xs
xsm
sm
md
lg

ระดมรถใหม่ลุยแอลเอ เพิ่มสีสันรับปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พอร์ชปรับโฉมเพิ่มความสดให้กับบ็อกสเตอร์ พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ทั้งรุ่นธรรมดา และตัวแรงในรหัส S
นอกจากดีทรอยต์ และนิวยอร์กแล้ว อีกงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา และถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก คือ ลอสแองเจลีส มอเตอร์โชว์ หรือแอลเอ มอเตอร์โชว์ ซึ่งในปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน โดยยึดอาคารแอลเอ คอนเว็นชัน เซ็นเตอร์ นครลอสแองเจลีสเป็นสถานที่จัดแสดง

จริงอยู่ที่ว่าแอลเออาจจะไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรมรถยนต์เหมือนกับดีทรอยต์ แต่ที่นี่ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากสำหรับเมืองลุงแซม เพราะแคลิฟอร์เนียร์ถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และแอลเอก็เป็นจุดศูนย์กลางและที่ตั้งของศูนย์ออกแบบของหลากหลายบริษัทรถยนต์ทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศ

นั่นก็เลยทำให้มอเตอร์โชว์รายการนี้พยายามที่จะยกระดับความสำคัญของตัวเองและชิงความเด่นถึงขนาดจัดงานในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นมอเตอร์โชว์รายการแรกของปี แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจและหันมายึดช่วงเวลาเดือนพฤศจิกายนในการจัดงานแทน ซึ่งก็กลับกลายเป็นผลดี เพราะทำให้บริษัทรถยนต์หลายไม่ต้องทำงานหนักกันตั้งแต่ต้นปีเหมือนกับที่ผ่านมา และหลายรายต่างก็ยึดเวทีที่นี่ในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมา

ไม่เชื่อก็ลองดูจากรถยนต์ที่เป็นของใหม่แกะกล่อง ประเภทเปิดตัวครั้งแรกของโลกดูก็ได้ ซึ่งบางรุ่นอาจจะเปิดตัวออกมาเพื่อขายที่ตลาดแห่งนี้เป็นหลัก แต่ก็ยังมีอีกหลายรุ่นที่ถูกส่งขายทั่วโลก

ของใหม่จากฝั่งญี่ปุ่น

ผู้ผลิตรถยนต์จากแดนปลาดิบกลายเป็นดาวเด่นของงาน เพราะแต่ละค่ายมีของใหม่มาเปิดตัวในงานนี้กันหลายรุ่น อย่างมาสด้า 3 หรือแอกเซล่า โมเดลเชนจ์ ก็เปิดตัวที่นี่เป็นครั้งแรกของโลก และถือเป็นดาวเด่นของงานเลยก็ว่าได้ ซึ่งบนตัวถังซีดาน 4 ประตูที่มีความยาว 4,590 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร โดยเวอร์ชันที่ขายในสหรัฐอเมริกามีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์วรหัส MZR ที่มีให้เลือก 2 ความจุ

ในรุ่น 2,000 ซีซีมีกำลังสูงสุด 148 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.6 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบต่อนาทีกับเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ 5 จังหวะและ 2,500 ซีซี 167 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 23.2 กก.-ท. ที่ 4,000 รอบ/นาทีที่มีเกียร์ให้เลือกเหมือนรุ่น 2,000 ซีซี แต่เกียร์ธรรมดามีจังหวะเดินหน้าเพิ่มมาอีกหนึ่ง

นอกจากนั้น ผลงานของทีมออกแบบอย่างรถแข่งรุ่น KAANมาสด้าที่ส่งเข้าร่วมการประกวด Design Challenge ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในปีนี้อีกด้วย

ตามด้วยนิสสันกับการเผยโฉมพร้อมกันทีเดียว 2 รุ่นรวด คือ สปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่ที่เป็นเจนเนอเรชันที่ 6 ของ Z-Car กับรุ่น 370Z ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมทั้งคัน พร้อมเครื่องยนต์วี6 3,700 ซีซีรหัส VQ37VHR ซึ่งใช้ระบบวาล์วแปรผัน VVEL มีกำลังสูงสุด 331 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 37.3 กก.-ม.

