แก๊งปล้นรถอาละวาดหนักที่สุราษฎร์ฯ สิบล้อโดนยิงดับอีกราย

สุราษฎร์ธานี- แก๊งปล้นรถอาละวาดหนัก บนถนนสายเอเชีย 41 สุราษฎร์ธานี ล่าสุดก่อเหตุยิงถล่มรถบรรทุกสิบล้อ หวังชิงทรัพย์ ถูกคนขับเสียชีวิตคาที่ รถตกคูน้ำข้างทาง แต่ผิดหวังเป็นเศษกระดาษเก่า ก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างลอยนวล ด้านตำรวจ สภ.พุนพิน ฉุน! ห้ามนักข่าวบันทึกภาพเด็ดขาด พบของกลางบางส่วนหายไป

วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุรถบรรทุกสิบล้อพลิกคว่ำตกข้างทางมีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 179 ถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้นกรุงเทพฯ ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จึงรุดไปตรวจสอบ

พบรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-8288 สงขลา ของบริษัท หาดใหญ่ ชัยกาณจน์ จำกัด 84 สภาพพลิกตะแคงตกจากถนนด้านหลังคุมผ้าใบมิดชิด บริเวณประตูด้านคนขับมีรอยกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 7 นัด ภายในตัวรถพบศพ นายณรงค์ พูลแก้ว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/4 ม.2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

บริเวณลำตัวถูกยิงด้วยกระสุนปืนดังกล่าวจำนวน 4 รู และมีนายมะ ชาวพม่าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่ศีรษะ และลำตัว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวบรรทุกเศษกระดาษเก่า และมีแผ่นเกม บุหรี่ และสุราต่างประเทศที่หลบหนีภาษีปะปนมาจำนวนหนึ่งจึงนำตัวนายมะไปทำการสอบสวน

นายมะ เล่าว่า บรรทุกสิ่งของมาจากตัวหาดใหญ่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบสีและยี่ห้อใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่รถ กระสุนถูกคนขับ จนเป็นเหตุให้รถเสียหลักจนพลิกคว่ำตกข้างทาง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวมาคอยดักเหยื่อเมื่อเห็นมีรถวิ่งมาคันเดียวจึงฉวยโอกาสก่อเหตุให้รถพลิกคว่ำเพื่อเก็บทรัพย์สินของมีค่า แต่เมื่อเห็นเป็นกระดาษเก่าจึงขับรถหนีไป ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นถนนมีไหล่ทางสูงชัน

ก่อนหน้านี้มีแก๊งปาหินอาละวาดก่อเหตุกว่า 10 ครั้งในเดือนเดียว เพื่อให้รถเสียหลักตกข้าง หวังทรัพย์สิน ต่อมาเจ้าหน้าที่กวดขันอย่างหนัก เรื่องเงียบไป คาดว่า กลุ่มดังกล่าวอาจเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้อาวุธปืนก่อเหตุแทนก้อนหิน

ทั้งนี้ ระหว่างที่กลุ่มผู้สื่อข่าวเข้าทำการบันทึกภาพ ร.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุริยะ ร้อยเวร สภ.พุนพิน ได้แสดงความไม่พอใจ โดยสั่งห้ามกลุ่มผู้สื่อข่าวทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และของกลางอย่างเด็ดขาด โดยไม่ชี้แจงเหตุผล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าของกลางได้หายไปจำนวนหนึ่งขณะที่นำไปเก็บไปไว้ที่ สภ.พุนพิน