ข่าวต่างประเทศ - ครึ่งแรกของปีนี้กับการประกาศผลประกอบการในตลาดอเมริกาเหนือ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่แบรนด์เจ้าถิ่นเท่านั้นที่ดิ้นรนและเจอกับปัญหายอดขายร่วงและขาดทุนกันถ้วนหน้า แต่นิสสัน และบีเอ็มดับเบิลยูก็เจอกับสภาพนี้เช่นเดียวกัน เมื่อมีรายงานว่าทั้งคู่มีตัวเลขของกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีนี้ที่แล้ว
เว็บไซต์ออโต้นิวส์รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน นิสสันมีผลกำไรลดลงจากเดิมถึง 43% โดยสาเหตุของเรื่องนี้เป็นผลมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งเงินเยนแข็งค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ จนส่งผลต่อตัวเลขรายได้ อีกทั้งยอดขายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้
แม้จะเจอกับสภาพที่เงินหลุดลอยออกจากกระเป๋า แต่คาร์ลอส กอนส์ ซีอีโอของนิสสันยังมองโลกในแง่ดี และคิดว่านิสสัน อเมริกาเหนือน่าจะมีผลประกอบการตรงตามที่วางเอาไว้ พร้อมกับประกาศแผนการเพื่อรับมือกับสภาพที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองลุงแซม โดยเฉพาะการรับสมัครเลย์ออฟคนงานจำนวน 6,600 คนใน 2 โรงงานที่เทนเนสซี่ รวมถึงยกเลิกไลน์ผลิตไททันรุ่นปัจจุบัน และหันไปจับมือกับทางไครสเลอร์ให้รับหน้าที่ผลิตตัวแทนของรุ่นไททันโดยจะใช้พื้นฐานเดียวกับดอดจ์ แรมเพื่อเป็นการลดต้นทุน
ทางด้านบีเอ็มดับเบิลยูมีกำไรลดลง 33% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ลดลง รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์พร้อมใจกันขึ้นราคา ซึ่งจากเรื่องนี้ทำให้โปรแกรมการผลิตเอสยูวีรุ่นใหญ่สุดอย่าง X7 ที่เดิมทีมีคิวในปี 2010 จะถูกชะลอโครงการเอาไว้ก่อน และมีแนวโน้มสูงว่าอาจจะถูกพับเก็บเข้าลิ้นชัก หากสถานการณ์ราคาน้ำมันและยอดขายเอสยูวีในสหรัฐอเมริกาไม่ดีขึ้น
เว็บไซต์ออโต้นิวส์รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน นิสสันมีผลกำไรลดลงจากเดิมถึง 43% โดยสาเหตุของเรื่องนี้เป็นผลมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งเงินเยนแข็งค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ จนส่งผลต่อตัวเลขรายได้ อีกทั้งยอดขายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้
แม้จะเจอกับสภาพที่เงินหลุดลอยออกจากกระเป๋า แต่คาร์ลอส กอนส์ ซีอีโอของนิสสันยังมองโลกในแง่ดี และคิดว่านิสสัน อเมริกาเหนือน่าจะมีผลประกอบการตรงตามที่วางเอาไว้ พร้อมกับประกาศแผนการเพื่อรับมือกับสภาพที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองลุงแซม โดยเฉพาะการรับสมัครเลย์ออฟคนงานจำนวน 6,600 คนใน 2 โรงงานที่เทนเนสซี่ รวมถึงยกเลิกไลน์ผลิตไททันรุ่นปัจจุบัน และหันไปจับมือกับทางไครสเลอร์ให้รับหน้าที่ผลิตตัวแทนของรุ่นไททันโดยจะใช้พื้นฐานเดียวกับดอดจ์ แรมเพื่อเป็นการลดต้นทุน
ทางด้านบีเอ็มดับเบิลยูมีกำไรลดลง 33% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ลดลง รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์พร้อมใจกันขึ้นราคา ซึ่งจากเรื่องนี้ทำให้โปรแกรมการผลิตเอสยูวีรุ่นใหญ่สุดอย่าง X7 ที่เดิมทีมีคิวในปี 2010 จะถูกชะลอโครงการเอาไว้ก่อน และมีแนวโน้มสูงว่าอาจจะถูกพับเก็บเข้าลิ้นชัก หากสถานการณ์ราคาน้ำมันและยอดขายเอสยูวีในสหรัฐอเมริกาไม่ดีขึ้น