370Z ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรหัส FM รุ่นที่ 2 และทำให้มีการลดขนาดของตัวรถลงทั้งความยาวที่สั้นกว่ารุ่นเดิม 70 มิลลิเมตรเป็น 4,250 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อลดลง 100 มิลลิเมตรอยู่ที่ 2,550 มิลลิเมตร

และอีกหนึ่งคือ การเปิดตัวโฉมใหม่ของซับคอมแพ็กต์รุ่นคิวบ์ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นรถยนต์ที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น แต่จากรูปลักษณ์ที่น่ารักและความต้องการของตลาดในสหรัฐอเมริกาที่เปลี่ยนไป ทำให้นิสสันนำคิวบ์เข้ามาเปิดตลาดที่นี่ เพื่อแข่งขันกับโตโยต้า ยาริส และฮอนด้า ฟิต

งานนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวแบบตามติด เพราะนิสสันวางคิวเปิดตัวคิวบ์ใหม่ในญี่ปุ่นก่อนหน้าการเปิดตัวในรอบสื่อมวลชนที่ญี่ปุ่นเพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่งเวอร์ชัน JDM ที่ขายในบ้านตัวเองมากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,500 ซีซี 107 แรงม้าพร้อมเกียร์ CVT ส่วนสเปกที่ขายในเมืองลุงแซมเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,800 ซีซีรุ่นใหม่ที่มีกำลังสูงสุด 122 แรงม้าและใช้เกียร์ CVT ในการส่งกำลัง

อีกผลผลิตที่มาจากฝั่งญี่ปุ่นและถือว่าสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย เห็นจะเป็นเล็กซัสกับการเผยโฉมเจนเนอเรชันที่ 3 ของเอสยูวีระดับหรูในตระกูล RX หรือที่เมื่อก่อนใช้ชื่อโตโยต้า แฮร์ริเออร์ในการขายที่ญี่ปุ่น ซึ่งเล็กซัสจัดการเผยโฉมทั้งรุ่นธรรมดาที่มากับรหัส RX350 เครื่องยนต์วี6 3,500 ซีซี 275 แรงม้า และรุ่นไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกันแต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการทำงาน ทำให้มีกำลังขยับขึ้นมาเป็น 295 แรงม้า

ขณะที่โตโยต้าทำสิ่งที่เคยพูดออกมาเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาให้เป็นความจริงจนได้กับโปรเจ็กต์คัมรี่ ไฮบริดที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดหรือ CNG เป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ซึ่งคันที่นำมาจัดแสดงเป็นตัวต้นแบบที่ถูกแต่งแบบสปอร์ตด้วยล้อแม็ก 19 นิ้ว โดยขุมพลังไฮบริดมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,400 ซีซีให้สามารถใช้ CNG เป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT และก๊าซ 1 ถังสามารถแล่นทำระยะทางได้กว่า 400 กิโลเมตร

การผลิตออกสู่ตลาดยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่ามีขายแน่ เพราะโตโยต้าคาดการณ์ว่าแนวโน้มสถานการณ์พลังงานในสหรัฐอเมริกาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และก๊าซธรรมชาติจะกลายเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดย 99% ของก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในสหรัฐอเมริกามาจากแห่งในประเทศและภูมิภาคอเมริกาเหนือ ที่สำคัญก๊าซธรรมชาติมีอยู่มาก เพราะแหล่งสำรองทั่วโลกสามารถขุดนำมาใช้ได้จนถึงปี 2100 และถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มความประหยัดมากขึ้นก็จะสามารถยืดระยะได้นานขึ้นจนถึงปี 2200 เลยทีเดียว

ส่วนฮอนด้า แม้จะไม่มีรถยนต์ใหม่เปิดตัวออกสู่ตลาด แต่ก็ฮือฮาไม่น้อย ด้วยต้นแบบรุ่นใหม่แกะกล่องและมากับทรงสปอร์ตสุดล้ำในชื่อ FC Sport ด้วยตัวถังแบบคูเป้ 2 ประตูที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าซึ่งมาจากการใช้เซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell ซึ่งใช้ไฮโดรเจนในการสร้างเชื้อเพลิง และมีการจัดวางเบาะนั่งแบบ 3 ที่นั่งเรียงกันเหมือนกับแม็กลาเรน F1

