ข่าวในประเทศ - สิงห์รถบรรทุก “ฮีโน่” ประเดิมศักราช เปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่“ซีรีส์ 5” ตั้งเป้าปีนี้ 9,000 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37% คาดตลาดรวมทรงตัวปิด 23,000 คัน เตรียมปรับการใช้ชิ้นส่วนภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการใช้ไทยเป็นฐานผลิตแทนญี่ปุ่น มั่นใจอีก 7 ปีสามารถขึ้นแท่นครองทุกตลาด ส่วนรถเอ็นจีวีต้องรอปลายปีหน้า
นายโยชิโนริ โนกูจิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ส่วนสถานการณ์ตลาดในประเทศไทย ฮีโน่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถบรรทุกขนาดกลางขึ้นไปไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการอยู่ที่ระดับ 43% และเชื่อว่าจะยังรักษาความเป็นผู้นำนี้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยตลาดรวมในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 23,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,000 คัน
“เราประเมินว่ายอดจำหน่ายของฮีโน่ในปีนี้จะอยู่ที่ 9,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาดที่ 37% เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายอย่าง โดยเฉพาะการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะระบบการขนส่งที่ไปยังประเทศใกล้เคียง อาทิ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม แต่เชื่อว่าในปีหน้าไปจนถึงปีพ.ศ. 2558 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 23% โดยตั้งเป้ายอดขายในทั้งหมด 12,000 – 16,000 คันหรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 39%”
ปัจจุบัน สัดส่วนการจำหน่ายรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ของฮีโน่คิดเป็นกว่า 80% ของยอดจำหน่ายรวม หรือประมาณ 16,000 คัน ขณะที่ยอดจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็กนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% เท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีสัดส่วนการตลาดกว่า 65% ซึ่งเป็นตลาดที่ฮีโน่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นด้วย
ส่วนการที่จะทำให้ฮีโน่เติบโตได้ตามเป้าหมายนั้นนายโยชิโนริกล่าวว่าบริษัทฯมีนโยบายหลักๆ คือ การสร้างรถให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมการใช้รถที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมาจากปัจจัยสำคัญ คือ ผลกระทบจากข้อกฎหมายของภาครัฐ ที่จำกัดน้ำหนักบรรทุก และมลพิษไอเสียมากขึ้น รวมถึงเรื่องภาระต้นทุน ทั้งจากอัตราราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หรือเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ของผู้ใช้รถนั่นเอง ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดตัวรถฮีโน่ ซีรี่ส์ 5 ใหม่ พรีเมียม คอมมอนเรล มาตรฐานยูโร 3 โดยมีให้เลือกตามใช้งาน กันถึง 7 รุ่น 7 ขนาด และมีอัตราการประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเดิม 8% ส่วนในเดือนมิถุนายนก็จะมีการเปิดตัวอีก 1 รุ่นด้วยกัน พร้อมกับมีการจัดคาราวาน 4 ภาคทั่วประเทศแนะนำรถบรรทุกฮีโน่ด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้มีการศึกษาร่วมกับ บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ในการจัดหารถบัสเอ็นจีวี มาวิ่งให้บริการ ซึ่งขณะนี้ก็มีให้บริการอยู่แล้ว ในส่วนของรถบรรทุกบริษัทฯก็มีแผนเช่นกันแต่คงต้องดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยของบริษัทพบว่า สัดส่วนลูกค้ามีความต้องการแบบ 50:50 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพก๊าซในเมือง ที่ให้พลังงานน้อย รวมถึงสถานีบริการที่ยังมีไม่เพียงพอ ทั้งนี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงประมาณปลายปีหน้า
ส่วนนายซึเนฮิโกะ ฟูจิอิ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า จากการดำเนินงานของบริษัทฯมากว่า 45 ปี ในปีนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่มียอดขายต่างประเทศมากกว่าในประเทศ คือประมาณ 60 % จากยอดขายทั้งหมด 190,000 คัน ซึ่งตลาดในประเทศไทยเป็นตลาดที่ฮีโน่ให้ความสำคัญมากเนื่องจากมียอดขายประมาณ 20% นอกจากนี้จะพยายามส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านชิ้นส่วนหลักๆ เช่น เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆให้สามารถผลิตขึ้นเองได้ในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียน
นายโยชิโนริ โนกูจิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ส่วนสถานการณ์ตลาดในประเทศไทย ฮีโน่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถบรรทุกขนาดกลางขึ้นไปไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการอยู่ที่ระดับ 43% และเชื่อว่าจะยังรักษาความเป็นผู้นำนี้ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยตลาดรวมในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 23,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,000 คัน
“เราประเมินว่ายอดจำหน่ายของฮีโน่ในปีนี้จะอยู่ที่ 9,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาดที่ 37% เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายอย่าง โดยเฉพาะการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะระบบการขนส่งที่ไปยังประเทศใกล้เคียง อาทิ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม แต่เชื่อว่าในปีหน้าไปจนถึงปีพ.ศ. 2558 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 23% โดยตั้งเป้ายอดขายในทั้งหมด 12,000 – 16,000 คันหรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 39%”
ปัจจุบัน สัดส่วนการจำหน่ายรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ของฮีโน่คิดเป็นกว่า 80% ของยอดจำหน่ายรวม หรือประมาณ 16,000 คัน ขณะที่ยอดจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็กนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% เท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีสัดส่วนการตลาดกว่า 65% ซึ่งเป็นตลาดที่ฮีโน่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นด้วย
ส่วนการที่จะทำให้ฮีโน่เติบโตได้ตามเป้าหมายนั้นนายโยชิโนริกล่าวว่าบริษัทฯมีนโยบายหลักๆ คือ การสร้างรถให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมการใช้รถที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมาจากปัจจัยสำคัญ คือ ผลกระทบจากข้อกฎหมายของภาครัฐ ที่จำกัดน้ำหนักบรรทุก และมลพิษไอเสียมากขึ้น รวมถึงเรื่องภาระต้นทุน ทั้งจากอัตราราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หรือเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ของผู้ใช้รถนั่นเอง ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดตัวรถฮีโน่ ซีรี่ส์ 5 ใหม่ พรีเมียม คอมมอนเรล มาตรฐานยูโร 3 โดยมีให้เลือกตามใช้งาน กันถึง 7 รุ่น 7 ขนาด และมีอัตราการประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเดิม 8% ส่วนในเดือนมิถุนายนก็จะมีการเปิดตัวอีก 1 รุ่นด้วยกัน พร้อมกับมีการจัดคาราวาน 4 ภาคทั่วประเทศแนะนำรถบรรทุกฮีโน่ด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้มีการศึกษาร่วมกับ บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ในการจัดหารถบัสเอ็นจีวี มาวิ่งให้บริการ ซึ่งขณะนี้ก็มีให้บริการอยู่แล้ว ในส่วนของรถบรรทุกบริษัทฯก็มีแผนเช่นกันแต่คงต้องดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยของบริษัทพบว่า สัดส่วนลูกค้ามีความต้องการแบบ 50:50 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพก๊าซในเมือง ที่ให้พลังงานน้อย รวมถึงสถานีบริการที่ยังมีไม่เพียงพอ ทั้งนี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงประมาณปลายปีหน้า
ส่วนนายซึเนฮิโกะ ฟูจิอิ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส บริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า จากการดำเนินงานของบริษัทฯมากว่า 45 ปี ในปีนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่มียอดขายต่างประเทศมากกว่าในประเทศ คือประมาณ 60 % จากยอดขายทั้งหมด 190,000 คัน ซึ่งตลาดในประเทศไทยเป็นตลาดที่ฮีโน่ให้ความสำคัญมากเนื่องจากมียอดขายประมาณ 20% นอกจากนี้จะพยายามส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านชิ้นส่วนหลักๆ เช่น เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆให้สามารถผลิตขึ้นเองได้ในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียน