ข่าวต่างประเทศ - วิกฤตของจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส ลุกลามถึงกระเป๋าเงินของไทเกอร์ วู้ดส์ นักกอล์ฟชื่อดังของโลกแล้ว เมื่อทางจีเอ็มประกาศลดรายจ่ายต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงการสนับสนุนกอล์ฟรายการต่างๆ และการว่าจ้างวู้ดส์ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์รถยนต์ในเครืออย่างบิวอิก
วู้ดส์และจีเอ็มมีสัมพันธ์ที่ดีในการว่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์มานานถึง 9 ปีเต็ม แต่จากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และปัญหาทางด้านการเงินที่รุมเร้าจีเอ็มอยู่ในตอนนี้ ทำให้บริษัทประกาศลดรายจ่ายต่างๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงการถอนตัวจากการว่าจ้างวู้ดส์เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบิวอิก
จากการเปิดเผยของนิตยสาร Forbes เปิดเผยว่าวู้ดส์และจีเอ็มเริ่มเซ็นสัญญาระยะเวลา 5 ปีกันในปี1999 และมีการต่อสัญญาออกไปอีก 5 ปีในปี 2004 ด้วยวงเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรืออ 1,400 ล้านบาท และสัญญาฉบับนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมปีหน้า แต่ทางจีเอ็มก็ขอยกเลิกก่อนด้วยความเห็นชอบร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะในขณะที่จีเอ็มต้องการลดรายจ่าย ตัววู้ดส์เองก็บอกว่าต้องการเวลาให้กับครอบครัว และทายาทคนที่ 2 ของเขาก็จะลืมตาดูโลกในเร็วๆ นี้แล้ว
ไม่ใช่แค่วู้ดส์เท่านั้น การตัดรายจ่ายของจีเอ็มในครั้งนี้ยังรวมถึงการเป็นสปอนเซอร์ในกีฬารายการต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงกอล์ฟ และการประกาศเตรียมลอยแพกิจการของบางแบรนด์ในเครือออกไป เช่น พอนติแอค, ซาบ, ฮัมเมอร์ ขณะที่โรงงานผลิตรถยนต์ของ GMDAT ในเกาหลีใต้ก็มีการประกาศยืดระยะเวลาในการปิดไลน์ผลิตจากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 1 ธันวาคมไปเป็น 4 มกราคมปีหน้า
นอกจากนั้นยังมีการวิเคราะห์กันว่า การที่จีเอ็มเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของวู้ดส์นั้นถือเป็นสัญญาณที่น่ากลัวที่บรรดานักกีฬาชื่อดังต่างๆ ในสหรัฐออเมริกาที่ได้รับเงินสปอนเซอร์หลักจากบริษัทรถยนต์และธุรกิจอื่นๆ ควรจะระมัดระวังตัวกันให้ดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวเป็นวงกว้างสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ แล้ว
วู้ดส์และจีเอ็มมีสัมพันธ์ที่ดีในการว่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์มานานถึง 9 ปีเต็ม แต่จากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และปัญหาทางด้านการเงินที่รุมเร้าจีเอ็มอยู่ในตอนนี้ ทำให้บริษัทประกาศลดรายจ่ายต่างๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงการถอนตัวจากการว่าจ้างวู้ดส์เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบิวอิก
จากการเปิดเผยของนิตยสาร Forbes เปิดเผยว่าวู้ดส์และจีเอ็มเริ่มเซ็นสัญญาระยะเวลา 5 ปีกันในปี1999 และมีการต่อสัญญาออกไปอีก 5 ปีในปี 2004 ด้วยวงเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรืออ 1,400 ล้านบาท และสัญญาฉบับนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมปีหน้า แต่ทางจีเอ็มก็ขอยกเลิกก่อนด้วยความเห็นชอบร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะในขณะที่จีเอ็มต้องการลดรายจ่าย ตัววู้ดส์เองก็บอกว่าต้องการเวลาให้กับครอบครัว และทายาทคนที่ 2 ของเขาก็จะลืมตาดูโลกในเร็วๆ นี้แล้ว
ไม่ใช่แค่วู้ดส์เท่านั้น การตัดรายจ่ายของจีเอ็มในครั้งนี้ยังรวมถึงการเป็นสปอนเซอร์ในกีฬารายการต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงกอล์ฟ และการประกาศเตรียมลอยแพกิจการของบางแบรนด์ในเครือออกไป เช่น พอนติแอค, ซาบ, ฮัมเมอร์ ขณะที่โรงงานผลิตรถยนต์ของ GMDAT ในเกาหลีใต้ก็มีการประกาศยืดระยะเวลาในการปิดไลน์ผลิตจากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 1 ธันวาคมไปเป็น 4 มกราคมปีหน้า
นอกจากนั้นยังมีการวิเคราะห์กันว่า การที่จีเอ็มเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของวู้ดส์นั้นถือเป็นสัญญาณที่น่ากลัวที่บรรดานักกีฬาชื่อดังต่างๆ ในสหรัฐออเมริกาที่ได้รับเงินสปอนเซอร์หลักจากบริษัทรถยนต์และธุรกิจอื่นๆ ควรจะระมัดระวังตัวกันให้ดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวเป็นวงกว้างสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ แล้ว