เจ้าถิ่น เงียบแต่ก็ไม่ถึงกับหงอย

สำหรับแบรนด์เจ้าถิ่นที่สร้างสีสันและมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดบนเวทีที่แอลเอเห็นจะเป็นฟอร์ด โดยเริ่มกับการปรับทัพเพื่อเจาะตลาด Pony Car แข่งขันกับคู่ปรับหน้าเก่าแต่กลับสู่ตลาดใหม่อีกครั้งอย่างดอดจ์ แชลเลนเจอร์ และเชฟโรเล คามาโร

มัสแตงใหม่เป็นเวอร์ขันปี 2010 และยังไม่ใช่โฉมใหม่ที่พัฒนาขึ้นใหม่หมดทั้งคัน แต่เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายในของเจนเนอเรชันที่ 5 ซึ่งเปิดตัวในปี 2004 และเริ่มขายในปีต่อมา

เหตุผลที่ต้องไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ก็เพื่อกระตุ้นตลาดให้กับมัสแตงเพื่อรับมือกับคู่ปรับทั้ง 2 ที่มีความสดใหม่กว่า โดยมัสแตง ไมเนอร์เชนจ์จะมีทั้งรุ่นคูเป้ และเปิดประทุน รวมถึงรุ่นหลังคากระจก หรือ Glass Roof ที่เป็นออพชั่น โดยเครื่องยนต์ในรุ่นใหม่มีทั้งวี6 4,000 ซีซีที่มีกำลังอยู่ที่ 210 แรงม้า และวี8 4,600 ซีซี 315 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติที่มี 5 จังหวะเท่ากัน โดยราคาขยับขึ้นจากของเดิมประมาณ 3.2%

นอกจากมัสแตงแล้ว ฟอร์ดยังกระตุ้นตลาดรถยนต์ครอบครัวในสายพันธุ์ฟิวชัน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2006 เพื่อแทนที่สายพันธุ์ทอรัสในการแข่งกับเจ้าตลาดอย่างฮอนด้า แอคคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ซึ่งนอกจากหน้าตาที่สดใหม่ขึ้นแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนไลน์อัพของเครื่องยนต์

มีทั้ง 2,500 ซีซี 4 สูบ 175 แรงม้าซึ่งมาแทนที่รุ่น 2,300 ซีซี และวี6 3,000 ซีซีที่มีเรี่ยวแรงขยับจาก 221 เป็น 240 แรงม้า และเพิ่มรุ่น 3,500 ซีซี 263 แรงม้า และไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2,500 ซีซีเป็นพื้นฐาน มีกำลังสูงสุด 155 แรงม้า

ส่วนแบรนด์ในเครืออย่างลินคอล์นและเมอร์คิวรี่ก็พร้อมใจกันปรับโฉมซีดานขนาดกลางระดับหรูของตัวเอง ซึ่งลินคอล์น MKZ และเพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่มีการปรับหน้าตาและเปลี่ยนชื่อมาเป็นเมอร์คิวรี่ มิลาน พร้อมเครื่องยนต์ใหม่วี6 3,500 ซีซีที่ใช้ร่วมกับฟิวชัน

ทางด้านจีเอ็ม หลังเจอกับมรสุมลูกโต งานนี้ถึงกับนิ่งและแทบไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรให้ตามติด นอกจากการกระตุ้นตลาดให้กับแบรนด์พอนติแอคด้วยการปรับโฉมของรุ่น G6 รถยนต์ไซส์เดียวกับคัมรี่ และแอคคอร์ด โดยมีการปรับปรุงครบทั้ง 3 ตัวถัง คือ ซีดาน, คูเป้ และเปิดประทุน

