ข่าวในประเทศ - “โปรตอน” รถจากแดนเสือเหลือง ยอดขายพุ่งทะลุเป้าเดือนละ 500 คัน จากเดิมคาดเพียง 200-300 คัน ปิดไตรมาสแรกส่งมอบรถไปแล้ว 1500 คัน ระบุเหตุราคาน้ำมันแพงส่งผลให้คนมาสนใจรถขนาดเครื่องยนต์เล็ก โดยเฉพาะ “เซฟวี่” โกยยอดกว่า 50% พร้อมรุกเข้มด้านบริการและเพิ่มโชว์รูม แย้มปีนี้เห็นรถรุ่นใหม่1-2 รุ่นแน่นอน
นายธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดตัวรถยนต์โปรตอนทั้ง 3 รุ่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าโดยมียอดขายเดือนละประมาณ 400-500 คัน มากกว่าที่คาดไว้ในช่วงก่อนเปิดตัว 200-300 คันต่อเดือน ทำให้บริษัทต้องประชุมเพื่อปรับเป้าใหม่จากเดิมที่คาดไว้ทั้งปี 2,000 คัน
ทั้งนี้หลังจากสิ้นสุดไตรมาสแรกบริษัทฯ ส่งมอบรถให้ลูกค้าแล้วประมาณ 1,500 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่น เซฟวี่ ครองสัดส่วนมากที่สุด 50%, รุ่น นีโอ 20% และรุ่น เจน-ทู ประมาณ 30%
“สาเหตุที่ทำให้รถของเราขายดีเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อรถยนต์ขนาดเล็กโดยเฉพาะรุ่น เซฟวี่มีขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.2 ลิตร และขายดีเป็นอันดับหนึ่งในแบรนด์ของโปรตอนประกอบกับราคาถูก เหตุผลที่ทำให้รถของโปรตอนมีราคาถูกเกิดจากโครงสร้างภาษีนำเข้าได้รับการลดเหลือเพียง 5% จากการเป็นประเทศในกลุ่ม AFTA ไม่ใช่เป็นเพราะการลดต้นทุนในการผลิต” นายธวัชชัยกล่าวและว่า
สำหรับกลยุทธ์บริษัทฯ จะเน้นเรื่องการให้บริการหลังการขายควบคู่ไปกับการพัฒนาศูนย์บริการให้ทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน โดยจะบังคับให้ทุกศูนย์ฯ มีเครื่องมือพิเศษในการตรวจเช็ครถโปรตอน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันโปรตอนมีศูนย์บริการและโชว์รูม 30 แห่งทั่วประเทศและจะเพิ่มเป็น 40 แห่งภายในสิ้นปี
“นอกจากเราจะเข้มในเรื่องการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแล้ว ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 1-2 รุ่น อย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นรุ่นใด ส่วนช่วงเวลาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและทิศทางของตลาด”
ส่วนการคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมของปี 2551 ตลาดน่าจะเติบโตได้ถึง 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยจะเป็นการเติบโตเฉพาะในบางเซ็กเมนท์ เช่น รถขนาดเล็ก เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกตลาดรวมก็เติบโตประมาณ 15-16% จากการขยายตัวของตลาดรถเล็ก นายธวัชชัยกล่าวปิดท้าย
นายธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดตัวรถยนต์โปรตอนทั้ง 3 รุ่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าโดยมียอดขายเดือนละประมาณ 400-500 คัน มากกว่าที่คาดไว้ในช่วงก่อนเปิดตัว 200-300 คันต่อเดือน ทำให้บริษัทต้องประชุมเพื่อปรับเป้าใหม่จากเดิมที่คาดไว้ทั้งปี 2,000 คัน
ทั้งนี้หลังจากสิ้นสุดไตรมาสแรกบริษัทฯ ส่งมอบรถให้ลูกค้าแล้วประมาณ 1,500 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่น เซฟวี่ ครองสัดส่วนมากที่สุด 50%, รุ่น นีโอ 20% และรุ่น เจน-ทู ประมาณ 30%
“สาเหตุที่ทำให้รถของเราขายดีเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อรถยนต์ขนาดเล็กโดยเฉพาะรุ่น เซฟวี่มีขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.2 ลิตร และขายดีเป็นอันดับหนึ่งในแบรนด์ของโปรตอนประกอบกับราคาถูก เหตุผลที่ทำให้รถของโปรตอนมีราคาถูกเกิดจากโครงสร้างภาษีนำเข้าได้รับการลดเหลือเพียง 5% จากการเป็นประเทศในกลุ่ม AFTA ไม่ใช่เป็นเพราะการลดต้นทุนในการผลิต” นายธวัชชัยกล่าวและว่า
สำหรับกลยุทธ์บริษัทฯ จะเน้นเรื่องการให้บริการหลังการขายควบคู่ไปกับการพัฒนาศูนย์บริการให้ทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน โดยจะบังคับให้ทุกศูนย์ฯ มีเครื่องมือพิเศษในการตรวจเช็ครถโปรตอน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันโปรตอนมีศูนย์บริการและโชว์รูม 30 แห่งทั่วประเทศและจะเพิ่มเป็น 40 แห่งภายในสิ้นปี
“นอกจากเราจะเข้มในเรื่องการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแล้ว ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 1-2 รุ่น อย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นรุ่นใด ส่วนช่วงเวลาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและทิศทางของตลาด”
ส่วนการคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมของปี 2551 ตลาดน่าจะเติบโตได้ถึง 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยจะเป็นการเติบโตเฉพาะในบางเซ็กเมนท์ เช่น รถขนาดเล็ก เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกตลาดรวมก็เติบโตประมาณ 15-16% จากการขยายตัวของตลาดรถเล็ก นายธวัชชัยกล่าวปิดท้าย
