หลังจาก บริษัท โกบอล อิเลคทริค มอเตอร์คาร์ เอเชีย จำกัด หรือที่เราคุ้นหูในชื่อ เจมคาร์(GEMCAR) นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศอเมริกาเข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยและได้รับการตอบรับในระดับหนึ่ง ล่าสุดมีแผนรุกตลาดครั้งใหม่ ด้วย “เจม อีเลคทริค คาร์”
ซึ่ง เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โกบอล อิเลคทริค มอเตอร์คาร์ เอเชีย จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์ ‘เจม อิเลคทริค คาร์’ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความเป็นมาและอนาคตการทำตลาดของรถรุ่นนี้ไว้ดังนี้
ที่มาของ เจม อีเลคทริค คาร์?
รถรุ่นดังกล่าวผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของเกาหลี ซึ่งทางบริษัทโกบอล อิเลคทริค มอเตอร์คาร์ เอเชีย จำกัด นำเข้ามาจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ในชื่อ เจม อีเลคทริค คาร์ (GEM Electric Car)
เนื่องจากมองว่าชื่อเสียงในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็น รถกอล์ฟ รถโดยสาร รถพ่วง รถพยาบาล รถตำรวจ ภายใต้ชื่อ GEM Car นั้นเป็นชื่อที่ติดตลาดในไทยอยู่แล้ว การทำตลาดภายใต้แบรนด์ดังกล่าวจึงน่าจะดีกว่าการสร้างแบรนด์ใหม่หรือใช้แบรนด์ที่ออกจำหน่ายในเกาหลี
จุดเด่นของเจม อีเลคทริค คาร์?
เจม อิเลคทริค คาร์ ผลิตออกมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องพลังงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน เพราะราคาน้ำมันและก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นจึงมีการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าออกมาทดแทน ซึ่งรถคันนี้มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการขับเคลื่อนประมาณกิโลเมตรละ 0.21 บาทเท่านั้น
อีกทั้งยังเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาให้วิ่งได้ถึง 70 กิโลเมตรต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง จึงเหมาะกับชีวิตคนเมือง ขับไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงาน หรือออกไปช็อปปิ้ง ไปเล่นกีฬา ซึ่งส่วนใหญ่ระยะทางไปกลับก็ไม่เกิน 40-50 กิโลเมตร คือถ้าขับไปกลับบ้านกับที่ทำงานค่าไฟต่อวันไม่ถึง 15 บาทด้วยซ้ำ ราคาขายก็พอๆกับรถยนต์ทั่วไปคืออยู่ที่คันละประมาณ 500,000 บาท แต่ถ้าพูดถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาแล้วน้อยกว่ามาก
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว เจม อิเลคทริค คาร์ ยังมีข้อดีในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ก่อให้เกิดเสียงและควันเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
รถคันนี้มีเสียงแค่ตอนสตาร์ทเครื่องเท่านั้น แต่พอเริ่มวิ่งจะไม่มีเสียงเลย เวลาวิ่งเงียบมาก ส่วนเรื่องควัน เรื่องคราบน้ำมันเครื่องก็ไม่มีเพราะเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ผมว่าในอนาคตถ้าเมืองไทยมีการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้กันเยอะๆเนี่ยปัญหามลภาวะในท้องถนนก็จะหมดไป
หลักการทำงานของรถ?
เจม อิเลคทริค คาร์ เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งได้จากการชาร์จไฟเข้าไปยังก้อนแบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟเท่ากับ 15 บาทต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ระยะเวลาชาร์จประมาณ 7 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 70 กิโลเมตร หรือเฉลี่ยเท่ากับ 0.21 บาทต่อกิโลเมตร
รถคันนี้สามารถชาร์จไฟจากที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้ คือกำลังไฟปกติที่เราใช้กันอยู่นี่แหล่ะ จริงๆแล้วระยะเวลาในการชาร์จไม่จำเป็นต้องถึง 7 ชั่วโมงก็ได้ คือถ้าต้องการชาร์จไฟเต็มเลยก็ 7 ชั่วโมง แต่ถ้ามีเวลาน้อยแค่ 3 ชั่วโมงก็พอ เพราะไฟฟ้าร้อยละ 80 สามารถเข้าสู่ระบบได้ภายใน 3 ชั่วโมงแรก การดูแลรักษาก็ง่ายไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จะมีแค่การเปลี่ยนแบตเตอรี่ซึ่งจะเปลี่ยนทุก 4-5 ปี ประมาณครั้งละ 30,000 บาท
ส่วนกรณีที่รถมีปัญหาทางบริษัทเราก็จะส่งช่างไปบริการให้ถึงที่ โดยเรามีศูนย์บริการอยู่แล้วเพราะเราเป็นบริษัทที่นำเข้าและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าแบบต่างๆมานานถึง 6 ปี มีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ
แผนการทำตลาด?
