พูดถึงชื่อของ เศกพล อุ่นสำราญ คงมีแค่คนส่ายหน้าว่าเขาเป็นใครกัน แต่ถ้าบอกว่าเขาคือ "โก้ มิสเตอร์แซคแมน" ผู้ชายที่รักการเป่าแซกโซโฟนเป็นชีวิตจิตใจที่เดินทางไปเปิดการแสดงสดมาแล้วทั่วโลก มิสเตอร์แซคแมนเริ่มต้นย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเด็ก ซึ่งตัวโก้เองเป็นคนหนึ่งที่ชอบ และหลงรักในเสียง Saxophone ถึงขนาดได้ยินเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งตามไปดูทุกที
ถึงวันนี้ เมื่อโก้มีโอกาส รวมถึงมีเงินสะสมจากการทำงานมากว่า 20 ปี จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ ที่มีใจรักในแซกโซโฟนเหมือนๆ กัน ร่วมมือร่วมใจที่จะทำร้านแซกโซโฟนในฝัน เพื่อลบความรู้สึกที่เคยได้รับในอดีต ที่สำคัญอยากให้มีที่ๆ เป็นเหมือนบ้านของคนรักแซกด้วย โดยในช่วงปลายปี พ.ศ.2547 โก้ได้นำเงินสะสมที่เก็บเอาไว้เปิดร้าน Sax Society อย่างเป็นทางการ โดยมีแนวคิดที่ชัดเจนว่า "จะเป็นร้าน saxophone ที่ดีของทุก ๆ คนเพื่อทุก ๆ คน"
เช่นเดียวกับเรื่องราวของรถยนต์ที่โก้บอกว่านอกจากเรื่องของดนตรีแล้วเขาเป็นผู้ชายที่บ้ารถพอสมควร เริ่มจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยากมีรถเป็นของตัวเองจึงพยายามเก็บเงินจาการทำงานพิเศษหลายปีเพื่อไปซื้อรถดัสสันมือสองมาในราคา 4 หมื่นกว่าบาท ต่อมาเมื่อได้เงินจาการตั้งวงเล่นดนตรีกับเพื่อนๆจึงเปลี่ยนมาเป็นรถนิสสัน และเปลี่ยนรถเรื่อยมาอีกไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ , ออดี้ , โรเวอร์ , ฮอนด้า จนกระทั่งมาลงตัวที่ "บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5"
"คันนี้ผมใช้มาได้ 3 ปีแล้วครับรู้สึกว่ามันลงตัวในเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะ พูดได้เต็มปากว่าเกาะถนนดีเข้าโค้งไม่มีหลุด แต่การบำรุงรักษาอาจจะต้องดูแลมากหน่อย จริงๆผมขับรถมาเยอะทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่นความรู้สึกมันต่างกันมากแล้วแต่คนชอบ ส่วนผมคิดว่าเลือกรถคันนี้เพราะถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวเราซื้อรถราคาสูงหน่อยแต่ระบบความปลอดภัยและอายุการใช้งานมันคุ่มค่า ถ้าให้เปรียบเทียบรถคันนี้ก็คือดนตรีแจ๊สที่มีจังหวะสนุกสนานแฝงไว้ด้วยลูกเล่นแพรวพราวครับ"
ในอนาคตโก้บอกว่าอยากให้รัฐบาลส่งเสริมเรื่องพลังงานทดแทนต่างๆมากกว่านี้ เพราะประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังคงสับสนถึงชนิดของน้ำมันต่างๆและไม่ทราบว่ารถของตัวเองควรเติมชนิดใด รวมถึงอยากให้มีการสร้างปั๊มเอ็นจีวีให้มากขึ้นตามความต้องการใช้ด้วย ที่สำคัญคือเรื่องของการขับไม่โทรฯถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการแบ่งปันน้ำใจบนท้องถนนที่ทุกวันนี้หายากเต็มที
"การขับไม่โทรฯผมคิดว่าทุกคนคงเข้าใจเรื่องนี้กันหมดเพียงแต่ไม่มีคนทำตามกฎหมายเท่าไหร่เพราะคิดว่าไม่สำคัญซึ่งจริงๆแล้วถ้าเราประมาทเพียงนิดเดียวอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ ส่วนการขับรถก็อยากให้มีน้ำใจแก่กันบ้างเช่นการให้ทาง การหยุดรถให้คนข้ามถนน"
สำหรับผลงานเพลงนั้น หนุ่มโก้บอกว่า กำลังทำอัลบั้มชุดที่ 5 อยู่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกสู่สายตาประชาชนได้ในช่วงปลายปีนี้ ใครที่เป็นแฟนของเขาก็เตรียมฟังกันได้.....
ถึงวันนี้ เมื่อโก้มีโอกาส รวมถึงมีเงินสะสมจากการทำงานมากว่า 20 ปี จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ ที่มีใจรักในแซกโซโฟนเหมือนๆ กัน ร่วมมือร่วมใจที่จะทำร้านแซกโซโฟนในฝัน เพื่อลบความรู้สึกที่เคยได้รับในอดีต ที่สำคัญอยากให้มีที่ๆ เป็นเหมือนบ้านของคนรักแซกด้วย โดยในช่วงปลายปี พ.ศ.2547 โก้ได้นำเงินสะสมที่เก็บเอาไว้เปิดร้าน Sax Society อย่างเป็นทางการ โดยมีแนวคิดที่ชัดเจนว่า "จะเป็นร้าน saxophone ที่ดีของทุก ๆ คนเพื่อทุก ๆ คน"
เช่นเดียวกับเรื่องราวของรถยนต์ที่โก้บอกว่านอกจากเรื่องของดนตรีแล้วเขาเป็นผู้ชายที่บ้ารถพอสมควร เริ่มจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยากมีรถเป็นของตัวเองจึงพยายามเก็บเงินจาการทำงานพิเศษหลายปีเพื่อไปซื้อรถดัสสันมือสองมาในราคา 4 หมื่นกว่าบาท ต่อมาเมื่อได้เงินจาการตั้งวงเล่นดนตรีกับเพื่อนๆจึงเปลี่ยนมาเป็นรถนิสสัน และเปลี่ยนรถเรื่อยมาอีกไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ , ออดี้ , โรเวอร์ , ฮอนด้า จนกระทั่งมาลงตัวที่ "บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5"
"คันนี้ผมใช้มาได้ 3 ปีแล้วครับรู้สึกว่ามันลงตัวในเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะ พูดได้เต็มปากว่าเกาะถนนดีเข้าโค้งไม่มีหลุด แต่การบำรุงรักษาอาจจะต้องดูแลมากหน่อย จริงๆผมขับรถมาเยอะทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่นความรู้สึกมันต่างกันมากแล้วแต่คนชอบ ส่วนผมคิดว่าเลือกรถคันนี้เพราะถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวเราซื้อรถราคาสูงหน่อยแต่ระบบความปลอดภัยและอายุการใช้งานมันคุ่มค่า ถ้าให้เปรียบเทียบรถคันนี้ก็คือดนตรีแจ๊สที่มีจังหวะสนุกสนานแฝงไว้ด้วยลูกเล่นแพรวพราวครับ"
ในอนาคตโก้บอกว่าอยากให้รัฐบาลส่งเสริมเรื่องพลังงานทดแทนต่างๆมากกว่านี้ เพราะประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังคงสับสนถึงชนิดของน้ำมันต่างๆและไม่ทราบว่ารถของตัวเองควรเติมชนิดใด รวมถึงอยากให้มีการสร้างปั๊มเอ็นจีวีให้มากขึ้นตามความต้องการใช้ด้วย ที่สำคัญคือเรื่องของการขับไม่โทรฯถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการแบ่งปันน้ำใจบนท้องถนนที่ทุกวันนี้หายากเต็มที
"การขับไม่โทรฯผมคิดว่าทุกคนคงเข้าใจเรื่องนี้กันหมดเพียงแต่ไม่มีคนทำตามกฎหมายเท่าไหร่เพราะคิดว่าไม่สำคัญซึ่งจริงๆแล้วถ้าเราประมาทเพียงนิดเดียวอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ ส่วนการขับรถก็อยากให้มีน้ำใจแก่กันบ้างเช่นการให้ทาง การหยุดรถให้คนข้ามถนน"
สำหรับผลงานเพลงนั้น หนุ่มโก้บอกว่า กำลังทำอัลบั้มชุดที่ 5 อยู่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกสู่สายตาประชาชนได้ในช่วงปลายปีนี้ ใครที่เป็นแฟนของเขาก็เตรียมฟังกันได้.....
