ค่าย “นิสสัน” เดินหน้าเขย่าตลาดรถยนต์ไทย หลังจากยอดขายพุ่งต่อเนื่อง เดือนพฤษภาคมนี้เตรียมฉุดยอดขายเก๋งให้ติดลมบน หวังกินรวบตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์ ด้วยการเปิดตัว “นิสสัน ทีด้า” รุ่นราคาประหยัด 5 แสนบาทต้นๆ ชนกับ โตโยต้า วีออส-ยาริส, ฮอนด้า ซีตี้-แจ๊ซ และเชฟโรเลต อาวีโอ แต่เหนือกว่าด้วยขนาดตัวถังและเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า 1600 ซีซี พร้อมเล็งเจาะตลาดลูกค้ารายใหญ่ หรือฟลีต ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์เท็กซี่ รวมถึงรถประจำบริษัท และหากเป็นไปตามที่ผู้บริหารประกาศไว้ น่าจะมีรถนำเข้าแบบซีบียูมาเป็นอีกทางเลือกช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ที่แน่ๆ “นิสสัน เทียน่า” โมเดลเชนจ์ ได้เผยโฉมอวดสายตาประชาคมโลกแล้ว ในงานปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ก่อนจะเริ่มแนะนำสู่ตลาดช่วงประมาณกลางปีเป็นต้นไป โดยตลาดไทยมีกำหนด เปิดตัวไม่เกินต้นปี 2552 หรือหากเป็นไปตามแผนที่ผู้บริหารเดิมวางไว้ อาจจะโผล่ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ปลายปีนี้ก็ได้
แม้ปีหนูไฟชาวไทยจะผจญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ผู้คนพากันระมัดระวังในการใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ตลาดรถยนต์กลับเติบโตสวนทางสินค้าประเภทอื่นๆ ทั้งที่รถยนต์เป็นสินค้าที่มีราคาสูงและไม่จำเป็นมากนัก ซึ่งนั่นน่าจะมาจากรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ที่มีราคาลดลงจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับรถรุ่นที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งผลให้ตลาดรถยนต์นั่งไตรมาสแรกเติบโตถึง 39% และผลักดันตลาดรถยนต์รวมพุ่งมากกว่า 16% ถึงตลาดปิกอัพจะขยายตัวเพียง 7.7% ก็ตาม
ดังนั้นแทบทุกค่ายที่มีรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมัน E20 ได้ จึงมียอดขายเติบโตเป็นอย่างมาก และหนึ่งในนั่นย่อมมี “นิสสัน” ค่ายรถยนต์ที่นำร่องลดราคารถลง ตั้งแต่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยไม่ต้องรอวันที่1 มกราคม 2551 ที่เป็นวันเริ่มได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับรถที่ใช้น้ำมัน E20 ทั้งที่ในปีที่แล้วเก๋งของนิสสันไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ดีว่าได้ปิกอัพ “ฟรอนเทียร์ นาวารา” มาช่วยจึงผลักดันให้ยอดขายรถยนต์รวมของนิสสันเติบโตฝ่ากระแสตลาดตกต่ำในปีที่แล้วมาได้
แน่นอนตีเหล็กย่อมตีในช่วงที่กำลังร้อน หลังจากส่งหมัดแรก “ฟรอนเทียร์ นาวารา” รุ่นซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียว โหมโรงดันยอดขายต่อเนื่องไปแล้ว ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดนิสสันเตรียมส่งเก๋งมาช่วยดันยอดขายให้ติดลมบนอีกเช่นกัน
โดยช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ นิสสันจะแนะนำเก๋ง “ทีด้า” รุ่นย่อยใหม่เข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเพิ่มรุ่นราคาประหยัดเข้ามาเสริมรุ่นที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายลงไปสู่ตลาดผู้ที่ใช้เก๋งซับคอมแพ็กต์ อย่างเช่น โตโยต้า วีออส-ยาริส ฮอนด้า ซิตี้-แจ๊ซ และเชฟโรเลต อาวีโอ
ทั้งนี้ปัจจุบันนิสสันทีด้า จะจับกลุ่มลูกค้าระหว่างเก๋งซับคอมแพ็กต์ตัวบน กับกลุ่มคอมแพ็กต์ซีดานอย่าง โตโยต้า โคโรลล่า หรือซีวิค โดยทีด้ามีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 6.04-7.93 แสนบาท ดังนั้นการขยายลงสู่ตลาดซับคอมแพ็กต์ครั้งนี้ จึงมุ่งกินรวบลงไปถึงลูกค้าเก๋งซับคอมแพ็กต์ตัวกลางลงล่าง ที่ราคาไม่เกิน 6 แสนบาท
ฉะนั้นนิสสัน ทีด้า รุ่นที่จะเพิ่มเข้าสู่ตลาด จึงตั้งราคาอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ ด้วยการลดอุปกรณ์สะดวกสบาย หรือสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ว่าจะอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นระบบกระจกไฟฟ้าเป็นแบบมือหมุน และกันชนเป็นพลาสติกสีดำ เพื่อทำให้สามารถลดราคาลงมาได้ แต่จะมีจุดแข็งตัวถังที่ใหญ่ และวางเครื่องยนต์ 1600 ซีซี ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเก๋งซับคอมแพ็กต์ทั่วไป แต่ทีด้ามีราคาให้เลือกเท่ากัน ตั้งแต่กว่า 5-7 แสนบาท
การแนะนำ นิสสัน ทีด้า รุ่นราคาประหยัดครั้งนี้ ไม่เพียงเจาะลูกค้าเก๋งซับคอมแพ็กต์ระดับกลางลงล่างทั่วไป แต่ยังมุ่งไปที่ตลาดฟลีต (Fleet) ที่เป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หรือองค์กร ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์แท็กซี่ ตลอดจนถึงรถเช่า หรือรถประจำบริษัท เป็นต้น