ปีแรกเราจะวางขายแค่ 200 คัน เพื่อดูตลาดก่อน ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะไปได้ดี เพราะถ้าดูแนวโน้มความต้องการของตลาดค่อนข้างสูง แล้วรถยนต์ค่ายรถต่างๆเขาพยายามพัฒนารถพลังงานไฟฟ้ามาหลายปีแล้ว อย่างนิสสัน หรือฮอนด้า เขาก็ทดลองผลิตมา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ยังไม่วางตลาด ส่วนของบริษัทเราเป็นรถยนต์นำเข้าจากเกาหลีซึ่งคุณภาพก็ใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นแต่เราสามารถวางตลาดได้ก่อน คือตามแผนงานเราจะออกขายในต้นปี 2552
สำหรับแบรนด์ เจม อีเลคทริค คาร์ นั้นเป็นแบรนด์ของเราเอง คือเดิมเป็นตัวแทนจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า เช่น รถกอล์ฟ รถโดยสาร รถพ่วง ซึ่งใช้ตามโรมแรม โรงพยาบาล และสถานศึกษาทั่วไปจากบริษัทไครสเลอร์ แต่เรามาขายในชื่อเจมคาร์ จนกระทั่งเจมคาร์เป็นชื่อที่ติดตลาดในวงการรถพลังงานไฟฟ้าแล้ว
เมื่อเราจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาขายก็เลยคิดว่าใช้แบรนด์เดียวกันน่าจะดีกว่าเพราะลูกค้ารู้จักอยู่แล้ว ที่ผ่านมาคอนเซ็ปของเราก็ชัดเจนว่าเราเป็นผู้จำหน่ายรถที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และคอนเซ็ปนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป
ซึ่ง เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โกบอล อิเลคทริค มอเตอร์คาร์ เอเชีย จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์ ‘เจม อิเลคทริค คาร์’ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความเป็นมาและอนาคตการทำตลาดของรถรุ่นนี้ไว้ดังนี้
ที่มาของ เจม อีเลคทริค คาร์?
รถรุ่นดังกล่าวผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของเกาหลี ซึ่งทางบริษัทโกบอล อิเลคทริค มอเตอร์คาร์ เอเชีย จำกัด นำเข้ามาจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ในชื่อ เจม อีเลคทริค คาร์ (GEM Electric Car)
เนื่องจากมองว่าชื่อเสียงในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็น รถกอล์ฟ รถโดยสาร รถพ่วง รถพยาบาล รถตำรวจ ภายใต้ชื่อ GEM Car นั้นเป็นชื่อที่ติดตลาดในไทยอยู่แล้ว การทำตลาดภายใต้แบรนด์ดังกล่าวจึงน่าจะดีกว่าการสร้างแบรนด์ใหม่หรือใช้แบรนด์ที่ออกจำหน่ายในเกาหลี
จุดเด่นของเจม อีเลคทริค คาร์?