เสริมทัพด้วยรุ่นประหยัดเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,400 ซีซี 164 แรงม้า และปรับรุ่นวี6 3,500 ซีซี 219 แรงม้าให้มีขายทั้งรุ่นธรรมดาและ FFV หรือ Flex Fuel Vehicle สามารถใช้ E85 ได้ ส่วนที่เหลือเหมือนเดิม ทั้งวี6 3,900 ซีซี 222 แรงม้า และตัวแรงในรหัส GXP วี6 3,600 ซีซี 256 แรงม้า

ของดีจากยุโรปก็มีให้เลือก

นอกจากแบรนด์ญี่ปุ่นแล้ว สหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดที่สำคัญอีกแห่งของแบรนด์รถยนต์ยุโรป ซึ่งในงานนี้หลายค่ายโดยเฉพาะแบรนด์เยอรมันยกขบวนกันเข้ามาสร้างสีสันกันหลายราย

เริ่มจากมินิ แบรนด์รถยนต์ระดับหรูในเครือบีเอ็มดับเบิลยู กับเวอร์ชันพลังไฟฟ้า หรือ Electric Car ที่พัฒนาบนพื้นฐานของมินิ คูเปอร์ รุ่น 3 ประตู และจะมีการผลิตออกขายเพียง 500 คันเพื่อลองตลาดในสหรัฐอเมริกาโดยใช้ชื่อในการทำตลาดว่ามินิ อี

ตัวรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ด้วยการส่งกำลังผ่านเกียร์แบบจังหวะเดียวสู่การขับเคลื่อนล้อหน้า และมีแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนขนาด 28-35 กิโลวัตต์ชั่วโมง (KwH) เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้า โดยมินิเผยว่าจะเปิดขายทั้งการใช้งานส่วนบุคคลและแบบเป็นฟลีตสำหรับบริษัทห้างร้านที่สนใจ

สำหรับบริษัทแม่อย่างบีเอ็มดับเบิลยูเองก็เปิดตัวโฉมใหม่ของซีรีส์ 7 กับทางเลือกของเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินในรุ่น 750i พร้อมกับตัวต้นแบบ Active-Hybrid ที่จะมีขายในปีหน้าอีกด้วย โดยใช้เครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน

ในกลุ่มของรถสปอร์ตก็มากันเพียบทั้งเฟอร์รารี่กับการเผยโฉมครั้งแรกบนแผ่นดินอเมริกาของแคลิฟอร์เนีย สปอร์ตเปิดประทุนหลังคาแข็งพับได้รุ่นใหม่ล่าสุด ตามด้วยมาเซราติกับไมเนอร์เชนจ์ของควอตโตรปอร์เต้พร้อมเครื่องยนต์ใหม่วี8 4,700 ซีซี 430 แรงม้าพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ลัมบอร์กินี กัญญาร์โดกับรุ่น LP560-4 รุ่นเปิดประทุน และสปายเกอร์รุ่นพิเศษของ C8 ในรหัส Laviolette LM85 สีเหลืองดำ ซึ่งมีชื่อเล่นว่า Tiger ตามด้วยโลตัสกับการเปิดตลาดเมืองลุงแซมด้วยการส่ง Evora รถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเพิ่งเปิดตัวในมอเตอร์โชว์ที่อังกฤษมาอวดโฉม

ส่วนพอร์ชมากับการเผยโฉมเวอร์ชันใหม่ของบ็อกสเตอร์ และเคย์แมน รุ่นปี 2010 ซึ่งเป็นการปรับโฉม และมากับเครื่องยนต์ใหม่ซึ่งรุ่นธรรมดาใช้ขุมพลัง 2,900 ซีซี 255 แรงม้า และรุ่น S ขยับมาเป็น 3,400 ซีซี ซึ่งมีกำลัง 310 แรงม้าสำหรับบ็อกสเตอร์ เอส และมีม้าเพิ่มอีก 10 ตัวสำหรับเคย์แมน เอส พร้อมทางเลือกของเกียร์ใหม่แบบ PDK อัตโนมัติ 6 จังหวะ

สำหรับในปีหน้า มีการประกาศออกมาแล้วว่า แอลเอ มอเตอร์โชว์จะจัดงานในระหว่างวันที่ 4-13 ธันวาคม โดยใช้สถานที่จัดงานที่เดิม ใครที่สนใจก็วางโปรแกรมการไปเยือนกันตั้งแต่เนิ่นๆ



เคย์แมนก็ใหม่สดทั้งหน้าตา และขุมพลัง โดยในรหัส S ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 3,400 ซีซี จะมีเรี่ยวแรงมากกว่าบ็อกสเตอร์ เอส อยู่ 10แรงม้า
สปายเกอร์ C8 Laviolette LM85 แต่งในสไตล์ตัวแข่งเลอมังส์ และใช้เครื่องยนต์ของออดี้แบบวี 8 4,200 ซีซี ซึ่งมีกำลังสูงสุด 400 แรงม้าเป็นขุมพลัง
เบนท์ลีย์ อาซูเร ที ขยับความแรงให้กับเครื่องยนต์ด้วยการเพิ่มม้าในคอกมาเป็น 500 ตัวจากเครื่องยนต์ วี 8 เทอร์โบ
ซาบเปิดตัวเวอร์ชันฉลองครบรอบ 25 ปี ด้วยรุ่น 9-3 เปิดประทุน และมีการผลิตออกมากับสีเหลือง
ลินคอล์นขยับแนวรุกในตลาดรถยนต์หรูจัดการปรับโฉมรุ่น MKZ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ วี  6 3,500 ซีซี 263 แรงม้า
ฟอร์ดปรับโฉมให้กับรถยนต์ซีดานขนาดครอบครัวในสายพันธุ์ฟิวชัน มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดาและความประหยัดแบบไฮบริด
นิสสัน คิวบ์ เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาตามหลังญี่ป่นเพียงแค่วันเดียว แต่สเปกเมืองลุงแซมใช้เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี
ฟอร์ด มัสแตงใหม่ ปี 2010 มากันครบทุกรุ่นทั้งคูเป้ เปิดประทุน และหลังคากระจก
มินิเจาะตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าด้วยเวอร์ชัน E ที่ใช้พื้นฐานของคูเปอร์ แฮทช์แบ็ก
ลัมบอร์กินีส่งเวอร์ชันเปิดประทุนของกัญญาร์โด LP 560-4 ลงทำตลาดสหรัฐอเมริกาแล้วกับสมรรถนะสุดเร้าใจของเครื่องยนต์วี 10 ที่มีเรี่ยวแรง 552 แรงม้า
โลตัสส่ง Evora หรือตัวแทนของ Esprit มาอวดโฉมที่งานนี้
เกีย โซล ถูกเปิดตัวเป็นต้นแบบครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา และปีหน้าเกียจะส่งซับคอมแพ็กต์รุ่นนี้ขายในเมืองลุงแซมอย่างแน่นอน
ซูเปอร์คาร์แบรนด์แปลกจากเยอรมนีอย่าง Gumpert ส่งตัวแรงอย่างรุ่น Apollo ออกมาเปิดตัวยั่วเศรษฐีอเมริกัน
ฮอนด้ากับสปอร์ตต้นแบบสุดโฉบเฉียว FC Sport Fuel Call  ที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้
อินฟินิตี้ G37 เปิดประทุนแบบหลังคาแข็งพับได้ถูกส่งมาอวดโฉมอีกครั้งในงานนี้
นิสสัน 370Z กับความแรงบทใหม่พร้อมเครื่องยนต์วี 6  3,700 ซีซี
ฮุนไดกับต้นแบบรุ่นใหม่ HED-5-I ซึ่งไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างไร เพราะเปิดตัวครั้งแรกในเจนีวา มอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคม 2008
เล็กซัส RX ใหม่ เปิดตัวออกมาพร้อมกันทั้งรุ่นธรรมดาในชื่อ RX 350 และรุ่นไฮบริดในรหัส RX400h
มาสด้า  3 โฉมใหม่เปิดตัวออกมาแล้วกับตัวถังซีดาน พร้อมเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี และ 2,500 ซีซี สำหรับตลาดอเมริกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น