ขึ้นชื่อว่ารถสปอร์ตแล้ว เรื่องความประหยัดน้ำมันและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดูเหมือนว่าจะเป็นทางคู่ขนานที่ยากจะบรรจบ แต่กับยุคปัจจุบันที่ราคาน้ำมันทะยานสูงขึ้นแบบติดจรวด ถ้าขืนยังพัฒนารถสปอร์ตที่บริโภคน้ำมันแบบตะกละตะกลามแล้ว ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำร้ายกระเป๋าเงินของลูกค้ามากเกินไป
‘ม้าต้องกินหญ้า รถแรงก็ต้องกินน้ำมัน’ เป็นนิยามที่ตรงจุด แต่สำหรับรถสปอร์ตยุคใหม่ การหาทางออกด้วยการพัฒนาให้รถสปอร์ตตัวแรงมีความประหยัดน้ำมันและมีการปลดปล่อยระดับมลพิษในไอเสียลดลง ถือเป็นหัวข้อที่บรรดาวิศวกรต้องให้ความสนใจควบคู่กันด้วย และนี่คือต้นแบบที่เป็นผลผลิตใหม่ของโลตัสที่แสดงให้เห็นว่า รถสปอร์ตก็สามารถมีหัวใจสีเขียวได้
โลตัส อีโค อีลิส ถูกเปิดตัวในงานบริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2008 พร้อมๆ กับผลผลิตใหม่อย่าง Evora แต่สิ่งที่ทำให้สปอร์ตรุ่นนี้น่าสนใจคือ ความพยายามของทีมงานโลตัส ในการทำงานภายใต้แนวคิด 3R คือ Reduce, Recycle และ Re-Use
ทุกขั้นตอนในการทำงานเน้นความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนหรือถาวร เช่น ใบปอ, ขนสัตว์ หรือเส้นใยพืชในการนำมาใช้ผลิตวัสดุที่อยู่ในห้องโดยสาร รวมถึงชิ้นส่วนตัวถังโดยใช้สีพ่นที่มีพื้นฐานของน้ำผสมในการพ่นตัวถัง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตและขั้นตอนการผลิตรถที่ลดการสร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อม เช่น ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต 11% การใช้ไฟฟ้าลดลง 14% และการใช้น้ำมันลดลง 30%
นอกจากนั้นการพัฒนาตัวรถยังยึดในเรื่องของการเพิ่มสมรรถนะโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนัก โดยอีลิส อีโคมีน้ำหนักเบากว่าอีลิส เอสถึง 32 กิโลกรัม และนั่นก็รวมถึงการลดน้ำหนักของระบบอำนวยความสะดวกภายในรถ เช่น ระบบเครื่องเสียง ซึ่งมีการเลือกใช้ลำโพงที่มีน้ำหนักเบา และทำให้น้ำหนักรวมของระบบเครื่องเสียงลดลงจากรุ่นอีลิส เอสถึง 1.5 กิโลกรัม ซึ่งนั่นเท่ากับว่าผลที่ได้จะมีทั้งสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ดีขึ้น และความประหยัดน้ำมันที่ลดลง
อีกทั้งบนหลังคาของตัวรถยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อส่งเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ รวมถึงยังมีระบบที่แปรรูปพลังงานอันเกิดจากการเบรกหรือการถอนคันเร่งให้เป็นกระแสไฟฟ้า เหมือนกับรถยนต์ไฮบริด
"อีโค อีลิสคือตัวอย่างที่ดีในการแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่โลตัสให้ความสนใจและกำลังทุ่มเทในการพัฒนาเพื่อนำมาใช้งานในอนาคต และแน่นอนว่าในตอนนี้โลตัสให้ความสนใจและผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับแนวคิดดั้งเดิมในการพัฒนารถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบา ขับสนุก และมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง"ไมค คิมเบอร์ลี่ ซีอีโอของกลุ่มบริษัท โลตัสกล่าว
โปรเจ็กต์นี้ยังเป็นต้นแบบสำหรับจัดแสดงถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนารถสปอร์ตให้มีความห่วงใยต่อสภาพแวดล้อม และโลตัสพยายามพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อนำมาใช้กับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้นี้