เจม อิเลคทริค คาร์ ผลิตออกมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องพลังงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน เพราะราคาน้ำมันและก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นจึงมีการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าออกมาทดแทน ซึ่งรถคันนี้มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการขับเคลื่อนประมาณกิโลเมตรละ 0.21 บาทเท่านั้น
อีกทั้งยังเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาให้วิ่งได้ถึง 70 กิโลเมตรต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง จึงเหมาะกับชีวิตคนเมือง ขับไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงาน หรือออกไปช็อปปิ้ง ไปเล่นกีฬา ซึ่งส่วนใหญ่ระยะทางไปกลับก็ไม่เกิน 40-50 กิโลเมตร คือถ้าขับไปกลับบ้านกับที่ทำงานค่าไฟต่อวันไม่ถึง 15 บาทด้วยซ้ำ ราคาขายก็พอๆกับรถยนต์ทั่วไปคืออยู่ที่คันละประมาณ 500,000 บาท แต่ถ้าพูดถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาแล้วน้อยกว่ามาก
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว เจม อิเลคทริค คาร์ ยังมีข้อดีในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ก่อให้เกิดเสียงและควันเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
รถคันนี้มีเสียงแค่ตอนสตาร์ทเครื่องเท่านั้น แต่พอเริ่มวิ่งจะไม่มีเสียงเลย เวลาวิ่งเงียบมาก ส่วนเรื่องควัน เรื่องคราบน้ำมันเครื่องก็ไม่มีเพราะเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ผมว่าในอนาคตถ้าเมืองไทยมีการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้กันเยอะๆเนี่ยปัญหามลภาวะในท้องถนนก็จะหมดไป
หลักการทำงานของรถ?
เจม อิเลคทริค คาร์ เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งได้จากการชาร์จไฟเข้าไปยังก้อนแบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟเท่ากับ 15 บาทต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ระยะเวลาชาร์จประมาณ 7 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 70 กิโลเมตร หรือเฉลี่ยเท่ากับ 0.21 บาทต่อกิโลเมตร
รถคันนี้สามารถชาร์จไฟจากที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้ คือกำลังไฟปกติที่เราใช้กันอยู่นี่แหล่ะ จริงๆแล้วระยะเวลาในการชาร์จไม่จำเป็นต้องถึง 7 ชั่วโมงก็ได้ คือถ้าต้องการชาร์จไฟเต็มเลยก็ 7 ชั่วโมง แต่ถ้ามีเวลาน้อยแค่ 3 ชั่วโมงก็พอ เพราะไฟฟ้าร้อยละ 80 สามารถเข้าสู่ระบบได้ภายใน 3 ชั่วโมงแรก การดูแลรักษาก็ง่ายไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จะมีแค่การเปลี่ยนแบตเตอรี่ซึ่งจะเปลี่ยนทุก 4-5 ปี ประมาณครั้งละ 30,000 บาท
ส่วนกรณีที่รถมีปัญหาทางบริษัทเราก็จะส่งช่างไปบริการให้ถึงที่ โดยเรามีศูนย์บริการอยู่แล้วเพราะเราเป็นบริษัทที่นำเข้าและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าแบบต่างๆมานานถึง 6 ปี มีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ
แผนการทำตลาด?
ปีแรกเราจะวางขายแค่ 200 คัน เพื่อดูตลาดก่อน ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะไปได้ดี เพราะถ้าดูแนวโน้มความต้องการของตลาดค่อนข้างสูง แล้วรถยนต์ค่ายรถต่างๆเขาพยายามพัฒนารถพลังงานไฟฟ้ามาหลายปีแล้ว อย่างนิสสัน หรือฮอนด้า เขาก็ทดลองผลิตมา 5-6 ปีแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ยังไม่วางตลาด ส่วนของบริษัทเราเป็นรถยนต์นำเข้าจากเกาหลีซึ่งคุณภาพก็ใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นแต่เราสามารถวางตลาดได้ก่อน คือตามแผนงานเราจะออกขายในต้นปี 2552
สำหรับแบรนด์ เจม อีเลคทริค คาร์ นั้นเป็นแบรนด์ของเราเอง คือเดิมเป็นตัวแทนจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า เช่น รถกอล์ฟ รถโดยสาร รถพ่วง ซึ่งใช้ตามโรมแรม โรงพยาบาล และสถานศึกษาทั่วไปจากบริษัทไครสเลอร์ แต่เรามาขายในชื่อเจมคาร์ จนกระทั่งเจมคาร์เป็นชื่อที่ติดตลาดในวงการรถพลังงานไฟฟ้าแล้ว
เมื่อเราจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาขายก็เลยคิดว่าใช้แบรนด์เดียวกันน่าจะดีกว่าเพราะลูกค้ารู้จักอยู่แล้ว ที่ผ่านมาคอนเซ็ปของเราก็ชัดเจนว่าเราเป็นผู้จำหน่ายรถที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และคอนเซ็ปนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป