าใช้จ่ายโดยเน้นไปที่เงินเดือนของพนักงานลงอีก 10% และกำลังเจรจากับทางสหภาพคนงาน หรือ UAW ในการหาทางลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก
