ข่าวต่างประเทศ - กับสภาพที่ราคาน้ำมันกลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ ทำให้มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประกาศนโยบายการพัฒนารถของตัวเองออกมา ยืนยันว่าภายในปี 2015 จะปรับปรุงรถที่ขายอยู่ในตลาดให้มีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าที่ขายอยู่ในปัจจุบัน 30%
มาสด้ายืนยันว่า การประกาศครั้งนี้เป็นพันธสัญญาที่ทางบริษัทยึดถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ โดยจะมีทั้งการนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบา, การปรับปรุงเครื่องยนต์เบนซินที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมด รวมถึงการนำระบบ Start/Stop แบบอัตโนมัติเหมือนกับที่ใช้ในรถไฮบริดมาใช้กับรถธรรมดา
อีกทั้งมาสด้าจะเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินและเทอร์โบดีเซลรุ่นใหม่ รวมถึงเครื่องยนต์ลูกสูบสามเหลี่ยมหมุนอย่างโรตารี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าและขึ้นชื่อในเรื่องการกินน้ำมันก็จะมีเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
ในเรื่องของการลดน้ำหนักตัวถังนั้น มาสด้าเผยว่าเริ่มจากปี 2011 เป็นต้นไป มาสด้าวางเป้าหมายในการลดน้ำหนักรถรุ่นใหม่ๆ ของตัวเองลงอีก 100 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านั้น โดยจะใช้พื้นตัวถังรุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยแต่มีน้ำหนักเบาลง รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานแต่น้ำหนักเบามาใช้ เช่น Bio-Plastic และวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยของชีวมวลสารที่ไม้ได้เป็นอาหาร Non-food-based Cellulosic Biomass
ในช่วงระหว่างปี 2001-2008 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยของรถมาสด้าที่ขายอยู่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30% นั่นจึงทำให้มาสด้าเริ่มหันมาสนใจนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และในปี 2009 ทั้งในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือจะมีการนำรถแบบ FFV-Flex Fuel Vehicle ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบ E85 มาเปิดตัว เช่นเดียวกับระบบ Smart Idle Stop System ซึ่งมาสด้าเคยนำเวอร์ชันต้นแบบมาเปิดตัวในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2007
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ๆ จะเป็นแบบ Di หรือ Direct Injection ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีการทำงานที่รวดเร็วและให้ความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 7-8% โดยระบบนี้จะติดตั้งในรถยนต์ที่ขายอยู่ในญี่ปุ่น ยุโรป และตลาดโลก
มาสด้ายืนยันว่า การประกาศครั้งนี้เป็นพันธสัญญาที่ทางบริษัทยึดถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ โดยจะมีทั้งการนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบา, การปรับปรุงเครื่องยนต์เบนซินที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมด รวมถึงการนำระบบ Start/Stop แบบอัตโนมัติเหมือนกับที่ใช้ในรถไฮบริดมาใช้กับรถธรรมดา
อีกทั้งมาสด้าจะเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินและเทอร์โบดีเซลรุ่นใหม่ รวมถึงเครื่องยนต์ลูกสูบสามเหลี่ยมหมุนอย่างโรตารี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าและขึ้นชื่อในเรื่องการกินน้ำมันก็จะมีเวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
ในเรื่องของการลดน้ำหนักตัวถังนั้น มาสด้าเผยว่าเริ่มจากปี 2011 เป็นต้นไป มาสด้าวางเป้าหมายในการลดน้ำหนักรถรุ่นใหม่ๆ ของตัวเองลงอีก 100 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านั้น โดยจะใช้พื้นตัวถังรุ่นใหม่ที่มีความปลอดภัยแต่มีน้ำหนักเบาลง รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานแต่น้ำหนักเบามาใช้ เช่น Bio-Plastic และวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยของชีวมวลสารที่ไม้ได้เป็นอาหาร Non-food-based Cellulosic Biomass
ในช่วงระหว่างปี 2001-2008 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยของรถมาสด้าที่ขายอยู่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30% นั่นจึงทำให้มาสด้าเริ่มหันมาสนใจนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และในปี 2009 ทั้งในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือจะมีการนำรถแบบ FFV-Flex Fuel Vehicle ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบ E85 มาเปิดตัว เช่นเดียวกับระบบ Smart Idle Stop System ซึ่งมาสด้าเคยนำเวอร์ชันต้นแบบมาเปิดตัวในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2007
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ๆ จะเป็นแบบ Di หรือ Direct Injection ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีการทำงานที่รวดเร็วและให้ความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 7-8% โดยระบบนี้จะติดตั้งในรถยนต์ที่ขายอยู่ในญี่ปุ่น ยุโรป และตลาดโลก