ข่าวในประเทศ - ครึ่งทางมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 คนแห่เข้าชมกว่า 4.6 แสนคน ยอดจองรถใหม่ 4,778 คันตกลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โตโยต้ายังครองแชมป์1,555 คัน เจ้าภาพ"สื่อสากล"ทำใจพร้อมลดเป้ายอดจองทั้งงานลง1.5 หมื่นคัน ลงมาเหลือ 1.3 หมื่นคัน หรือคิดเป็นอัตราหดตัว 13.3% ถือเป็นการปรับลดเป้าครั้งแรกในรอบ 10 ปี ชี้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมั่นใจถึงวันสุดท้ายเงินสะพัดในงาน 1.4 หมื่นล้านบาทแน่นอน
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ในปีนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงแรกอาจจะดูค่อนข้างบางตาในวันธรรมดา แต่ในช่วง 5 วันที่ผ่านมานั้น ผู้เข้าชมงานแล้ว 4.6 แสนคน หดตัวอยู่ประมาณ 16.8% ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากการปิดถนนย่านหลักสี่-แจ้งวัฒนะในวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เข้าชมงานช่วงแรกหดตัวไปกว่า 17.3% แต่หากดูในช่วงเวลาของการจัดงานที่เหลือ ที่ยังมีวันหยุดอีก 4 วัน ก็น่าจะทำให้ตัวเลขผู้เข้าชมหดตัวไม่เกิน 15% ในปีนี้คน
“แม้ว่าในช่วงวันแรกๆ ของงานคนจะเข้ามาชมงานน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในวันที่ 5และ 10 ธันวาคมซึ่งเป็นวันหยุดทำให้เชื่อว่าในช่วงวันที่เหลือ น่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนวงเงินหมุนเวียนภายในงานน่าจะลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนแรก 1.7 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่จำหน่ายในงานลดลงจาก 1 ล้านบาท/คัน เหลือ 8.8-9 แสนบาท/คัน เนื่องจากรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาจำหน่ายเฉลี่ยในปีนี้ ลดลงจากปีที่ผ่านมา”
นายขวัญชัยกล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าจากตัวเลขยอดขายรถยนต์ภายในงานตกลงนั้น เกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง รวมถึงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางด้านการเมืองยังส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภค แต่ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของอุปกรณ์การตกแต่งและสินค้าอื่นๆที่วางเป้าไว้ว่าจะมียอดเงินสะพัด 2,000 ล้านบาทนั้น ทางผู้จัดงานยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าถึงวัดสุดท้ายของงานคือวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ยอดเงินสะพัดภายในงานจะสูงถึง 14,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ในส่วนค่ายรถที่ทำยอดจองได้สูงสุดคือโตโยต้า แม้ว่าจะไม่มีรถโมเดลใหม่มาจัดแสดงก็ตาม มีเพียงปิกอัไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นสมาร์ทแค็บและรถเอ็มีวีหรูโตโยต้า อัลพาร์ดที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน ทำยอดจองรวมไปได้ 1,555 คัน คิดเป็นส่วนครองตลาด 32.5% อันดับ2 ค่ายฮอนด้า ทำได้ 866 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 18% อันดับ3 อีซูซุ ทำได้ 728 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 15% อันดับ4 เชฟโรเลต ทำได้ 321 คัน ครองส่วนแบ่ง 6.7% และอันดับ5 ค่ายโปรตอน จากมาเลเซีย ทำยอดจองได้ 286 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 6% ในส่วนค่ายอื่นๆ ก็มียอดจองตามสมควร ได้แก่ นิสสัน 261 คัน มาสด้า 198 คัน มิตซูบิชิ 183 คัน ค่ายรถที่มียอดจองครึ่งทางของงานไม่ถึงร้อยคัน ได้แก่ ฟอร์ด 85 คัน ฮุนได 48 คัน ด้านรถพรีเมียมอย่างแลนด์ โรเวอร์ที่เปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายใหม่ทำได้ 8 คัน ออดี้และซีตรองทำได้เท่ากันที่ 6 คัน
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ในปีนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงแรกอาจจะดูค่อนข้างบางตาในวันธรรมดา แต่ในช่วง 5 วันที่ผ่านมานั้น ผู้เข้าชมงานแล้ว 4.6 แสนคน หดตัวอยู่ประมาณ 16.8% ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากการปิดถนนย่านหลักสี่-แจ้งวัฒนะในวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เข้าชมงานช่วงแรกหดตัวไปกว่า 17.3% แต่หากดูในช่วงเวลาของการจัดงานที่เหลือ ที่ยังมีวันหยุดอีก 4 วัน ก็น่าจะทำให้ตัวเลขผู้เข้าชมหดตัวไม่เกิน 15% ในปีนี้คน
“แม้ว่าในช่วงวันแรกๆ ของงานคนจะเข้ามาชมงานน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในวันที่ 5และ 10 ธันวาคมซึ่งเป็นวันหยุดทำให้เชื่อว่าในช่วงวันที่เหลือ น่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนวงเงินหมุนเวียนภายในงานน่าจะลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนแรก 1.7 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่จำหน่ายในงานลดลงจาก 1 ล้านบาท/คัน เหลือ 8.8-9 แสนบาท/คัน เนื่องจากรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาจำหน่ายเฉลี่ยในปีนี้ ลดลงจากปีที่ผ่านมา”
นายขวัญชัยกล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าจากตัวเลขยอดขายรถยนต์ภายในงานตกลงนั้น เกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง รวมถึงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางด้านการเมืองยังส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภค แต่ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของอุปกรณ์การตกแต่งและสินค้าอื่นๆที่วางเป้าไว้ว่าจะมียอดเงินสะพัด 2,000 ล้านบาทนั้น ทางผู้จัดงานยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าถึงวัดสุดท้ายของงานคือวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ยอดเงินสะพัดภายในงานจะสูงถึง 14,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ในส่วนค่ายรถที่ทำยอดจองได้สูงสุดคือโตโยต้า แม้ว่าจะไม่มีรถโมเดลใหม่มาจัดแสดงก็ตาม มีเพียงปิกอัไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นสมาร์ทแค็บและรถเอ็มีวีหรูโตโยต้า อัลพาร์ดที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน ทำยอดจองรวมไปได้ 1,555 คัน คิดเป็นส่วนครองตลาด 32.5% อันดับ2 ค่ายฮอนด้า ทำได้ 866 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 18% อันดับ3 อีซูซุ ทำได้ 728 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 15% อันดับ4 เชฟโรเลต ทำได้ 321 คัน ครองส่วนแบ่ง 6.7% และอันดับ5 ค่ายโปรตอน จากมาเลเซีย ทำยอดจองได้ 286 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 6% ในส่วนค่ายอื่นๆ ก็มียอดจองตามสมควร ได้แก่ นิสสัน 261 คัน มาสด้า 198 คัน มิตซูบิชิ 183 คัน ค่ายรถที่มียอดจองครึ่งทางของงานไม่ถึงร้อยคัน ได้แก่ ฟอร์ด 85 คัน ฮุนได 48 คัน ด้านรถพรีเมียมอย่างแลนด์ โรเวอร์ที่เปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายใหม่ทำได้ 8 คัน ออดี้และซีตรองทำได้เท่ากันที่ 6 คัน