การขยับตัวครั้งใหม่ของโอเปิลในการรุกตลาดยุโรปทั้งในกลุ่มรถยนต์ขนาดครอบครัว หรือ D-Segment ในระดับเดียวกับฮอนด้า แอคคอร์ด และมินิแวนขนาดคอมแพ็กต์ที่เมืองไทยเคยทำตลาดแบบได้รับความนิยมอยู่พักใหญ่
รุ่นแรกเป็นการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งของรุ่น อินซิกเนีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโอเปิลเผยภาพบางส่วนออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ ทั่วโลก ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดแทนที่สายพันธุ์เวคตรา ที่มีขายอยู่ 3 เจนเนอเรชันนับจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1988
ตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น Epsilon II ของจีเอ็ม (แต่ของโอเปิลมีขายทั้งล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลาพร้อมระบบ Adaptive 4X4 ซึ่งคนขับสามารถปรับรูปแบบการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพเส้นทาง) เช่นเดียวกับแซทเทิร์น ออร่า, ซาบ 9-3 และเชฟโรเลต มาลิบู ส่วนชื่อรุ่นและงานออกแบบนำมาจากต้นแบบชื่อเดียวกันนี้ที่เปิดตัวในปี 2003 มาผสมผสานกับต้นแบบทรงสปอร์ตในชื่อจีทีซีที่เปิดตัวในปี 2007 โดยตัวถังที่จะทำตลาดมีทั้งซีดานและแฮทช์แบ็กมีความยาว 4,830 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดทางโอเปิลเปิดเผยออกมาคร่าวๆ มีทั้งแบบ 4 สูบไปจนถึงวี6 โดยมีทั้งเบนซินที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ในระหว่าง 115-260 แรงม้า และเทอร์โบดีเซลที่มีความจุ 2,000 ซีซี ซึ่งมีกำลังอยู่ระหว่าง 110-160 แรงม้า โดยจะจับคู่กับเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
ทางด้านตลาดมินิแวนเป็นการปรับโฉมให้กับ ซาฟิรา รุ่นที่ 2 ด้วยหน้าตาที่สดใสขึ้นจากรุ่นดั้งเดิมของเจนเนอเรชันที่ 2 ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปี 2005 โดยที่เครื่องยนต์มีการเพิ่มขุมพลังใหม่ 3 แบบเพื่อรองรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
ในรุ่น 1,600 ซีซีเบนซินมีการปรับปรุงเพิ่มกำลังเป็น 115 แรงม้า จากเดิมมีแค่ 105 แรงม้า ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซล 1,700 ซีซีมีให้เลือกทั้งแบบ 110 และ 125 แรงม้าเป็นทางเลือกใหม่ที่ถูกเสริมเข้ามา เพื่อแทนที่ 1,900 ซีซี 100 และ 120 แรงม้ารุ่นเดิม ส่วนทางเลือกอื่นๆ ยังเหมือนเดิม เช่น เบนซิน 1,800 ซีซี 140 แรงม้า 2,200 ซีซี 150 แรงม้า, 2,000 ซีซี เทอร์โบ 200 แรงม้า ส่วนใครที่ต้องการความแรงแบบไม่สนใจราคาน้ำมัน ก็มีเวอร์ชัน OPC กับเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เทอร์โบที่มีกำลังถึง 240 แรงม้าให้เลือกเหมือนเคย
แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้ชื่อโอเปิลในการทำตลาดยุโรป ยกเว้นในอังกฤษที่จะเปลี่ยนมาเป็นยี่ห้อวอกซ์ฮอลล์เหมือนกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของโอเปิลที่ขายในแดนผู้ดี โดยอินซิกเนียมีคิวเปิดตัวครั้งแรกในงานบริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ เดือนกรกฏาคมนี้ ขณะที่ซาฟิรามีขายแล้วในเยอรมนีกับราคา 21,210-34,750 ยูโร หรือ 1.04-1.73 ล้านบาท
รุ่นแรกเป็นการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งของรุ่น อินซิกเนีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโอเปิลเผยภาพบางส่วนออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ ทั่วโลก ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดแทนที่สายพันธุ์เวคตรา ที่มีขายอยู่ 3 เจนเนอเรชันนับจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1988
ตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น Epsilon II ของจีเอ็ม (แต่ของโอเปิลมีขายทั้งล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลาพร้อมระบบ Adaptive 4X4 ซึ่งคนขับสามารถปรับรูปแบบการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพเส้นทาง) เช่นเดียวกับแซทเทิร์น ออร่า, ซาบ 9-3 และเชฟโรเลต มาลิบู ส่วนชื่อรุ่นและงานออกแบบนำมาจากต้นแบบชื่อเดียวกันนี้ที่เปิดตัวในปี 2003 มาผสมผสานกับต้นแบบทรงสปอร์ตในชื่อจีทีซีที่เปิดตัวในปี 2007 โดยตัวถังที่จะทำตลาดมีทั้งซีดานและแฮทช์แบ็กมีความยาว 4,830 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดทางโอเปิลเปิดเผยออกมาคร่าวๆ มีทั้งแบบ 4 สูบไปจนถึงวี6 โดยมีทั้งเบนซินที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ในระหว่าง 115-260 แรงม้า และเทอร์โบดีเซลที่มีความจุ 2,000 ซีซี ซึ่งมีกำลังอยู่ระหว่าง 110-160 แรงม้า โดยจะจับคู่กับเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
ทางด้านตลาดมินิแวนเป็นการปรับโฉมให้กับ ซาฟิรา รุ่นที่ 2 ด้วยหน้าตาที่สดใสขึ้นจากรุ่นดั้งเดิมของเจนเนอเรชันที่ 2 ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปี 2005 โดยที่เครื่องยนต์มีการเพิ่มขุมพลังใหม่ 3 แบบเพื่อรองรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
ในรุ่น 1,600 ซีซีเบนซินมีการปรับปรุงเพิ่มกำลังเป็น 115 แรงม้า จากเดิมมีแค่ 105 แรงม้า ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซล 1,700 ซีซีมีให้เลือกทั้งแบบ 110 และ 125 แรงม้าเป็นทางเลือกใหม่ที่ถูกเสริมเข้ามา เพื่อแทนที่ 1,900 ซีซี 100 และ 120 แรงม้ารุ่นเดิม ส่วนทางเลือกอื่นๆ ยังเหมือนเดิม เช่น เบนซิน 1,800 ซีซี 140 แรงม้า 2,200 ซีซี 150 แรงม้า, 2,000 ซีซี เทอร์โบ 200 แรงม้า ส่วนใครที่ต้องการความแรงแบบไม่สนใจราคาน้ำมัน ก็มีเวอร์ชัน OPC กับเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เทอร์โบที่มีกำลังถึง 240 แรงม้าให้เลือกเหมือนเคย
แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้ชื่อโอเปิลในการทำตลาดยุโรป ยกเว้นในอังกฤษที่จะเปลี่ยนมาเป็นยี่ห้อวอกซ์ฮอลล์เหมือนกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของโอเปิลที่ขายในแดนผู้ดี โดยอินซิกเนียมีคิวเปิดตัวครั้งแรกในงานบริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ เดือนกรกฏาคมนี้ ขณะที่ซาฟิรามีขายแล้วในเยอรมนีกับราคา 21,210-34,750 ยูโร หรือ 1.04-1.73 ล้านบาท