นี่คือหมัดเด็ดที่นิสสันจะส่งออกมาเขย่าตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งของไทยช่วงกลางปีนี้ ส่วนช่วงปลายปีหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง น่าจะมีรถยนต์นำเข้า(CBU) รุ่นใหม่เข้ามาเสริมตลาดอีกรุ่น ตามที่ผู้บริหารระดับสูงของนิสสันได้เปิดเผยไว้เมื่อต้นปีว่า ปีนี้จะมีรถโมเดลใหม่แนะนำ 2 รุ่น คือ ปิกอัพฟรอนเทียร์ นาวารา ซิงเกิลแค็ป ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว กับรถโมเดลใหม่อีกรุ่นที่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียด ส่วนจะเป็นมินิเอ็มพีวี “นิสสัน แกรนด์ ลิวินา” (Grand Livina) หรือในตลาดโลกเรียกรุ่น Livina Geniss ตามที่เคยวางแผนไว้หรือไม่คงต้องจับตาดูกันต่อไป
แต่ที่แน่ๆ ไม่เกินเดือนมีนาคมปีหน้า หรือปี 2552 นิสสันจะเปิดตัวเก๋งขนาดกลาง “เทียน่า” โมเดลใหม่สู่ตลาดแน่นอน ซึ่งตามแผนเดิมนิสสันจะจัดกิจกรรมทางการตลาด เตรียมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะและบุคลิกของเทียน่าใหม่ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่กลางปี ยาวไปจนถึงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2008 ช่วงปลายปี ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเบรกยอดขายคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ด้วยการเผยโฉม (หรือปิดบางส่วนเหมือนคราวเปิดตัว ฟรอนเทียร์ นาวารา) นิสสัน เทียน่า รุ่นโมเดลเชนจ์ ให้ประชาชนได้พิจาณาเลือก ก่อนจะเปิดตัวขายจริงในช่วงต้นปี 2009
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวตามแผนแต่อย่างใด เมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่ดูแลเรื่องขายและการตลาดใหม่ ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดใหม่ก็ได้ แต่กำหนดการเปิดตัว “นิสสัน เทียน่า” โฉมใหม่ ยังคงวางไว้ช่วงต้นปีหน้าเช่นเดิม
ทั้งนี้เกี่ยวกับความคืบหน้าของการพัฒนาและผลิต นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ ล่าสุดนิสสัน มอเตอร์ส ได้เผยโฉมสู่สาธารณชนที่ประเทศจีนไปแล้ว ในงานไชน่า ออโตโชว์ หรือปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ 2008 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นิสสันยังไม่ได้ให้รายละเอียดทางวิศวกรรมมากนัก นอกจากบอกเพียงว่าเทียน่าใหม่ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ แห่งความหรูหราทันสมัย และความสะดวกสบาย ด้วยเส้นสายโค้งมนสง่างาม และการตกแต่งภายในยังคงเน้นจุดเด่นที่ความทันสมัย ผ่อนคลาย และสะดวกสบายของผู้โดยสาร ซึ่งเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของเทียน่าเอาไว้ ในฐานะผู้นำในการตอบสนองชีวิตที่ผ่อนคลาย เฉกเช่นเดียวกับอยู่บ้านของผู้ขับขี่ ตั้งแต่รุ่นแรกของเทียน่ามาแล้ว
โดยเทียน่าใหม่ที่เปิดตัวมีทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นหรูใน รหัสพ่วงท้ายว่า XV ส่วนเครื่องยนต์มาครบทั้งรุ่นใหญ่อย่างวี6 ขนาด3500 ซีซี และรุ่น 2500 ซีซี ซึ่งรุ่นที่จำหน่ายในจีนจะมีรุ่น 4 สูบ 2000 ซีซี และวี6 ขนาด 2500 ซีซี ที่ได้รับการพัฒนาให้มีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น เพื่อทำตลาดควบคู่กัน ขณะที่ความต่างระหว่างรุ่นธรรมดา กับรุ่น XV ดูเหมือนนอกจากความหรูในการตกแต่งภายในแล้ว ยังมีระบบเครื่องเสียงที่ในรุ่น XV เป็นของ Bose 5.1 และมีซันรูฟแบบ Panoramic
สำหรับแผนการแนะนำสู่ตลาดยังไม่มีการเปิดเผยชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นช่วงกลางปีนี้ หรือไม่เกินไตรมาสสามในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจะทยอยแนะนำสู่ตลาดโลก รวมถึงประเทศไทยที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2552 โดยรูปลักษณ์จะเป็นเช่นเดียวกันหมด มีเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้นที่แตกต่างกัน โดยเครื่องยนต์ยังน่าจะเป็นบล็อกเดียวกับที่ทำตลาดในจีน ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาเก๋งขนาดกลางอยู่ หากรอได้ก็ควรจะเพิ่ม นิสสัน เทียน่า โฉมใหม่ เข้าไว้ในอีกทางเลือกหนึ่ง
เรียกว่าตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ยาวมาจนถึงปีนี้และปีหน้า ถือเป็นช่วงนาทีทองของค่าย “นิสสัน” หลังจากที่ซบเซามาหลายปี แต่จะฝ่าคลื่นลมการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดรถยนต์ไทยได้หรือไม่? คงต้องติดตามกันต่อไป…
